มาดามหลูหลี / Le Coup de Foudre : เมื่อฉันพบเธอ ฉันชอบแค่เธอคนเดียว

มาดามหลูหลี[email protected]

Le Coup de Foudre ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “รักแรกพบ” เป็นซีรี่ส์จีนที่ออนแอร์ใน Tencent Video ช่วง 29 เมษายน-3 มิถุนายน 2019

ส่วนคนไทยดูได้ฟรีใน WeTv แถมมีซับไทยและคอมเมนต์ขำๆ เหมือนมีเพื่อนดูอยู่ด้วย

เป็นซีรี่ส์โรแมนติกเรื่องหนึ่งที่มาแรงตั้งแต่ตอนแรกด้วยยอดวิวมากกว่า 100 ล้านวิวภายใน 13 ชั่วโมงที่เริ่มออนแอร์

สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียน Qiao Yi อีกชื่อคือ “I Don”t Like This World, I Only Like You” ซึ่งมีโครงเรื่องมาจากชีวิตรักของนักเขียนเอง

 

ละครเริ่มด้วยวิธีเล่าเรื่องชีวิตคู่ของนางเอกจ้าวเฉียวอี (ปี 2006-2019) รับบทโดยอู๋เซี๋ยน นักแสดงซึ่งแสดงได้น่ารักเป็นธรรมชาติอย่างไม่ห่วงสวย ไม่แต่งหน้าจัด คู่กับพระเอกจางอวี่เจี้ยน แสดงเป็นเหยียนม่อ ทั้งคู่เป็นเพื่อนนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนมัธยมอี้จงหนันชวน (มณฑลเหอหนาน) ที่ได้นั่งเรียนติดกัน

จ้าวเฉียวอีเป็นเด็กเรียนไม่เก่งและถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการสอบ ส่วนเหยียนม่อเป็นนักเรียนซึ่งเรียนเก่งที่สุดในชั้น ครองตำแหน่งที่ 1 ทุกเทอม เมื่อได้มานั่งคู่กับจ้าวเฉียวอีเขาได้ช่วยติวให้เธอ ดังนั้น จ้าวเฉียวอีจึงเป็นเพื่อนกับเหยียนม่อเพียงคนเดียว

ได้เห็นชีวิตวัยเรียนอันสดใสของเด็กวัยรุ่น กับชอบครูประจำชั้นสอนให้เด็กๆ มีความฝัน และความฝันของเด็กๆ ส่งผลให้ครูได้เดินไปหาความฝันของตัวเอง

เมื่อเด็กนักเรียนทะเลาะกัน ครูให้กลับไปเขียนข้อดีข้อเสียของเพื่อนมาคนละ 6 ข้อ คู่พิพาทจึงได้คิดถึงความสัมพันธ์ และรับรู้ถึงมิตรภาพ

 

ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกัน จ้าวเฉียวอีทำให้เหยียนม่อได้รู้จักเพื่อนเพิ่มขึ้น ที่ดูขำๆ คือตอนที่มีเพื่อนมาให้เขียนสมุดเฟรนด์ชิป (Friendship) เขาแทบไม่รู้จักเพื่อนๆ เลย ต้องถามเฟยต้าชวน (อัน เกอ) ซึ่งเป็นน้าชายที่เรียนชั้นเดียวกัน

เหยียนม่อเหมือนคนเหงาๆ ไม่รู้จักพูดคุย มักอยู่บ้านคนเดียว บางวันมีเฟยต้าชวนมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะพ่อมีอาชีพเป็นนักบิน ส่วนแม่เป็นนักแสดงโอเปร่า ทั้งคู่ต่างต้องเดินทางโดยตลอด แทบไม่มีเวลาอยู่กับลูก

จ้าวเฉียวอีมีพี่ชายฝาแฝดชื่อจ้าวกวนเฉา (จ้าวจื่อเว่ย) แม้ว่าแม่จ้าวซู่อิ่ง (หยานชิงหยู) จะมีสามีใหม่ แต่เถียนเว่ยหมิง (หยางเชาหรัน) ก็เป็นพ่อเลี้ยงที่ดีมากของพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ จนจ้าวเฉียวอีไม่อาจตัดใจทิ้งครอบครัวไปเพื่ออนาคตของตัวเองได้ ในยามที่ครอบครัวเกิดวิกฤต

ครอบครัวของจ้าวเฉียวอีเป็นครอบครัวชนชั้นกลางทั่วไป แต่อบอุ่นไปด้วยความรักห่วงใยกัน ได้กินข้าวมื้อเช้าด้วยกันเกือบทุกวัน จ้าวกวนเฉาจะคอยดูแลจ้าวเฉียวอีอย่างเงียบๆ แอบทำทุกสิ่งอย่างให้น้องสาว เป็นพี่ชายที่น่ารักมาก

เมื่อเรียนจบมัธยมปลาย เหยียนม่อไปเรียนต่อที่อังกฤษ จ้าวเฉียวอีผิดสัญญากับเหยียนม่อไม่ได้ไปด้วย ทั้งคู่จึงแยกจากกันอย่างค้างคาใจ

และเมื่อต้องทำงานเลี้ยงชีพ ทุกคนจึงตระหนักว่า ชีวิตในวัยเรียนคือความสุขความทรงจำอันงดงาม ส่วนชีวิตการทำงานนั้นยากกว่าการทำข้อสอบมากมาย

 

ทั้งคู่ได้มาพบกันอีกที่สถานีโทรทัศน์ซึ่งจ้าวเฉียวอีทำงาน และต้องสัมภาษณ์เหยียนม่อชายหนุ่มอัจฉริยะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจมีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge University)

ต่อมาเหยียนม่อและเฟยต้าชวนร่วมกันเปิดบริษัทอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) พัฒนาระบบแอพพลิเคชั่น (Application) เกี่ยวกับอาหารการกินของผู้สูงอายุ

จ้าวเฉียวอีลาออกจากงานที่ชอบเพื่อไปทำงานกับคนที่ใช่คือเหยียนม่อที่ปักกิ่ง เพราะครั้งนี้เธอไม่อาจละทิ้งโอกาสได้อีกแล้ว แม้ว่าปักกิ่งจะเต็มไปด้วยฝุ่นควันพิษและรถติด หากมีความรักรออยู่

อย่างที่แม่ของเฉียวอีบอกว่า “รักแท้น่ะ ไม่ใช่รอแล้วมันจะมา แต่ต้องไปไขว่คว้าด้วยตัวเอง…”

 

Le Coup de Foudre ซีรี่ส์จีนน่ารักอบอุ่นอีกเรื่องหนึ่ง เดินเรื่องได้กระชับและเรียบง่าย เล่าเรื่องย้อนหลังไปช่วงวัยรุ่นให้เห็นความสัมพันธ์ของครอบครัว พ่อ-แม่ที่ต่างเสียสละทำงานหนักเพื่อลูกๆ และความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนๆ

ในแทบทุกตอน จะมีคำคมแง่คิดสอนการใช้ชีวิตแทรกอยู่เสมอ

ตัวละครทุกคนมีบทบาทของตัวเอง มีความสำคัญในแต่ละบทบาท ช่วยเติมเต็มให้เรื่องราวสมบูรณ์สมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้ โดยไม่ได้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ได้เห็นการทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่ ที่สร้างจิตสำนึกเรื่องชุมชนน่าอยู่และการพึ่งพาของชุมชน การแยกขยะและความสะอาด เหมือนสร้างประเทศจีนในรูปแบบใหม่

ชอบคู่พระรอง-นางรองแสดงได้น่ารักสดใส ทั้งจ้าวจื่อเว่ย และมาลี่ที่แสดงเป็นห่าวอู่อีซึ่งเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทของจ้าวเฉียวอี

ส่วนพระเอกจางอวี่เจี้ยน นักแสดงที่มีลักยิ้มเล็กๆ น่ารักกับหน้าตาพื้นๆ มาก ดูไม่น่าเป็นพระเอกได้ แต่ผู้กำกับฯ คงมองเห็นแสงออร่าซึ่งเปล่งประกาย แสดงได้ดีในมาดขรึมๆ และดูจริงจังกับชีวิต ส่วนนางเอกอู๋เซี่ยนแสดงได้ดีเป็นธรรมชาติเสมือนเป็นจ้าวเฉียวอีจริงๆ

เพลงประกอบละครไพเราะทุกเพลง รวมทั้งเสียงตลกๆ น่ารักที่ใส่มาในแต่ละฉาก

ซีรี่ส์สร้างฝันและกำลังใจให้ผู้ชม กับมีคำพูดตลกๆ ว่า “อุปสรรคก็เหมือนไฟแดง ที่เราเจอแค่ชั่วคราว แต่ไฟแดงมักจะนานกว่าไฟเขียวนะ…”

ยิ่งถ้ามาเจอไฟแดงที่กรุงเทพฯ ยิ่งนานกว่าไฟเขียวมากๆ…