‘อานนท์’ ลั่น อย่าคิดรัฐประหาร ประกาศก่อนสิ้นปีมีเบิ้มอีก

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่สถานที่ชุมนุมของกลุ่มราษฎร  บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 18.15 น. ‘แอม’ บัณฑิตมหาวิทยาลัยศิลปากร ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวว่า ตนอยากขอร้องอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่าอย่าแจ้งความนักศึกษา เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัย และจะไม่ทำให้เกิดผลดีกับมหาวิทยาลัย จากนั้น วิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณเกี่ยวกับสถาบัน โดยระบุว่าหากนำงบประมาณให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหาร ราษฎรจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่นอน

จากนั้น นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนสวมชุดเป็ดขึ้นปราศรัย โดยกล่าวว่า 4 เดือนที่ผ่านมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นช่วงที่สิ่งซึ่งผุพังต่างๆถูกนำออกมาพูด วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันจุดติด จุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองเริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว วันนี้เสียงของเราทุกคนถูกตอบรับ ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ เราสามารถรวมใจให้คนจำนวนมากตั้งคำถามในสิ่งต่างๆ รวมถึงรัฐธรรมนูญซึ่งกลายเป็นของเล่นของชนชั้นนำไทย

จากนั้น นายอานนท์กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นายอานนท์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่มีการจัดตู้คอนเทนเนอร์ ลวดหนาม แต่พวกตนไม่ไปทางนั้น เมื่อเช้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่ารถติดเพราะพวกเรา ถามว่า แล้วทำไมท่านไม่เก็บ วันนี้พวกเราไม่ได้มาชุมนุมเฉยๆ แต่มีทางออกทางกฎหมาย

จากนั้น นายอานนท์ กล่าวถึงแนวทางการนำทรัพย์สินกลับมาเป็นของรัฐผ่านทางรัฐสภา โดยให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารจัดการ นำดอกผลมาช่วยประชาชนเมื่อน้ำท่วม ฝนแล้ง ข้าวยากหมากแพง โดยชวนให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อสนับสนุน

นายอานนท์กล่าวว่า สำหรับสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ วันไหนพวกตนอยากไป จะไปเอง อย่าคิดว่าแบริเออร์จะเอาอยู่ หากคิดจะนำสารเคมีมาฉีด อยากบอกว่ามีขายผ่านออนไลน์แล้วเช่นกัน และถ้าคิดจะรัฐประหาร พวกเราจะสู้แบบตาต่อตาหันต่อฟัน

“ถ้าคิดจะรัฐประหารอีก ขอวิงวอนเมียทหาร เอายาถ่ายให้กิน ลูกให้ล็อคคอพ่อไว้ ถ้ามีรัฐประหาร เราทุกคนที่รักประชาธิปไตยจะตาต่อตาฟันต่อฟัน รัฐประหารครั้งนี้จะเป็นรัฐประหารครั้งสุดท้ายในไทย ไม่เชื่อลองดู สุดท้ายถ้าจะมีอะไรผิดพลาดคือการเลือกชุด เพราะร้อนมาก แต่มันเท่ ผมยอม” นายอานนท์กล่าว และว่า ก่อนสิ้นปีนี้มีม็อบเบิ้มอีกแน่นอน

จากนั้น นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปรากฏตัวในกิจกรรม โดยกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงจากด้านล่างของรถปราศรัยซึ่งเป็นเวทีใหญ่ในตอนหนึ่งว่า ‘มาร่วมกันถีบประยุทธ์ออกไป’