ม็อบขีดเส้น‘ประยุทธ์’เซ็นลาออกใน 3 วัน ไม่งั้นราษฎรจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมเผย 2 เงื่อนไขถ้าจะถอยคนละก้าว

วันที่ 21 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุม หลังผู้ชุมนุมนัดชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนกลุ่มมวลชนเคลื่อนขบวน มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยบริเวณแยกยมราช หลังกลุ่มผู้ชุมนุมพังแบริออร์และพยายามตัดและดึงรั้วลวดหนามจนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายกันขึ้น

ล่าสุดบริเวณแยกอุรุพงษ์ กลุ่มมวลชนที่อยู่ด้านหน้า พยายามฝ่าแนวตั้งรับของตำรวจจนเกิดการเผชิญหน้ากันแล้วเกิดการผลักดันกันขึ้นสถานการณ์เป็นไปอย่างตึงเครียด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้โล่เป็นเกาะป้องกัน และพยายามประกาศของร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบอย่าใช้ความรุนแรง พร้อมเสริมกำลังเข้ามาในแนวตั้งรับ ก่อนยอมถอยให้กลุ่มมวลชนเดินหน้าต่อไปแยกยมราช

ต่อมาเวลา 20.00 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนมาถึงแยกยมราช ก่อนพบเจ้าหน้าที่ตั้งแถวเผชิญหน้ากลางถนน แต่บริเวณด้านข้างไม่มีเจ้าหน้าที่ยืนขวาง ทำให้ผู้ชุมนุมสามารถเดินลัดเลาะผ่านไปได้ และมาเจอเจ้าหน้าที่อีกชุดตั้งแนวสกัด บรรดาผู้ชุมนุมจึงขอให้เจ้าหน้าที่เปิดเส้นทาง ทำให้เจ้าหน้าที่ยอมเปิดทางและสามารถเดินผ่านบริเวณนี้มาได้ โดยไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยผู้ชุมนุมได้ไหว้ขอบคุณตำรวจ ก่อนมาตั้งแถวบริเวณบนถนนพิษณุโลก หน้าร.พ.มิชชั่น มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง

จากนั้นเวลา 20.30 น. ผู้ชุมนุมได้ทยอยเคลื่อนผ่านแยกนางเลิ้ง ไปปักหลักรออยู่ผู้ชุมนุมที่กำลังเดินมาสมทบอย่างต่อเนื่อง บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ห่างจากทำเนียบรัฐเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตั้งแถวขวางผู้ชุมนุมไว้ และมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงจอดอยู่ด้วย

ส่วนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ อีกฝั่งของทำเนียบรัฐบาล มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้กระจายไปหวังล้อมอีกด้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตั้งแถวใส่เสื้อเหลืองขวางอยู่ โดยสถานการณ์บริเวณนี้เริ่มตึงเครียด เมื่อกลุ่มเยาวชนไม่พอใจที่มีการเพิ่มกำลังชายสวมเสื้อเหลืองทยอยเข้ากระชับพื้นที่ ทำให้มีการโห่ร้อง ปรบมือไล่ โดยระบุว่าถนนนี้คือภาษีประชาชน

ต่อมาเวลา 20.45 น. ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนยังปักหลักรออยู่จุดหลักของการชุมนุม บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ท่ามกลางรถฉีดน้ำแรงดังสูงและรถตู้ตำรวจที่จอดขวางอยู่บนสะพาน สถานการณ์หลังจากนี้ถือว่าน่าจับตาถึงท่าทีของผู้ชุมนุมมากๆ โดยเจ้าหน้าที่จัดทีมชุดเจรจามาพูดคุยกับผู้ชุมนุม ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะไม่มีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม เพราะผบ.ตร.มีคำสั่งมา พร้อมขอเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมส่งตัวแทนมายื่นหนังสือและอ่านแถลงการณ์

จากนั้นเวลา 21.20 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เดินทางมายังจุดชุมนุมเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อรับหนังสือจากตัวแทนผู้ชุมนุม โดยเป็นป้ายสีขาวฉบับใหญ่ เป็นหนังสือให้พล.อ.ประยุทธ์ เซ็นลาออก มีเนื้อความว่า

วันที่ 21 ตุลาคม เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เรียน ประชาชน

ตามที่ข้าพเจ้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง บังคับขู่เข็ญ ร่างรัฐธรรมนูญโจร ต่อรองผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่ เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น

เพื่อเป็นการรักษาซึ่งเกียรติยศของตระกูล เกียรติยศของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกียรติยศของประเทศชาติ และแสดงซึ่งความเคารพต่อประชาชน ผู้ถือครองอำนาจอธิปไตย ข้าพเจ้า นายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ขอแสดงความเคารพต่อประชาชน ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมยังมีเงื่อนไข 2 ข้อ หากจะให้ถอยคนละก้าว 1.พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกจากนายกรัฐมนตรี และ 2.ต้องยุติการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทั้งหมด ถ้าภายใน 3 วัน พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ลาออก ราษฎรจะกลับมาอีกครั้ง โดยข้อเรียกร้องจะไปไกลกว่าเดิม

จากนั้นทางกลุ่มแกนนำได้ยื่นหนังสือให้กับ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. จากนั้นก็ได้ระบุว่าจะพักการชุมนุม 3 วัน หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ ก็จะกลับมาอีก

ล่าสุดหลังยื่นหนังสือแล้ว ทางแกนนำก็ได้ประกาศยุติการชุมนุม พร้อมกับชูป้ายโดยมีข้อความว่า “กลับบ้านแล้วพบกันใหม่” จากนั้นมวลชนก็ได้เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน โดยไม่มีเหตุการณูที่รุนแรงแต่อย่างใด