ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ปอท. เอาผิดเจ้าของเพจกลุ่มปลดแอก-แนวร่วมฯ

ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ปอท. เอาผิดเจ้าของเพจกลุ่มปลดแอก-แนวร่วมฯ

วันที่ 20 ตุลาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการนัดหมายการชุมนุมสาธารณะในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคอื่น ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.34 โดยใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียประเภทต่างๆ รวมทั้งมีการปลุกระดมให้ประชาชนละเมิดกฎหมายของบ้านเมือง จนเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมาแล้วนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียทั้งเพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โดยมีกลุ่มปลดแอกและกลุ่มแนวร่วมฯเป็นแกนนำในการกำหนดทิศทางการชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมายว่าจะจัดการชุมนุมในบริเวณพื้นที่ใด เวลาใด ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ที่ออกตามความใน ม.9 ประกอบ ม.11 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และเป็นการฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 4 เรื่อง ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม ซึ่งการฝ่าฝืนข้อห้ามตามประกาศดังกล่าว มีการกำหนดโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ใน ม.18 แห่ง พ.ร.ก. ดังกล่าวโดยชัดแจ้ง

นอกจากนั้น การการใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียดังกล่าว ยังเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ม.14 อีกด้วย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่สำคัญผู้ที่แชร์หรือเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งการนัดหมายการชุมนุมในแต่ละวัน ในแต่ละพื้นที่ก็ถือว่ามีความผิดตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ละเมิดกฎหมาย ก็ย่อมมีความผิดเทียบเท่ากับเจ้าของเพจโซเชียลดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมรายชื่อ ยูอาร์แอลของเจ้าของโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งเพจเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ รวมทั้งรายชื่อผู้ที่แชร์ข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูลต่างๆที่ผิดกฎหมาย ไปร้องเรียนกล่าวโทษต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อติดตามเอาเจ้าของเพจยูอาร์แอลที่ลงทะเบียนไว้ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆมาลงโทษตามควรรลองของกฎหมายต่อไป โดยสมาคมฯจะเดินทางไปร้องเรียนในวันที่ 21 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน บก.ปอท. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ชั้น 4 ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด