วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เฟซบุ๊กแฟนเพจคณะประชาชนปลดแอก ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกต่อกรณีสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อวานนี้และการปรากฎตัวของกำลังทหารเข้าพื้นที่กทม. รวมถึงกำลังพลจาก พล.ร.9 รอ.ที่มาประจำอยู่รอบพื้นที่รัฐสภา

ถึงประธานสภาและสมาชิกผู้แทนราษฎรทุกคน

.

หลังจาก “ประยุทธ์” ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ช่วงเวลารุ่งสาง 04.00 น. ของวันที่ 15 ตุลาคม 2563 พร้อมๆ กับการเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนมือเปล่า ล่าสุดก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวของทหารในเขตพื้นที่กรุงเทพอีกครั้ง พร้อมทั้งมีการเซ็นเซอร์สื่อหลายๆ สำนัก ซึ่งการกระทำเช่นนี้ พูดได้เลยว่าเป็น “การรัฐประหารเงียบ”

.

รัฐประหารเงียบคืออะไร?

.

รัฐประหารเงียบ คือ การใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมเงื่อนไขทางการเมืองต่างๆ โดยที่ไม่ยึดอำนาจนายกฯ แบบที่ประชาชนเคยเห็นในปี 49 และปี 57

.

แต่สำหรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง แถมมาด้วยการนำกองกำลังทหารเข้าควบคุมรัฐสภา สั่งให้ กมธ. ยุติการประชุมเกี่ยวกับร่างกฎหมาย มีการเซ็นเซอร์สื่อหลายสำนัก ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งหมดทั้งมวลนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “ทหาร” ที่เป็นรั้วของชาติได้เข้าควบคุมเงื่อนไขทางการเมืองในเบื้องหลังแล้วแน่นอน

.

คำถามสำคัญคือ รัฐสภา อันเป็นอำนาจฝั่งนิติบัญญัติมีความคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์นี้ การที่อำนาจนิติบัญญัติสามารถถูกควบคุมได้โดยกองกำลังทหารเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? สภาผู้แทนราษฎรจะยอมจำนนต่อการใช้กำลังพลเช่นนี้จริงๆ หรือ?

.

หากระบอบประชาธิปไตยสามารถทำงานได้โดยสมบูรณ์แบบ สภาผู้แทนราษฎรจำต้องไม่สยบยอมต่ออำนาจนอกระบบ ประธานสภาฯ ควรมีแถลงการณ์อย่างชัดเจนต่อการใช้อำนาจทางการทหารเข้าควบคุมสภา ไม่เช่นนั้นแล้วก็เท่ากับว่า สภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติแห่งนี้จะต้องอยู่ภายใต้อำนาจของทหาร และประชาชนก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจทางการทหารใช่หรือไม่?

.

ประธานสภาฯ ในฐานะผู้เป็นตัวแทนของผู้แทนราษฎรทุกคน ต้องแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า การแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติเช่นนี้เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเป็นสิ่งที่ฝั่งนิติบัญญัติควรสยบยอมอย่างนั้นหรือ?

.

ในฐานะประชาชนบนผืนแผ่นดินไทย เราขอเรียกร้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกมาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า ท่านจะยืนหยัดสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเพื่อประชาชน อำนาจนิติบัญญัติไม่ควรถูกแทรกแซงไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น หรือท่านจะหมอบราบคาบแกัว และสยบยอมต่อกองกำลังอันได้ชื่อว่าเป็นรั้วของชาติ ที่มีหน้าที่ปกป้องประชาชน ไม่ใช่การยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประชาชนเช่นนี้

.

การรัฐประหารเงียบในหลังม่านการเมืองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หากสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงก็ควรต้องยืนหยัดในการทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีวาระใดแอบแฝง

.

หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง