คนของโลก : “แดเนียลา กรีน” เอฟบีไอผู้หลงผิดตกหลุมนักรบไอเอส

แดเนียลา กรีน นักแปลของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) วัย 38 ปี ได้รับการว่าจ้างมาเพื่อให้สอดแนมสมาชิกชาวเยอรมันของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) รายหนึ่ง

แต่เธอกลับถูกดึงดูดและสนใจในตัวนักรบไอเอสคนดังกล่าวมากจนแอบเดินทางไปยังซีเรียเพื่อแต่งงานกับเขา

รวมทั้งเตือนสามีคนใหม่ของเธอด้วยว่า เขากำลังอยู่ระหว่างการถูกสอดแนม

เรื่องราวดังกล่าว ได้รับการบอกเล่าไว้ในเอกสารจากการไต่สวนพิจารณาคดีของศาลที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า กรีนที่ได้รับสถานะด้านความมั่นคงในการเข้าถึงข้อมูล “ชั้นความลับสุดยอด” บอกกับเพื่อนร่วมงานของเธอที่สำนักงานของเอฟบีไอในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนว่า เธอจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอที่เยอรมนีประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2014

แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เธอกลับบินไปยังตุรกีและลักลอบข้ามพรมแดนเข้าไปยังซีเรียเพื่อพบกับนักรบไอเอสคนดังกล่าวและแต่งงานกับเขา

ชื่อของสมาชิกกลุ่มไอเอสรายนี้ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงในเอกสารของศาล แต่ซีเอ็นเอ็นระบุว่า เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายธรรมดาทั่วๆ ไป

เขาคือ เดนนิส คุสแปร์ต อดีตแร็พเปอร์ชาวเยอรมันผู้อื้อฉาวที่กลายมาเป็นกระบอกเสียงของไอเอส

 

ในเยอรมนีเขามีชื่อในวงการเพลงแร็พว่า เดโซ ด็อกก์ ในซีเรียเขาเป็นที่รู้จักในชื่อ อาบู ทัลฮา อัล-อัลมานี

เขาเคยแต่งเพลงยกย่อง โอซามา บิน ลาเดน อดีตผู้นำองค์กรก่อการร้ายอัลเคด้า และข่มขู่เอาชีวิตอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ

คุสแปร์ต ถูกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐขึ้นบัญชีว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2015 โดยระบุว่าเขาทำหน้าที่เป็นผู้สรรหานักรบไอเอสจากประเทศที่พูดภาษาเยอรมัน และยังปรากฏตัวในคลิปวิดีโอของไอเอสมากมาย ซึ่งรวมถึงในคลิปหนึ่งที่เขาถือศีรษะของศัตรูที่เพิ่งถูกตัดออกจากลำตัวอีกด้วย

ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคุสแปร์ตหลอกล่อกรีนอย่างไร แต่คำให้การในศาลระบุว่า ทั้งคู่อาจจะติดต่อสื่อสารกันผ่านบัญชีสไกป์ส่วนตัวที่กรีนไม่ได้รายงานให้เอฟบีไอรับรู้

 

กรีนเกิดในเชโกสโลวะเกียและแต่งงานกับทหารสหรัฐ เริ่มต้นทำงานกับเอฟบีไอในปี 2011 และไม่เคยมีปัญหาใดๆ เลยจนกระทั่งการหายตัวไปอย่างลึกลับของเธอเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2014

แต่หลังจากที่เธอเดินทางไปยังซีเรียเพื่อแต่งงานกับคุสแปร์ตเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2014 เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น เธอก็เริ่มหาทางที่จะหนีออกมา

“ครั้งนี้ฉันก่อเรื่องยุ่งยากมากมายหลายสิ่งหลายอย่างเลย” เธอระบุไว้ในอี-เมลที่ส่งถึงเพื่อนคนหนึ่งขณะอยู่ในดินแดนของไอเอสเมื่อเดือนกรกฎาคม 2014

เธอระบุไว้ในอี-เมลฉบับถัดมาว่า “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือทั้งหมดนี้มันสายเกินไปแล้ว”

ในอี-เมลอีกฉบับ เธอยอมรับว่าเธอคงถูกจำคุกหลายปีหากเธอเดินทางกลับสหรัฐ

เอกสารของศาลไม่ได้ระบุว่าเธอหนีออกมาจากดินแดนของไอเอสได้อย่างไร แต่เมื่อราวต้นเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนี้ เธอเดินทางกลับถึงสหรัฐและถูกจับกุมตัวในทันที

เธอยอมรับสารภาพผิดในข้อหาให้ข้อมูลเท็จในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายนานาชาติ จากการที่เธอโกหกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอเรื่องแผนการเดินทางของเธอ และให้ความร่วมมือกับพนักงานอัยการของสหรัฐ

ทำให้เธอได้รับการผ่อนผันให้รับโทษสถานเบาและถูกจำคุกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น และเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว