วันที่ 7 สิงหาคม 2563 สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า รัฐบาล ฮ่องกง แถลงยกระดับมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาด โรคโควิด-19 โดยยกเว้นค่าบริการตรวจหาเชื้อให้กับกลุ่ม แรงงานแม่บ้าน หรือ เมด ชาวต่างชาติ

หลังพบแม่บ้านชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 2 คนติดไวรัสมรณะ ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าจะกลายเป็นคลัสเตอร์โควิด-19 กลุ่มใหม่ในฮ่องกง เช่นเดียวกับกรณีการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวในหอพักแรงงานในสิงคโปร์

สำหรับหญิงแรงงานชาวอินโดฯ คนแรก เริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ต่อมาจึงไปหาหมอและพบว่าผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ทั้งนี้ หญิงคนดังกล่าวเพิ่งลาออกจากงานเมื่อวันที่ 20 ก.ค. และอยู่ระหว่างหางานใหม่ โดยในช่วงวันที่ 20-21 ก.ค. พักอยู่กับบริษัทจัดหางานนอร์ธพอยต์

วันที่ 21-25 ก.ค. ย้ายไปอยู่หอพักแรงงานหว่านไจ๋บนถนนล็อกฮาร์ต ซึ่งมีแรงงานต่างชาติ อีก 28 คนอาศัยอยู่ด้วยกัน วันที่ 30-31 ก.ค. ย้ายไปอยู่ที่บริษัทจัดหางานในอาคารคอสเวย์เบย์ คอมเมอร์เชียล กับแรงงานต่างชาติอีก 4 คน

ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่ากำลังสอบสวนว่าหญิงอินโดฯ พักอยู่ที่ไหนระหว่างวันที่ 26-29 ก.ค. รวมถึงเร่งตามหาแรงงานต่างชาติทั้งหมดที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเพื่อตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่

ขณะที่หญิงแรงงานชาวอินโดฯ ที่ตรวจพบเชื้อโควิดรายที่ 2 อาศัยอยู่ที่หอพักแรงงานในอาคารเฉิงหว่านกับแรงงานแม่บ้านต่างชาติ 6 คน เมื่อเดือนก.ค. ก่อนย้ายไปอยู่กับบริษัทจัดหางานแห่งใหม่เมื่อวันที่ 1 ส.ค. และตรวจพบในเวลาต่อมาว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19