สิระ ลั่น หาก ‘บอส อยู่วิทยา’ ไม่มาแจงกมธ. เจอคำสั่งเรียก ถ้าไม่มาอีก ถูกดำเนินคดี

“สิระ” ลั่น หาก ” บอส อยู่วิทยา” ไม่มาแจง กมธ.กฎหมาย เกิน 2 ครั้ง เจอออกคำสั่งเรียก ชี้ หากไม่มาอีกเจอดำเนินคดีแน่ ขอปชช.เชื่อมั่น ยันกมธ.พร้อมตรวจสอบให้ความกระจ่างคดี ไม่มีช่วยเหลือใครแน่

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ในวันที่ 5 สิงหาคม จะมีการประชุมร่วม 3 กมธ.คือกมธ.กฎหมายฯ กมธ.ศาลฯ และกมธ.ตำรวจ เพื่อพิจารณาคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส โดยมีผู้ชี้แจงทั้งตำรวจ และอัยการ รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้ลงนามไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ รวมทั้งพยานใหม่ 2 ปาก นอกจากนี้ ได้เชิญ กมธ.กฎหมายฯ สนช. และเจ้าหน้าที่ชวเลข ที่บันทึกการประชุม กมธ.มาชี้แจงด้วย ที่สำคัญ กมธ.ได้เชิญ นายวรยุทธ และทนายของนายวรยุทธด้วย หาก นายวรยุทธ์และทนาย ไม่ยอมมาชี้แจงต่อกมธ.2 ครั้ง ก็จะออกคำสั่งเรียกตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก แต่ถ้าไม่มาอีก ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้นายวรยุทธ เข้ามาชี้แจงกับ กมธ.เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประชาชนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

นายสิระ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กมธ.จะตรวจสอบให้ความกระจ่างกับคดีนี้ ไม่มีการช่วยเหลือกัน หากไม่กระจ่างก็จะตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง ดังนั้น ในวันที่ 5 สิงหาคม ก็จะได้คำตอบว่า การลงนามสั่งไม่ฟ้องนั้นใช้ดุลยพินิจอะไร รวมทั้งเรื่องยาเสพติดที่ยังติดใจกันอยู่ และการวิ่งเต้นแทรกแซงมีหรือไม่ โดยในการประชุมวันดังกล่าว กมธ.จะมีการไลฟ์สด เปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อให้คลายข้อสงสัย

ส่วนการรื้อคดีใหม่นั้น นายสิระ กล่าวว่า ต้องดูว่าพยาน 2 ปากที่เพิ่งปรากฎใหม่นั้น ให้การเท็จหรือไม่ หากให้การเท็จก็ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่สามารถยื่นฟ้องศาลใหม่ได้ และหากการคำนวณความเร็วของรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเท็จก็ถือว่าเป็นพยานใหม่เช่นกัน เพราะเป็นข้อมูลเท็จ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า นักวิชาการวิเคราะห์ใช้สูตรคำนวณความเร็วแบบมีอคติ ตนเจอมาหลายครั้งแล้ว นักวิชาการส่วนใหญ่มีอคติ จึงต้องพิสูจน์กันให้ได้ โดยกมธ.จะลุยเอง

นายสิระ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตำรวจยืนยันต่อที่ระชุม กมธ.เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่าประเด็นพบสารแปลกปลอมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร่างกายของนายวรยุทธนั้น มีอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น แต่เบื้องต้นจากการพูดคุยทราบว่า ตำรวจกำลังจะตั้งข้อหานี้ขึ้นมาใหม่ ในเฉพาะส่วนของยาเสพติด เพราะมีหลักฐานจากการตรวจสอบของโรงพยาบาลรามาธิบดีชัดเจน