เทศมองไทย : โควิด-19 “อิมพอร์ต” กับการระบาดรอบสอง

การเกิดความผิดพลาดบกพร่องขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ระบบการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศของไทย ทั้งในกรณีของกลุ่มทหาร 31 นายจากอียิปต์ หรือกรณีของอุปทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตซูดาน ไม่เพียงทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

เพราะก่อให้เกิด “บุคคลกลุ่มเสี่ยงสูง” ที่ต้องตรวจหาเชื้อและกักกันโรคหลายสิบคน กิจการหลายแห่งในจังหวัดระยองที่เพิ่งเริ่มเปิดดำเนินการมาได้ไม่นานต้องปิดตัวลงอีกครั้งเท่านั้น

ยังก่อให้เกิดความวิตกกังวลถึง “การแพร่ระบาดระลอกที่สอง” จนกลายเป็นประเด็นให้มีการพูดถึงเป็นกระแสกันขึ้นมาอีกด้วย

ทั้งกรณีทหารอียิปต์ และกรณีอุปทูตซูดาน กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับ ศบค.ที่ต้องออกมาขอโทษประชาชนฐานเป็นคน “การ์ดตก” เสียเอง ทั้งๆ ที่กำชับทุกคนอยู่ทุกวันว่า อย่าพลั้งเผลอเป็นอันขาด

แล้วก็สะท้อนข้อเท็จจริงในทางวิชาการด้านระบาดวิทยา ที่ระบุว่า การบังคับใช้มาตรการเข้มงวดที่ฝืนธรรมชาติของคนเรานั้น ไม่อาจเป็นไปได้ตลอดเวลา

 

กรณีที่เกิดขึ้นในไทยนี้ เคยเกิดขึ้นให้เห็นกันมาแล้วในบางประเทศ อย่างเช่นที่ประเทศจีน เคยมีปัญหาในการบังคับใช้มาตรการกับทูตานุทูต หรือแม้แต่ในออสเตรเลียก็เกิดกรณี “วีไอพี” (มีบางคนบอกว่า คำนี้ย่อมาจาก “ไวรัส อิมพอร์ต เพอร์ซัน” ซึ่งเข้าท่าทีเดียว) ขึ้นเช่นเดียวกัน

นักวิชาการเขาเรียกสถานการณ์ทำนองนี้ว่า “ภาวะล้า” จากการล็อกดาวน์ หรือล็อกดาวน์สเตรนจ์ เกิดขึ้นได้เมื่อต้องฝืนใจทำอะไรซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ก็เริ่มหย่อนเริ่มยานกันตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ควบคุม หรือฝ่ายที่ถูกควบคุม

เพราะต่างฝ่ายต่างก็ตึงตัว เครียดเขม็งมาด้วยกันทั้งนั้น ถูกกดดันทั้งจากการต้องทำอะไรๆ ฝืนความต้องการของตนเองและจากความกลัวการแพร่ระบาด

ผู้เชี่ยวชาญทางระบาดวิทยา รวมทั้งองค์การอนามัยโลก ถึงได้ยืนยันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรว่า มาตรการล็อกดาวน์ หรือมาตรการเข้มงวดทั้งหลาย ไม่ควรทำแบบยืดยาวนัก

ที่ควรทำคือเข้มงวดแล้วผ่อนคลายบ้างเป็นระยะๆ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็หันกลับมาเข้มงวดใหม่อีกครั้ง สลับกันไปเช่นนี้

 

นักวิชาการเหล่านี้ยังเคยเตือนให้ระมัดระวังการเกิดการแพร่ระบาดรอบสอง หรือ “เซกันด์เวฟ” มาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ

สัญญาณแสดงถึง “เซกันด์เวฟ” ที่ว่านี้ปรากฏให้เห็นในหลายประเทศ โดยเฉพาะเมื่อประเทศเหล่านั้นเริ่มผ่อนความเข้มงวด ลดมาตรการรุนแรงในการยับยั้งการแพร่ระบาดลง เพื่อเปิดให้มีการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น

อี ฮวน จง ศาสตราจารย์เกียรติคุณจากโรงพยาบาลเด็ก ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เตือนเอาไว้เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า การผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดก่อนกำหนดถึง 1 เดือนที่เกาหลีใต้ “ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดออกไปในวงกว้างกว่าเดิมและรวดเร็วกว่าเดิม เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ในเกาหลีใต้

ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ยังสำทับด้วยว่า “การระบาดรอบที่สองสามารถเกิดขึ้นในเวลาใดก็ได้ จนกว่าวัคซีนจะมีให้ใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือจนกว่าอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ของคนในประเทศติดเชื้อ” แล้วมีแอนติบอดี้ ที่ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อซ้ำอีก จนกลายเป็น “เฮิร์ดอิมมูนิตี้” หรือ “ภูมิคุ้มกันหมู่” ขึ้นมาได้

 

อาการผวาของประชาชนในจังหวัดระยองและความกังวลของคนไทยทั้งประเทศ หลังเกิดกรณีอียิปต์กับซูดานขึ้น จึงเป็นความกลัว ความกังวลที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างยิ่ง

ไมเคิล เบเกอร์ ศาสตราจารย์วิชาสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยโอตาโก ในกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ บอกว่า “เซกันด์เวฟ” เป็นคำที่ถือกำเนิดมาจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปนเมื่อปี 1918 ที่ระบาดเป็น 3 ระลอกด้วยกัน โดยส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในช่วงการระบาดระลอกที่สอง

เบเกอร์ยืนยันว่า การระบาดระลอกสองจะมีหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ประเทศที่ระมัดระวังจนไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนภายในอย่างเช่นนิวซีแลนด์ โอกาสเกิด “เซกันด์เวฟ” ก็ยากตามไปด้วย

“หลายชาติในเอเชียใช้วิธีระมัดระวังแบบเดียวกับนิวซีแลนด์ ดังนั้น แม้หลังล็อกดาวน์จะเกิดกรณีติดเชื้อขึ้นมาบ้าง ก็ไม่มากมายจนเกินกำลัง” ตรงกันข้ามกับบางประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่การระบาดภายในจากระลอกแรกยังวนเวียนอยู่มากมาย ห่วงโซ่การระบาดใหม่ก็เริ่มต้นได้ง่ายและเร็วมาก

ศาสตราจารย์เบเกอร์ชี้ว่า ระบบรับมือที่วางเอาไว้ก็สำคัญอย่างยิ่ง ระบบที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ มีภาวะผู้นำที่ดี มีการตอบสนองต่อเหตุอย่างฉับไว เด็ดขาด

แล้วยกตัวอย่างจีน ที่ศาสตราจารย์เบเกอร์เชื่อว่า มีโอกาสสูงยิ่งที่ “อิมพอร์ต เคส” จะก่อให้เกิดการระบาดภายในระลอกใหม่ แต่ระบบรับมือและตอบสนองที่จีนวางเอาไว้ เช่น การตั้งจุดตรวจ 24 ชั่วโมงในชุมชนท้องถิ่นที่เกิดการระบาด, การปิดโรงเรียนและกำหนดให้ประชาชนรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด

ก็ช่วยให้สามารถยับยั้งและควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสูงเช่นเดียวกัน

คนไทยในยามนี้ก็คาดหวังเช่นนี้จากรัฐบาลเช่นเดียวกันครับ