จุรินทร์ นำประกันรายได้ มันสำปะหลังโลละ2.50บาท-ข้าวโพดโลละ 8.50 บาท เข้า ครม. อังคารนี้ ช่วยเกษตรกรร่วมล้านครัวเรือน

จุรินทร์ นำ ประกันรายได้ มันสำปะหลัง-ข้าวโพด เข้า ครม. อังคารนี้ ยืนราคาประกันรายได้ มันสำปะหลังกิโลละ 2.50บาท ข้าวโพดกิโลละ 8.50 บาท ช่วยเกษตรกรร่วม 1 ล้านครัวเรือน

11 กรกฎาคม 2563 เวลา 9.30 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันอังคาร ที่14 กรกฎาคม 2563 หลังจากขั้นตอนการเตรียมเอกสารของกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์มีความพร้อมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำเรื่องที่อนุมัติผ่านมติคณะกรรมการ 2 ชุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เข้าครม.เพื่อขออนุมัติทันที คือ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสําปะหลัง (นบมส.) ครั้งที่ 2/2563 เห็นชอบให้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ปี 2563/64 โดยราคาและปริมาณประกันรายได้ เท่ากับปีที่ผ่านมาคือ มันสําปะหลัง เชื้อแป้ง 25% กก.ละ 2.50 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตัน และมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 2/2563ให้มีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64 ที่ความชื้น 14.5% ราคา 8.50 บาท/กก. ปริมาณไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ และไม่ซ้ำแปลง

นางมัลลิกา กล่าวว่า มติของคณะกรรมการบริหารทั้งสองชุดนี้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กว่า 4.5 แสนราย และมันสำปะหลังกว่านี้ 5.2 แสนราย รวมการช่วยเหลือเกษตรกรร่วม 1 ล้านครัวเรือน เช่นเดียวกันกับปีก่อน ทั้งนี้เป็นนโยบายรัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์ผลักดันและเป็นหนึ่งในเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งได้ร่วมแถลงต่อรัฐสภาไป เมื่อ 25 กรกฎาคม 2562 ทั้งนี้รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืชหลักทั้ง 5 ชนิด โดยข้าว-ยางพารา ก็ผ่านคณะกรรมฯมาแล้วเช่นกัน และปาล์มน้ำมันจะตามมา ทั้งนี้ยังเหลือส่วนต่างอีกหลายงวดในเฟสแรก

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรเดือนหน้ามาครบหนึ่งปี และการนำเข้าอนุมัติในคณะรัฐมนตรี เป็นขั้นตอนการทำงานปกติของรัฐบาลซึ่งโครงการประกันรายได้เกษตรกรช่วยครัวเรือนเกษตรกรได้รวมกันมากกว่า 7.2 ล้านครัวเรือน ถือว่ารัฐบาลได้ช่วยเกษตรกรเต็มเม็ดเต็มหน่วยและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากทั้งภาคเอกชน เกษตรกรตัวแทนเกษตรกร สมาคมเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง แต่ถัดจากนี้ไปจะเดินหน้าการพัฒนาคุณภาพของผลผลิตและมีการปรับตัวทางด้านการตลาด-พาณิชย์ ซึ่งจะใช้กลไกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์เดินหน้าวิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพานิชย์ตลาด” และใช้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ขณะนี้นายจุรินทร์กำลังเตรียมตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนชุดใหญ่จากทั้ง 2 กระทรวง นอกจากนั้นยังมีคณะทำงานขับเคลื่อนพันธกิจร่วมอีก 4 ด้านเชื่อว่าจะเป็นการสร้างงานสร้างคนสร้างรายได้เพิ่มให้กับภาคเกษตร

” ซึ่งวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ที่โรงแรมเอราวัณ กรุงเทพฯ นายจุรินทร์ร่วมกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะนำ 2 กระทรวงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ต่อไปโดย 16 นี้ จะเน้นภารกิจในส่วนของอาหารไทยอาหารโลก สร้างโอกาสให้ประเทศไทยในเวทีโลกและให้ไทยเป็นครัวของโลกหลังภาวะโควิด-19″