ฟ้า พูลวรลักษณ์ | เหตุการณ์โควิด ทำให้ทัศนะทางการเมืองของฉันเปลี่ยนไป

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก เล่มใหม่ (๖๔.๑๘)

เหตุการณ์โควิด ทำให้ทัศนะทางการเมืองของฉันเปลี่ยนไป

คือฉันไม่ใช่ซ้ายหรือขวาอีกแล้ว ฉันสนใจแต่ว่า ใครปกป้องโลกนี้ได้ดีกว่า

หากเผด็จการปกป้องโลกนี้ได้ดีกว่า ฉันก็จะเลือกเผด็จการ

บัดนี้ เรามีปัญหาที่ใหญ่กว่า และลึกซึ้งกว่า ทั้งนี้เพราะฉันเพิ่งมองออกว่า ฝ่ายซ้ายหรือขวา ล้วนมีอคติแรงกล้า จนบดบังทุกสิ่ง

ฝ่ายขวาใจแคบ และชอบใช้อำนาจบีบบังคับ

แต่ฝ่ายซ้ายเองก็ใจแคบไม่แพ้กัน อาจหนักกว่า ดื้อรั้น และชอบทำตัวเอง

ที่จริงแล้วฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายคือสองมหาสมุทร ต่อให้อีกหนึ่งมหาสมุทรกว้างใหญ่กว่า แต่ขึ้นชื่อว่าสองมหาสมุทรแล้ว ก็สามารถเอาชนะกันได้ หากทำให้ถูกวิธี ถูกกาลเทศะ

ฉันยกตัวอย่าง การทำตัวเองของฝ่ายซ้าย เช่น คณะก้าวหน้าหรือพรรคอนาคตใหม่เดิม ซึ่งฉันเคยรัก พวกเขาจัดคอนเสิร์ตหาเงินมาช่วยคนเดือดร้อนเพราะโควิด

แต่ทว่าดูผลของสิ่งที่พวกเขาทำ เขาทำให้คนที่ไม่เดือดร้อนจริงๆ ได้เงิน ส่วนคนเดือดร้อนจริงๆ ก็ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้น พวกเขาจะทำไปทำไม ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ มันสะท้อนอะไร

เช่น ใครคนหนึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาไม่ได้เดือดร้อนจริงๆ เขาพออยู่ได้ แต่ทว่าเพราะโควิด เขาขาดรายได้ เขาอยากได้เงิน เขาก็รีบสมัครเลย เพราะงานนี้ ใครสมัครก่อนได้ก่อน

แต่ทำไมคนที่ไม่ได้เดือดร้อนอย่างแท้จริง กลับได้ หากตอบว่า นี้คือความต้องการของคณะก้าวหน้า

ก็ต้องย้อนกลับมาถามว่า นี่ไม่ใช่ความหยิ่งยโสหรอกหรือ ทำแบบนี้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คะแนนเสียงของพวกคุณจะไม่ลดลงหรือ เพราะพวกคุณทิ้งมวลชนส่วนใหญ่ไปแล้ว

มองดูแล้ว เหมือนพวกเขานึกไม่ออกว่าจะช่วยคนยากจนได้อย่างไร จึงจะเท่ จึงจะสง่างาม อย่างให้คุณช่อไปนั่งเย็บหน้ากากผ้า แม้จะน่ารักดี แต่ทว่าก็ดูเชยใช่ไหม

งั้นหาอะไรที่เท่ แต่ทว่าสิ่งเท่ ไม่แน่ว่าจะได้ผล หากคนเราทำอะไร ติดแต่ว่า ต้องดูใหม่ ต้องดูก้าวหน้า มันคือคนที่ติดในเทคโนโลยี คือชอบแบบใหม่ นี่ไม่ใช่การดูถูกโลว์เทคหรอกหรือ

ที่จริงโลว์เทคและไฮเทค ต้องเคียงคู่กัน ต้องร่วมมือกันในยามวิกฤต

อย่างคุณปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งคนนี้ฉันชอบมาก บางครั้งฉันชอบมากกว่าคุณธนาธรเสียอีก ด้วยเพราะเขามีอุดมคติ มีหลักคิดที่ดี มีความหลักแหลม

แต่วันนี้เขาฝ่อตัว เหมือนคนอกหัก นับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ในบรรดาผู้นำพรรคอนาคตใหม่ เขากลับได้รับผลกระทบหนักสุด เหมือนกับว่า คนอื่นยังพอทำใจได้ แต่เขาทำใจไม่ได้

ด้วยความที่เขามีอุดมคติสูงสุด เขาจึงเจ็บปวดสูงสุด

และวันนี้เขาเหมือนไปไม่เป็น ยิ่งสู้ เส้นทางของเขายิ่งเรียวเล็กลง

ฉันสมมุติตัวเองว่าเป็นผู้มีอำนาจ ฉันควรเลือกเส้นทางแบบไหนนะ

มีความเย้ายวนให้ฉันเป็นเผด็จการ เพราะฉันจะทำอะไรได้มาก ในช่วงเวลา ๒๐-๓๐ ปีที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เพราะหากเราคิดถึงคนไทยอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่ มันต้องใช้ระบบเผด็จการ จึงจะได้ผล

แต่ทว่าระบบเผด็จการก็มีข้อเสียของมันเอง มันทำให้หลง มันคือสมมุติซ้อนสมมุติ

แต่หากฉันเลือกเส้นทางเสรีประชาธิปไตย ฉันจะไปไหนได้นะ ในเวลาของหนึ่งชีวิตฉัน มันอาจไม่ไปไหนเลย ด้วยเส้นทางจะอ้อม จะยาวนาน ปัญหาแต่ละวันจะไม่สิ้นสุด แต่ละปัญหาต้องพึ่งพาคนอื่นไม่สิ้นสุด

แต่หากฉันรอได้ มันก็มีข้อดีเช่นกัน นี้คือการต่อสู้ที่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงสุด หากให้ฉันสรุป ก็จะเห็นว่ามีข้อเสียทั้งคู่ และไม่มีทางเลือกที่สาม

โลกเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยในฮ่องกง ก่อนโควิด พวกเขาออกมายังพอได้อยู่ แต่หลังโควิด ออกมาคือหาที่ตาย ด้วยพลัง ฐานเสียงของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว

สถานการณ์วันนี้ พวกเขาเป็นรองแล้ว และเป็นรองมากด้วย

การออกมา คือการหาที่ตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็รออยู่ และรอมานานแล้ว

ที่จริงเมื่อเกิดโควิด มนุษย์ต้องเปลี่ยน หากมนุษย์คนไหนไม่เปลี่ยน คือผิดแล้ว

ฝ่ายขวาคับแคบ ก็พอเข้าใจอยู่ แต่ฝ่ายซ้ายก็คับแคบด้วยเช่นกัน ต่างอาการ แต่คับแคบเหลือเกิน หมกมุ่นกับไอเดียของตัวเอง มองไม่ออกว่าโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

พอมีเวลาว่างก็กลับมาที่เดิม เหมือนนักฟุตบอลอาชีพ พอมีเวลา ก็กลับมาเล่นบอลตามเดิม ลืมไปว่า ทั้งวงการกีฬาเปลี่ยนไปแล้วในชั่วข้ามคืน

หากคับแคบแบบนี้ จะแก้ปัญหาของโลกคงไม่ได้

ขนาดการแก้ปัญหาโควิด เพราะรัฐบาลเป็นฝ่ายขวา ฝ่ายซ้ายก็คอยเยาะเย้ย ถากถาง หาเรื่อง ขนาดเลข ๐ กลับโดนล้อเลียน ดูถูก เหมือนว่ามันเป็นตัวเลขชั่วร้าย

คุณอาจพูดได้ว่าเลข ๐ นี้หมูๆ ใครๆ ก็ทำได้ หากไปบีบบังคับ หรือล็อกดาวน์ประเทศ แต่คุณไม่ถามประเทศยี่สิบอันดับต้นๆ ที่ติดโควิด ว่าเลข ๐ นี้ง่ายดายตรงไหน พวกเขาอยากได้มันใจแทบขาด แต่ทำไม่ได้ ที่เราทำได้อย่างง่ายดาย เพียงเพราะเรามีเส้นทางชีวิตของเราแบบนี้ มีพฤติกรรมแบบของเรา ไม่ใช่ว่าดีงาม น่าเอาเยี่ยงอย่าง

แต่มันคือมัน ประโยคนี้คือความหมายของเอกลักษณ์ ที่คนอื่นอยากเลียนแบบ ก็ทำไม่ได้

ฉันยังคงมีความเห็นว่า การเมืองพักได้ ไม่ต้องทำตลอด ด้วยในโลกนี้ มีบางปัญหาใหญ่กว่า และการพักนี้ ก็ไม่ได้ตลอดไป อาจสามเดือน หกเดือน นานเท่าที่มันจำเป็น แล้วค่อยกลับมาใหม่

แต่การเมืองของคุณก็คือการเมืองที่พักไม่ได้

หากคุณเป็นฝ่ายวังหน้า ก็จะเป็นฝ่ายวังหน้าจนตาย ต่อให้พม่ายกมาประชิดกำแพงเมือง ก็จะยังต่อสู้กับฝ่ายวังหลัง เรียกว่าต้องการต่อสู้ศึกสองด้าน โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่สนใจ ไม่มองโลก

ความใจแคบนี้เอง ที่ทำให้ฉันหมดหวัง แบบนี้ เท่ากับว่าเราจะฝากอนาคตของโลก ให้กับฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวาไม่ได้ มันก็ใจแคบพอกัน มันก็คือชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอคติเท่ากัน คิดว่าตัวเองดี ฝ่ายตรงข้ามเลว ก็เท่านั้น


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่