โควิดเล่นซ่อนหาที่หวู่ฮั่น Catch Me If You Can

หวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยเป็นเมืองอุตสาหกรรมใจกลางประเทศจีนประชากรราว 11 ล้านคน เล็กกว่า กทม ในฤดุหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด ต่อมารัฐบาลจีนสั่งปิดเมืองไม่ให้คนเข้าออกและให้ออกจากบ้านได้อย่างจำกัดตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม เมื่อโรคสงบลง ผู้ป่วยใหม่รายสุดท้ายวันที่ 8 เมษายน หรือราว สองเดือนครึ่ง รัฐบาลจีนก็เริ่มทยอยอนุญาตให้ประชาชนมีกิจกรรมสาธารณะ ประชาชนได้ออกมาชื่นชมปลายฤดูใบไม้ผลิได้ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูร้อน

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 ได้ข่าวว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ที่หวู่ฮั่น วันนี้ซึ่งอากาศกำลังสบาย ๆ อุณหภูมิ 22 C ความชื้น 68% ข่าวก็มาถึงไทยว่าจำนวนผู้ป่วยก็เพิ่มขึ้น 6 ราย และสื่อมวลชนรายงานว่ารัฐบาลสั่งให้ตรวจหาผู้ติดเชื้อแบบปูพรมนั่นคือตรวจทุกคนในเมืองให้เสร็จภายใน 10 วัน เพื่อกวาดล้างโรคโควิดให้สิ้นไป

ข่าวนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่งในทางระบาดวิทยา ความสำเร็จของหวู่ฮั่นในการควบคุมโรคยกแรก กำลังถูกโควิดเอาคืนในยกสองละหรือ ประการที่สอง รัฐบาลจีนกำลังจะดำเนินการ active case finding ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วิธีการนี้จะได้ผลหรือไม่

 

ผมไม่อาจจะพยากรณ์เรื่องทั้งสองได้ แต่จะคุยถึงแง่คิดทางระบาดวิทยาดังนี้

ข้อมูลการระบาดของโรคเป็นเหมือนคลื่นที่วิ่งอยู่บนทะเลแห่งกาลเวลา สิ่งที่เราได้รับทราบในขณะนี้ น่าจะมีการเริ่มต้นของการระบาดมาอย่างน้อยสองสัปดาห์แล้ว ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อคนเราได้รับเชื้อโควิด เชื้อจะเข้าไปในร่างกายฟักตัวอยู่ราว 1 สัปดาห์ (อาจจะสั้นหรือยาวกว่านั้น บางรายนานถึงสองสัปดาห์) ก่อนที่จะมีอาการ เมื่อมีอาการในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยอาจจะไม่ได้คิดว่าตนเองติดเชื้อโควิด มักจะรอจนกว่าอาการมากจึงไปพบแพทย์ แพทย์จะวินิจฉัยและยืนยันว่าเป็นโรคนี้ได้ต้องล้วงจมูกไปลึก ๆ แล้วส่งตัวอย่างที่ได้ไปห้องปฏิบัติการซึ่งต้องใช้เวลาในการทดสอบ และ รายงาน กว่าราชการจะออกข่าว และข่าวมาถึงเราก็คงจะราว ๆ สองสัปดาห์ดังกล่าว เรากำลังจับเงาในอดีตของโควิด การแพร่เชื้อในปัจจุบันเป็นอย่างไรไม่รู้ได้

ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ก่อนตนเองจะมีอาการ (pre-symptomatic carrier) เมื่อรวม ๆ กับการแพร่เชื้อในช่วงมีอาการแล้วก็หลายวันอยู่เหมือนกัน ถ้าผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปพบผู้คนมาก การแพร่เชื้อก็จำกัด แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เชื้อก็อาจจะแพร่ไปอย่างกว้างขวางแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นเราน่าจะเห็นจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในวันต่อ ๆ ไปเพิ่มขึ้นไปอย่างน้อยอีกระยะหนึ่ง

ผมเชื่อว่าความสำเร็จของการควบคุมการระบาดโควิดรอบสองของหวู่ฮั่น ไม่ได้อยู่ที่การตรวจปูพรม แต่อยู่ที่การตะครุบตัวผู้รับเชื้อและแยกกักตัวได้ทันท่วงทีในระยะแรก ๆ ถ้าพลาดจุดแรกแล้วหวู่ฮั่นก็อาจจะแตกรอบสองถึงแม้จะมีการตรวจปูพรมก็จะแก้ปัญหาไม่ได้สะเด็ดน้ำ

ผมไม่เชื่อว่าการตรวจปูพรมจะกวาดล้างโรคได้หมด เนื่องจากจะมีประชากรจำนวนหนึ่งซึ่งเชื้อเพิ่งจะเข้าไปในร่างกาย นอกจากจะไม่มีอาการให้สงสัยแล้ว การตรวจก็จะไม่พบเชื้อ เราเรียกว่าผลลบปลอม ตัวอย่างผู้ป่วยแรงงานต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองแล้วถูกกักขังที่ อำเภอ สะเดา จังหวัดสงขลา แม้อยู่ด้วยกันตลอดเป็นเวลานานนับเดือน แพทย์ก็ตรวจพบเชื้อในผู้ต้องขังกลุ่มนี้เพียง 80% ในกลุ่มที่ตรวจไม่พบเชื้อ 5 ราย ต่อมาอีกราว 1 สัปดาห์ตรวจซ้ำ ก็พบเชื้อ 1 ราย โชคยังดีที่ผู้ป่วยอยู่ในห้องขัง การแพร่เชื้อออกไปภายนอกจึงไม่เกิดขึ้น

แต่ในสังคมเปิดภายนอก ผลลบปลอมจะเป็นปัญหาสำคัญของการแยกกักตัวผู้ติดเชื้อโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประวัติสัมผัสโรคมาก่อน

 

เมื่อการตรวจปูพรมละลอกแรกผ่านไป กลุ่มผลลบปลอมก็จะมีเชื้อออกมา และเชื้อโควิดก็คงเริงร่าและแพร่ต่อไปได้ เล่นซ่อนหากันไปเรื่อย งานตรวจปูพรมแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ามีผู้ป่วยปรากฏขึ้นอีกจะตรวจปูพรมหรือไม่ นับว่าเป็นปัญหาที่น่าคิดยิ่ง

นอกจากปัญหาผลลบปลอมทำให้เกิดการแพร่เชื้อในภายหลัง ผลบวกปลอมเองก็มีปัญหา ใน 11 ล้านคนของหวู่ฮั่น ในระยะนี้คงมีผู้ติดเชื้อไม่มาก ผลบวกส่วนใหญ่จะมาจากผลบวกปลอมด้วยสาเหตุอันใดก็แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างปัญหาให้ปวดหัวได้มากเหมือนกัน ดังกรณีผลบวกปลอมจากการตรวจปูพรมที่ยะลาที่ผ่านมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เราคงต้องเอาใจช่วยหวู่ฮั่นให้ควบคุมโควิดละลอกสองให้สงบได้โดยเร็ววัน ถ้าจีนไม่ปลอดภัย เราก็คงแย่ไปด้วยทั้งด้านการควบคุมโรคระบาดและด้านเศรษฐกิจ เราภาวนาขอให้ทางนักระบาดวิทยาจีนตะครุบการติดเชื้อได้อยู่หมัดแต่ต้นมือ และ ผลการตรวจปูพรมไม่พบปัญหา

อีกไม่นานนักในราวปลายเดือนกรกฎาคม หวู่ฮั่นก็จะเข้าสู่ฤดูร้อน เมืองนี้เป็นหนึ่งในสี่ของเมืองที่ร้อนอบอ้าวที่สุดในประเทศจีน คนที่เชื่อว่าไวรัสไม่ค่อยแพร่เชื้อในอากาศร้อนก็เอาใจช่วยขอให้ทฤษฎีนั้นเป็นจริงนะครับ

 

กลับมามองไทยเรา เราปิดเมืองหลังหวู่ฮั่นในช่วงระยะเวลาที่สั้นกว่า โชคดีที่เรายังไม่ทันเปิดการเดินทางติดต่อกับประเทศจีน การระบาดของเชื้อจากเมืองหวู่ฮั่นในรอบนี้คงจะยังมาไม่ถึงเราเหมือนรอบที่แล้ว เรามีนโยบายการปิดเมืองคล้าย ๆ ที่จีนทำ และประสบความสำเร็จคล้ายจีน ณ เวลานี้ เราก็เริ่มเปิดเมืองเหมือนหวู่ฮั่น ถ้าเราจำลองปรากฏการณ์ทางระบาดวิทยาเหมือนเขา เราก็คงต้องเผชิญกับการระบาดระลอกสองเหมือนกับเขาในไม่ช้า

การสอบสวนโรคเพื่อกักตัวผู้แพร่เชื้อ (contact tracing) เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมโรคที่ดี สาธารณสุขไทยทำเรื่องนี้ได้เป็นเลิศ แต่การสอบสวนโรคจะไม่ไหวและไม่ได้ผลถ้าเกิดการระบาดครั้งใหญ่จนเกินกว่าที่จะควบคุมได้ ระบบการรักษาพยาบาลที่เป็นแนวหลังของสาธารณสุขก็จะพังไปด้วย ในที่สุดเราก็ต้องกลับไปใช้มาตรการเดิมอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่มีใครอยากได้เลย คือ การปิดเมือง

ติดตามข่าวหวู่ฮั่นแล้วตั้งสติให้ดี ช่วยกันให้เต็มที่อย่าให้โควิดระบาดในไทยอีกระลอกเลยนะครับ