เสธ.แมว ชี้วิกฤตินี้ถูกซ้ำเติมด้วยความสามารถที่ต่ำตม-ไม่รู้กาละเทศะของผู้นำ ทำคนรุ่นใหม่ไร้อนาคต

ศุกร์ 24 เม.ย.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)กล่าวเปรียบเปรยว่าในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 นี้ ถ้านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นคนรุ่นใหม่คือมีความทันสมัยคิดใหม่ทำเป็น เขาจะทุ่มทรัพยากรของกองทัพมาร่วมแก้ไขวิกฤติให้ประจักษ์แก่สายตาประชาชน โดยนำ แพทย์ทหาร พยาบาล นักเรียนแพทย์ นักเรียนพยาบาล ทหารเสนารักษ์ เภสัชกร รวมทั้งบุคลากรกำลังสำรองด้านการแพทย์พยาบาล พวกคนเหล่านี้ต้องถูกดึงมาช่วยปฎิบัติงานด้านการป้องกันและการรักษาพยาบาล ส่วนสายงานอื่น เช่น สายช่างเทคนิค วิศวกร โรงงานช่างต่างๆ ก็ให้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนปรับตัวมาช่วยผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนกำลังพลด้านรักษาความสงบเรียบร้อยก็เน้นจิตบริการมาร่วมจัดระเบียบการแจกของบริจาคอาหารการกิน อำนวยความสะดวกส่งตัวผู้ป่วย ส่วนอาคารสถานที่ค่ายทหาร โรงพยาบาลทหาร อาคารรับรองสวัสดิการต่างๆก็นำมาปรับใช้เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย เป็นสถานที่กักตัว เป็นโรงทาน เป็นต้น และด้านแผนงานงบประมาณกลาโหมก็ต้องปรับลดให้สอดรับกับสถานการณ์ด้วย เพียงทำแค่ที่กล่าวมานี้ได้ มันจะแสดงถึงความเป็นทหารอาชีพเคียงข้างรับใช้ประชาชน และถือเป็นการเตรียมความพร้อมจัดทัพใหม่เพื่อรับมือภัยคุกคามในอนาคตที่จะเปลี่ยนจากภัยสงครามการสู้รบมาเป็นภัยโรคระบาดแทน

พล.ท.ภราดรชี้ว่า วิกฤติครั้งนี้เราถูกซำ้เติมด้วยขีดความสามารถที่ต่ำตมและความไม่รู้กาละเทศะของผู้นำ กลุ่มการเมืองคนรุ่นใหม่จึงเป็นความหวังของประชาชนสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะความเป็นจริงนอกจากคนรุ่นใหม่จะต้องต่อสู้หาเลี้ยงชีพตัวเองแล้ว เขาก็ตระหนักดีว่ายังมีพันธะต้องดูแลผู้สูงอายุของสังคมในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นพวกเขาต้องเป็นผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงตัวจริง ขืนปล่อยมือให้ผู้นำสืบทอดอำนาจและกลุ่มหลงตัวเองนำพาต่อไป บ้านเมืองก็จะประสบแต่ความวิบัติ คนรุ่นใหม่เองก็จะไร้อนาคตอีกด้วย