‘สนธิรัตน์’ ขอตรวจสอบคลิปเสียงดูด ส.ส.อนค. บอก 23 ล้านเยอะไป ใครจะมีเงินไปจ่าย

‘สนธิรัตน์’ ขอตรวจสอบคลิปเสียงดูด ส.ส.อนค. บอก 23 ล้านเยอะไป ใครจะมีเงินไปจ่าย พรรคไม่มีตังค์ขนาดนั้น ด้าน ส.ส.พปชร.ถูกกล่าวหายังไม่รับสาย แจ้งติดประชุมอยู่ฯ

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เปิดเผยคลิปเสียงที่อ้างว่ามีคนจากรัฐบาลเสนอเงินเพื่อชักชวนเข้าสังกัด ว่าตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อคืนว่ามีคลิปเสียงคล้าย ส.ส.ของ พปชร. มีคนส่งมาให้แต่ยังไม่ได้เปิดฟัง เบื้องต้นยังเป็นเพียงการกล่าวอ้าง ต้องขอไปตรวจสอบก่อนว่าเป็นใคร ยังไง เป็นข่าวจริงหรือไม่ ซึ่งจะจริงหรือไม่นั้นค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบที่มาที่ไปของคลิปเสียงดังกล่าว ซึ่งตอนนี้มีข่าวออกมาหลากหลาย จริงบ้าง เท็จบ้าง อีกทั้งตอนนี้ยังไม่ทราบว่าบุคคลที่ปรากฏเสียงในคลิปเป็นคนของ พปชร.หรือไม่ ส่วนหากพบว่าผิดจริงจะมีการคาดโทษอย่างไรนั้นต้องขอตรวจสอบก่อน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใครจริงๆ ต้องขอกลับไปฟังก่อน

เมื่อถามว่านโยบายของพรรคในการรับคนจะต้องมีเรื่องเงื่อนไขแลกเปลี่ยนอะไรหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคเราไม่มีนโยบายเรื่องเงินเรื่องทอง และยังไม่มีการคุยในพรรคเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าใครจะเข้าพรรคสิ่งสำคัญต้องมีใจที่อยากจะทำงานร่วมกับพรรค เพราะว่าการทำงานในพรรคไม่เพียงแต่อยากจะเข้ามาเป็นลูกพรรคเท่านั้น แต่ต้องทำงานและเติบโตไปกับพรรค สร้างความมั่นคงกับพรรคต่อไป

เมื่อถามว่ามองว่าตัวเลข 23 ล้านบาท เยอะเกินไปหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า “เรื่องตัวเลขผมไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าตัวเลขขนาดนั้นจะเอาเงินที่ไหนมาให้ เพราะพรรคไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น”

เมื่อถามว่า พปชร.มีการติดต่อหรือส่งคนไปทาบทามหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับตนไม่มี แต่คนอื่นตนไม่ทราบ ใครจะไปชวนใครตนไม่รู้จริงๆ ตอนนี้รัฐบาลมี 263 เสียง ซึ่งมีเสียงเกินกว่าปริ่มน้ำแล้ว ถือว่าค่อนข้างมั่นคง ไม่น่าเป็นห่วงที่จะต้องเอาเสียงมาเติม และคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะไปกระทบกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยกัน เราพูดคุยกัน เราไม่ได้อยู่กันแบบนับตัวเลข ถ้าดูจากการจัด ครม.ที่ผ่านมา จะเห็นว่าพรรคร่วมรัฐบาลพยายามขับเคลื่อนรัฐบาลให้ไปให้ได้ จึงไม่อยากให้เอาเรื่องตัวเลขมาตีความ มันจะทำให้บ้านเมืองถอยหลังไป และการจะปรับ ครม.นั้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม หากมีการรับลูกพรรคเพิ่มเข้ามา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลกับการปรับ ครม.

เมื่อถามว่าหาก ส.ส.อดีต อนค.เข้ามาจริง คลิปดังกล่าวจะกลายเป็นหลักฐานให้เอาผิดย้อนหลังได้หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริง ตอนนี้มีแต่การคาดว่า อ้างว่า และถ้าหากมาจริงต้องมีอุดมการณ์ร่วมกัน และทำงานร่วมกันได้ คงไม่ใช่เรื่องลำบากใจที่จะเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่มีการเปิดเผยคลิปและมีการตั้งข้อสังเกตว่าเสียงบุคคลที่ปรากฏในคลิปคล้ายเสียงของนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.พรรค พปชร. จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดนายศิริพงษ์รับสาย พร้อมระบุว่า ส.ส.อยู่ในห้องประชุม ไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย