เกรทวอลล์เพิ่งซื้อโรงงานแห่งสุดท้ายของจีเอ็มในอินเดียไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยมีแผนแย่งชิงตลาดกับโตโยต้า,ฟอร์ด และตั้งเป้าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะโลกครับ

ขอตั้งข้อสังเกตว่าจีเอ็มไทยมีข้อพิพาทแรงงานระหว่างบริษัทกับคนงานอย่างต่อเนื่อง น่าจับตาครับว่าการเลิกจ้างครั้งนี้จะทำให้คนตกงานมากขนาดไหน และโอกาสการมีงานทำของลูกจ้างกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร

ในมุมมองของผม เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจีเอ็มยุติกิจการในไทยตามแผนปรับโครงสร้างการผลิตระดับโลก (Global Operation) ของเขาครับ เพราะในเดือนธันวาคม 2562 จีเอ็มปิดโรงงานในออนทาริโอจนมีคนตกงานกว่า 2,700 ราย เช่นเดียวกับการเริ่มต้นยุติการผลิตและขายรถในอินเดียตั้งแต่ปี 2560 แต่มีการเปิดศูนย์ผลิตใหม่ในมิชิแกนและโอไฮโอเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง

สำหรับผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น นายแอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการตลาด จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ ระบุว่าบริษัทจะถอนเชฟโรเลตออกจากตลาดรถยนต์ในประเทศไทยด้วย

นายเฮกตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “บริษัทจะปรับเปลี่ยนการดำเนินงานต่างๆ ส่วนลูกค้านั้น บริษัทจะจัดการเรื่องผู้จัดหาวัตถุดิบหรือบริการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะมอบแพ็กเกจเงินชดเชยให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบ่มากกว่ากฎหมายแรงงานไทยกำหนด

ในรายงานจากหนังสือพิมพ์ประชาชาติ ผู้บริหารจีเอ็มระบุว่า “หากไม่มีฐานการผลิตในประเทศไทย เชฟโรเลตก็ไม่อาจจะแข่งขันในตลาดรถยนต์ประเทศไทยได้” เพราะจากการศึกษาแผนดำเนินการหลังขายศูนย์การผลิตรถยนต์ จีเอ็มพบว่าศูนย์ใหม่ไม่สามารถมีอัตราการใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่ ความต้องการสินค้าในไทยและตลาดส่งออกมีต่ำ รวมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย

ข้อมูลจาก https://www.reuters.com/…/chinas-great-wall-agrees-to-buy-g…

https://www.nasdaq.com/…/great-wall-says-to-buy-gms-thailan…

https://www.theguardian.com/…/oshawa-general-motors-plant-c…

https://www.cnbc.com/…/what-gm-leaving-india-means-for-us-a…

https://www.facebook.com/sirote.klampaiboon/photos/a.373530246050409/3621576887912379/?type=3&theater