“ถั่วพู” อาหารเพื่อสุขภาพภูมิปัญญาไทย-อาเซียน ชาวล้านนาใช้เป็นยาหลายตำรับ

ถั่วพูผักบ้านๆ นี้ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยหน้าถั่วเหลือง เมล็ดถั่วพูให้โปรตีนสูงกว่าเมล็ดถั่วเหลือง ดอกมีโปรตีนในปริมาณใกล้เคียงกับถั่วเหลือง ในขณะที่ในหัวมีโปรตีนมากกว่ามันฝรั่ง 4 เท่า

ถั่วพูจึงมีธาตุอาหารดีๆ มากมาย เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็ก มีวิตามินมากมาย เช่น ทองแดงสังกะสี วิตามินเอ ไทอะมีน ไรโบฟวาวินวิตามินซี และไนอะซีน

กินถั่วพูเป็นประจำไม่ขาดสารอาหารแน่นอน

ถั่วพู มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psophocarpus tetragonolobus (Linn.) DC. เป็นไม้เลื้อยพาดพันต้นไม้อื่นๆ ใบเป็นใบย่อยมีสามใบ ดอกเล็กคล้ายดอกแค สีม่วง ฝักเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีปีกออกข้าง เป็นสี่ปีก ยาวประมาณ 3-4 นิ้ว เป็นพืชเขตร้อนและขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกประเภท

ถั่วพูเป็นอาหารดีแล้ว ใครจะคิดว่าถั่วพูเป็นยาดีด้วย มีการบันทึกในตำรายามาอย่างยาวนาน ตามภูมิปัญญาไทยใช้ส่วนของรากแก้ร้อนใน

หมอพื้นบ้านบางท้องถิ่น ใช้รากถั่วพู ต้มกับน้ำดื่ม แก้อาการร้อนในตับ ใช้รากฝนกับสุรา ดื่มแก้อาการบวมในคอ หรือรากฝนกับดีปลี และเจตมูลเพลิงแดง แก้อาการอ่อนเพลีย นำส่วนหัวมาเป็นยาบำรุง โดยการใช้หัวตากแห้ง บดเป็นผงกิน หรือนำผงยาผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน กินวันละ 2 เม็ด หรือนำหัวถั่วพูหั่นตากแห้ง แล้วเอามาคั่วไฟให้เหลืองมีกลิ่นหอม ใช้ชงน้ำร้อนดื่มเป็นแก้อ่อนเพลียหรือเป็นยาชูกำลังให้กับคนไข้ได้ดี

ส่วนของฝักถั่วพูยังใช้เป็นยาแก้ไข้ร้อน แก้หอบ เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงกำลัง แก้ไข้ แก้อ่อนเพลีย

ที่น่าสนใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นในตำราใบลานของชาวล้านนา หรือในภาคเหนือของไทยนั้น มีการใช้หัวและรากถั่วพูเข้ายาในหลายตำรับ เช่น

ยาซะมะเร็ง (หมายถึงยาชำระล้าง) ที่มีอาการเจ็บร้อนเหมือนไฟไหม้ ให้ใช้รากผักกันเถิง รากปอบ้าน รากผักหวานบ้าน หัวถั่วพู ฝนใส่น้ำข้าวเจ้ากิน

ยาปิเสียบ ( ปิ เป็นอาการร้อนจากลม เช่น ปิแดด) เมื่อมีอาการปิเสียบ จะมีอาการจุกแน่น เมื่อรักษาจนรู้สึกตัวดีแล้ว ให้เอาหัวถั่วพู รากผักหวานบ้าน ฝนทำยากิน

ยารำมะนาดขาง เจ็บในคอ ใช้รากงิ้วหนุ่ม รากผักเข้า รากส้มเห็ด หัวถั่วพู รากแตงเถื่อน และอื่นๆ ฝนกับน้ำข้าวเจ้ากินแก้เจ็บคอ นอกจากนี้ ถั่วพูยังเป็นสมุนไพรในตำรับยารักษาอาการร้อนภายในร่างกาย ซึ่งทางล้านนาเรียกโรคขางแกมสานร้อนขึ้นถึงกระหม่อม และยามะเร็งคุตเสียบขึ้น ยามะเร็งคุตซะสาน (ปวดหัวข้างเดียวที่มีก้อนขึ้นตามตัวด้วย) ยามะเร็งสรรพว่า ยามะเร็งทั้งปวง (คำว่า “มะเร็ง” ตามภูมิปัญญาของล้านนา อาจเกิดจากอาการที่ความร้อนภายในกระทำให้มีการแสดงออกทางร่างกาย เช่น ทำให้ผิวหนังมีแผลเปื่อย ไม่ได้หมายถึงมะเร็งตามการแพทย์แผนปัจจุบัน)

ทางล้านนายังมีการใช้ถั่วพูในตำรับยาขางพู้ปากสุก (ขางเป็นโรคเกิดจากไฟธาตุสูง) ยาริดสีดวงเจ็บในเขี้ยว (ปวดฟัน) และยาฝีไข้เจ็บออกหู สำหรับสูตรนี้จะใช้ส่วนรากถั่วพู และยังพบตำรับยาสานแกมขางอีกด้วย

หากพิจารณาจากตำรับยาก็พบว่า หัวและรากถั่วพู จัดเป็นยาเย็นเพื่อลดอาการร้อนและไข้ฝี

ภาพจาก : Flickr | Isriya Paireepairit

เพื่อนบ้านไทยในประเทศเวียดนาม ก็มีการกินและใช้ถั่วพูกันกว้างขวาง บ้านใครมีที่ก็มักปลูกเป็นผักสวนครัวปนกับผักอื่นๆ ซึ่งกินฝักอ่อนและปรุงอาหารกินคล้ายกัน แต่ยังกินใบอ่อนและดอกที่ยังไม่บานด้วย

ที่น่าสนใจเขากินเมล็ด เป็นอาหารบำรุงให้เด็กอ่อนอายุมากกว่า 5 เดือน โดยเอาเมล็ดมาทำเป็นผงชงน้ำ ซึ่งสามารถเป็นการทดแทนน้ำนมในหญิงที่ขาดอาหาร หรือให้เด็กกิน เป็นการเสริมโปรตีนทดแทนในร่างกายด้วย ด้านยาสมุนไพรชาวเวียดนามใช้ ถั่วพูแก้ปวดตา ปวดหู และปวดฝี ในประเทศจีนแถบมณฑลยูนนานก็นิยมใช้รากถั่วพูในการลดความร้อนภายในร่างกายด้วย

ถั่วพู ปลูกง่ายและมีคุณค่าอาหารสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย และมีสรรพคุณทางยาสมุนไพร ในภูมิปัญญาไทยและอาเซียนก็นิยมนำมาใช้ดูแลสุขภาพกันอย่างกว้างขวาง

ถั่วพูนับเป็นพืชอาหารและยา และเป็นตัวอย่างของการสร้างความมั่นคงทางอาหารและยาที่มีคุณค่า

ถั่วพูโตเร็ว ปลูกได้ทุกบ้าน ปลูกไม่นาน เพียงต้นเดียวก็ให้ผลผลิตฝักถั่วพูมากมาย ให้เมล็ดถึง 20-30 เมล็ดในหนึ่งฝัก นำมากินหรือแจกเมล็ดพันธุ์เพื่อขยายต่อไปได้อีกมาก

วันเด็กปีนี้ ชวนเด็กและครอบครัวทำกิจกรรมปลูกถั่วพูเพื่ออาหารดี ยาดี กันนะ