พ่อปู-ลูกปู

วันที่ 8 ธันวาคม 2562

เพิ่งมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

จากนี้จะเหลือเพียง “เกียรติประวัติ” เท่านั้นที่จะทำให้คนจดจำรัฐบุรุษผู้นี้

พลิกไปดูประวัติส่วนหนึ่งของ พล.อ.เปรม

1 ตุลาคม 2520 ได้รับพระราชทานยศ “พลเอก” และดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

พ.ศ.2521 เป็นผู้บัญชาการทหารบก

จนจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2523

แต่มีหมายเหตุกำกับ

เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติต่ออายุราชการให้อีก 1 ปี ไปเกษียณ 26 สิงหาคม 2524

ระหว่างนั้น วันที่ 3 มีนาคม 2523

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พล.อ.เปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่สวมหมวกอีกใบ

คือผู้บัญชาการทหารบกด้วย

ในเสี้ยวประวัติช่วงนี้

บุคคลที่กำลัง “ดัง” พร้อมกับบุตรสาวในปัจจุบัน มีบทบาทสำคัญด้วย

นั่นคือ นายทวี ไกรคุปต์

และทำให้สมญานาม “ทวี ณ ไปรษณียบัตร” ติดตัวเขาอยู่หลายปี

สมญานี้ สืบเนื่องมาจาก

เมื่อปี 2523 พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ “ถูกบีบ” ให้ลาออกจากนายกรัฐมนตรี

และสมาชิกวุฒิสภา 225 เสียง ร่วมกับ 3 พรรคการเมือง ยกมือโหวตเลือก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ระหว่างนั้น นายทวี ไกรคุปต์ ได้เข้ามามีบทบาท

ด้วยการรวบรวม ส.ส.ไม่สังกัดพรรค 43 คน จับมือ พ.อ.พล เริงประเสริฐวิทย์ ตั้งพรรคสยามประชาธิปไตย โดย “เสธ.พล” เป็นหัวหน้าพรรค และนายทวีเป็นเลขาธิการพรรค สนับสนุนรัฐบาลเปรม

แต่ระหว่างนั้น พล.อ.เปรมกำลังจะตกอยู่ในภาวะ “ขาลอย”

เพราะต้องเกษียณอายุจากผู้บัญชาการทหารบก

ซึ่งสุ่มเสี่ยงกับ “ดุลอำนาจ” ของนายกฯ คนใหม่อย่างยิ่ง

เพราะหากไม่ได้ควบคุมกองทัพเอาไว้ อาจควบคุมการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านได้ยาก

แนวคิดต่ออายุ “ผู้บัญชาการทหารบก” จึงเกิดขึ้น

ซึ่งแน่นอน ย่อมต้องได้รับการสนับสนุนจากสังคมด้วย

ตรงนี้เองเปิดทางให้ “ทวี ไกรคุปต์” เข้ามามีบทบาท

ทวี ไกรคุปต์ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาชนไทย

ส่งไปรษณียบัตรแสดงพลังหนุนการต่ออายุราชการ พล.อ.เปรม

ซึ่งก็มีการตอบรับล้นหลาม

และถูกใช้เป็นเหตุผลให้การต่ออายุประสบความสำเร็จและมีความชอบธรรม

จากผลงานนี้ ทำให้เมื่อต้นปี 2524 พล.อ.เปรมปรับคณะรัฐมนตรี

ทวี ไกรคุปต์ แม้เป็น ส.ส.สมัยแรก

แต่ผลงาน “ไปรษณียบัตรต่ออายุราชการ” เข้าตา

จึงได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นการสมนาคุณ

ถือเป็นการทำเพื่อนายที่คุ้มค่า

แตกต่างราวฟ้ากับดิน กับการทำเพื่อนายในวันนี้ของลูกสาว ปารีณา ไกรคุปต์

ที่อาจถูกยึดที่ดิน และมี “คุก” รออยู่ข้างหน้า!