“พิพัฒน์” เตรียมลุยจีน ดึงตระกูลแซ่เที่ยวไทย กระตุ้นท่องเที่ยวโค้งสุดท้าย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของมาตรการดึงตระกูลแซ่เข้ามาเที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีน ขณะนี้ได้ประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ในการดำเนินการต่อไปแล้ว ซึ่งภายในกระทรวงฯเองก็มีการหารือถึงรายละเอียดทั้งหมดให้ชัดเจน ก่อนจะไปหารือกับททท.อีกครั้ง เพื่อจัดทำแผนงานที่จะดำเนินการตามต่อจากนี้ โดยต้องการประสานความร่วมมือกับสมาคมตระกูลแซ่ขนาดใหญ่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพราะเบื้องต้นทราบว่ามีการประสานกับสมาคมตระกูลแซ่ในภาคใต้แล้ว โดยจะให้ทางททท.เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากภายในเดือนตุลาคมนี้ จะเดินทางไปยังประเทศจีนด้วยตนเอง เพื่อหารือกับรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของจีน ในการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยืนยันว่าจะแผนงานและการประสานความร่วมมือทั้งหมด จะต้องเสร็จให้ทันภายในเดือนกันยายนนี้ หรือล่าช้าที่สุดต้องภายในต้นเดือนตุลาคมนี้แน่นอน เพราะต้องทำให้ทันก่อนกำหนดการเดินทางไปยังจีน

“จะเร่งรัดและร่วมมือกับททท. เพื่อจัดทำแผนดำเนินการต่อจากนี้ เพื่อให้มาตรการออกมาใช้ทันภายในเดือนนี้ เพราะต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนความคืบหน้าของมาตรการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงบประมาณ และผ่านการพิจารณาในรายละเอียดแล้ว ซึ่งยืนยันว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้แน่นอน เนื่องจากขณะนี้ก็จ่ออยู่ในขั้นตอนการนำเสนออยู่แล้ว เพียงแต่รอวาระการประชุมครั้งต่อไปเท่านั้น และจะผลักดันออกมาให้ทันใช้ในอีก 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ เพราะเป็นมาตรการที่จะเข้ามาเสริมมาตรกานชิม ช้อป ใช้ ซึ่งความจริงตามแผนงานเดิม จะต้องออกมาให้ทันในเดือนนี้ เพราะกำหนดไว้ว่าจะทำในวันที่ 9 เดือน 9, 10 เดือน 10, 11 เดือน 11 และ 12 เดือน 12 ซึ่งขณะนี้ใช้ไม่ทันในวันที่ 9 เดือน 9 ก็ต้องการดันออกมาให้ใช้ทันในวันพิเศษในอีก 3 เดือนสุดท้าย”นายพิพัฒน์กล่าว

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตามมติของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่ผ่าน ได้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวไว้ โดยต้องมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.44 ล้านล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย 39.8 ล้านคน จึงจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศไทยโตได้ตามเป้าหมายที่ 3% ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 27.5 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 1.29 ล้านล้านบาท ทำให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ เป้าหมายตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวไทย สามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน แต่ในส่วนของรายได้ที่ตั้งเป้าไว้ เนื่องจากขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย มีการใช้จ่ายน้อยลง สาเหตุมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเป็นหลัก จึงต้องหามาตรการโค้งสุดท้าย เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และทำให้ภาคการท่องเที่ยวเติบโตได้ตามเป้าหมายทั้งด้านรายได้และจำนวน

“เรื่องค่าเงินอยู่นอกเหนืออำนาจของกระทรวงฯ แต่ได้มีการหารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นและมาตรการสนับสนุนต่างๆ แต่ยังไม่มีการสรุปผลในการหารือว่าจะออกมาอย่างไร แต่เบื้องต้นคาดว่าจะมีการร่วมมือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีให้โตได้ตามเป้าหมายต่อไปแน่นอน”นายโชติกล่าว