อดีตขุนคลังชี้ เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอ หลังหุ้นร่วง 800 จุด ซัด “ทรัมป์” ก่อปัญหาลามทั้งโลก

วันที่ 15 สิงหาคม 2562 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงความเห็นต่อรายงานข่าวดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐปรับตัวลดลงถึง 800 จุด ซึ่งเป็นครั้งที่หนักที่สุดว่า

“ตลาดพันธบัตรชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะชะลอ”

ปกติอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในตลาดพันธบัตรสหรัฐจะสูงกว่าระยะสั้น เพราะนักลงทุนที่ถูกล๊อกเงินไว้นาน เช่น 10 ปี จะต้องได้รับชดเชยผลตอบแทนสูงกว่า 2 ปี เป็นต้น

แต่ล่าสุด อัตราดอกเบี้ยระยะยาว 10 ปีได้ลดลงต่ำกว่า 1.6% ต่อปี ต่ำกว่าดอกเบี้ยระยะสั้น 2 ปี 0.01% อยู่แป๊บหนึ่ง เรียกว่า inverted yield curve

ในอดีตที่ผ่านมา ก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสภาวะชะลอหนัก ถึงขั้น recession นั้น ก็จะมี inverted yield curve เกิดขึ้นก่อนหน้าประมาณ 1 – 2 ปี

เฟดมีอำนาจกำหนดแต่เฉพาะดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นสุด คือดอกเบี้ยข้ามคืน ส่วนดอกเบี้ยระยะยาว และระยะสั้นนั้น เคลื่อนไหวเสรีไปตามตลาดพันธบัตร เฟดไม่สามารถควบคุม

การที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาว 10 ปี ต่ำกว่าดอกเบี้ยระยะสั้น 2 ปีนั้น แสดงว่านักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีข้างหน้า จะชะลอตัวมาก จนเฟดจะต้องลดดอกเบี้ยนโยบายลงไปอีกหลายครั้ง

พูดง่ายๆ ถ้าซื้อพันธบัตรระยะสั้น 2 ปีขณะนี้ ถึงแม้ได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 1.6% แต่เมื่อครบกำหนดในอีก 2 ปีได้เงินต้นคืน เมื่อจะเอาเงินต้นดังกล่าวไปซื้อพันธบัตรอีกครั้งหนึ่ง ในขณะนั้น ดอกเบี้ยอาจจะเหลือเพียง 0.5% เป็นต้น

ดังนั้น นักลงทุนจึงพอใจจะซื้อพันธบัตรระยะยาว 10 ปีมากกว่า เพราะได้ดอกเบี้ยล๊อคเอาไว้ที่ 1.6% ไปตลอด 10 ปี

สภาวะอึมครึมเกิดขึ้นในสหรัฐ เพราะสงครามการค้า บังคับให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐต้องย้ายฐานการผลิตชิ้นส่วนออกจากจีน

แต่แหล่งใหม่จะแพงกว่า เพราะไม่มีประเทศใดในเอเซียที่มีประสิทธิภาพอุตสาหกรรมเป็นกลุ่มก้อนแบบ cluster ที่ดีเท่าจีน

ดังนั้น ในระยะยาว ถึงแม้สงครามจะทำให้จีนอ่อนแอลง แต่เอกชนสหรัฐก็ไม่พ้นโดนหางเลข

นอกจากนี้ การที่ทรัมป์เขย่าสงครามกับจีนอย่างแรง เศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง ทำให้กำลังซื้อจีนลดลงด้วย ปรากฏตัวเลขชัดสุดที่เยอรมัน เพราะเป็นประเทศยุโรปที่อาศัยการส่งออกมากที่สุด

ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมันจะชะลอมาก ถึงขั้นดอกเบี้ยระยะยาว 10 ปี ติดลบ 0.624% ต่อปี!

หมายความว่า นักลงทุนวันนี้ยอมซื้อพันธบัตรเยอรมัน 10 ปี ทั้งที่ไม่ได้ผลตอบแทน แต่จะได้เงินคืนไม่ครบด้วยซ้ำ คือติดลบ 0.624% ต่อปี นั้น เพราะคาดว่าในอนาคต ดอกเบี้ยระยะสั้นจะลดลงไป และจะติดลบมากกว่านี้!

ตัวอย่างขณะนี้ ถ้าแบงก์พาณิชย์สวิสมีเงินเหลือ และจำเป็นต้องฝากข้ามคืนกับแบงก์ชาติสวิส แทนที่จะได้ดอกเบี้ย กลับจะต้องเสียดอกเบี้ยให้แบงก์ชาติสวิสในอัตรา 0.75% ต่อปี

ดังนั้น ทรัมป์ได้สร้างปัญหาที่ลุกลามไปทั่วโลกแล้ว