เสียว

ใครจะไปนึกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะสวมวิญญาณ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน”

ชี้มูล 2 คดีใหญ่ติดๆ กัน

คดีแรก คือคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน 56 แห่งในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 นครราชสีมา

คดีนี้ค้างคามานานทีเดียว

และคนที่เจอหางเลขเข้าเต็มๆ ก็คือ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล

“คนใหญ่คนจริง” ของโคราช

เพราะพา ส.ส.นามสกุลเดียวกันเข้ามาได้หลายคน

และได้เป็นรัฐมนตรีด้วย

แบบนี้ใหญ่รึไม่ใหญ่

คดีที่สอง คือคดีทุจริตสร้างโรงพักทดแทน

“สุเทพ เทือกสุบรรณ” ครับท่าน

ทั้ง 2 คนสังกัดพรรครัฐบาล

คำถามก็คือ แล้วทำไมถึงโดน

อย่าลืมว่า ป.ป.ช.ชุดนี้กำเนิดขึ้นในยุค คสช.

และประธาน ป.ป.ช. ชื่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ

ใครๆ ก็รู้ว่า พล.ต.อ.วัชรพลเป็นคนสนิทของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ

น้องชาย พล.อ.ประวิตร

เคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

หรือเลขาฯ ของ พล.อ.ประวิตร

คนส่วนใหญ่ไม่แปลกใจที่ ป.ป.ช.ชุดนี้จะไม่ชี้มูลคดี “ยืมนาฬิกาเพื่อน” ของ พล.อ.ประวิตร

แต่ตกใจว่าทำไมถึงมาเล่นงาน “วิรัช” กับ “สุเทพ”

ทั้งที่จะดึงเรื่องไปเรื่อยๆ ก็ได้

อะไรคือ “แรงจูงใจ” ของ ป.ป.ช.

เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

แต่ผลจากการตัดสินคดีนี้ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหลายคนเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ

เพราะการเข้ามาสังกัดพรรคนี้ นอกจากเหตุผลเรื่อง “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อเรา” แล้ว

เหตุผลเรื่องคดีความก็เป็นแรงดึงดูดใจเรื่องหนึ่ง

ตอนที่ “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” รอดพ้นจากคดี “เสื้อแดง” เพราะตำรวจตามหาตัวไม่เจอ คดีหมดอายุความ

ส.ส.พลังประชารัฐที่มีคดีติดตัวต่างเฮกันเป็นแถว

เพราะคิดว่าตัวเองจะรอดเหมือนกัน

แต่พอ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีของ “วิรัช”

ทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกัน

เป็นเพลงของ “อะตอม”

อ้าว…เฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา…