“สมคิด” ขอฝ่าย รบ.เห็นด้วยปมยื่นญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาที่มา ส.ว. ชี้ถ้าไม่ผิดก็ถือว่าจบ แต่ถ้าผิดอาจยื่นร้องศาล รธน.

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. ว่า การที่ตนยื่นญัตติดังกล่าวก็เพื่อที่จะศึกษาว่าการได้มาซึ่ง ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นอย่างไร เพื่อได้นำเรียนต่อประชาชนต่อไป ซึ่งก็ทราบว่านายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้พิจารณาเห็นชอบแต่ไม่รู่ว่าจะได้บรรจุญัตติวันไหน ซึ่งตนยังไม่ได้รับแจ้งมาว่าจะมีการบรรจุเมื่อไร ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวตนมองว่าไม่ควรปล่อยเลยไป จึงขอวิงวอนไปยังประธานสภาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจประชาชน เพราะตนไม่ได้อภิปรายว่า ส.ว.ทั้ง 250 จะดีหรือไม่ดี แต่ต้องการที่จะให้พิจารณาว่าที่มาของ ส.ว.มาอย่างไร ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนไม่มีเจตนาว่าจะไปลดอำนาจของ ส.ว. ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจดังนั้นเราต้องเอามาพูดกันในสภาดีกว่าไปพูดกันข้างนอก และ ส.ว.ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะอย่างไรก็ได้เป็น ส.ว.อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ผลการศึกษาที่จะพิจารณาออกมาจะนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นที่จะนำไปยื่นต่อศาล เพียงแค่ต้องการบอกสภาและประชาชนว่า ส.ว.เป็นอย่างไร และอยากให้เป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้ตนขอวิงวอนไปยังฝ่ายรัฐบาล ให้เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพื่อจะได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาดูในเรื่องนี้ เพราะหากศึกษาแล้วที่มา ส.ว.ถูกต้องก็ไม่เป็นไร เรื่องก็จบ แต่หากตั้งกรรมาธิการไม่ได้ เราก็จะบอกกับประชาชนว่าไม่เป็นไรเราทำเต็มที่แล้ว ซึ่งทั้งหมดแล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาที่จะพิจารณา แต่ขอวิงวอนว่าสภาเป็นแหล่งที่จะให้พวกเรารู้ความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นหากมีเรื่องอะไรก็ต้องมาพูดกันที่นี้ทุกเรื่อง และการตั้งคณะกรรมาธิการก็ใช้เวลาเพียง 45 -60 วันก็ทราบผลแล้ว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะไม่ได้ตั้งกรรมาธิการขึ้นมา เพราะเรื่องดังกล่าวอาจจะถูกมองว่าเป็นการโจมตี นายสมคิดกล่าวว่า การทำความจริงให้กระจ่าง ไม่ใช่เรื่องของการโจมตีกันทางการเมือง ดังนั้นขอให้มาพูดกันในสภาฯดีที่สุด และคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ที่แต่งตั้งขึ้นมาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ไม่หวั่นวิตก ถูกก็คือถูก หากผิดก็ต้องยอมรับผิด และหากตรวจสอบแล้วพบว่ากระบวนการสรรหา ส.ว.ไม่โปร่งใสก็ต้องร้องศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

มติชนออนไลน์