โลกหมุนเร็ว / เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง /อยากจะได้ 5 จี คิดดีหรือยัง

โลกหมุนเร็ว/เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง [email protected]

อยากจะได้ 5 จี คิดดีหรือยัง

 

หนุ่มจากเบลารุสบึ่งมอเตอร์ไซค์คันงามมาจากลาดพร้าวเพื่อมาดูบ้านเช่าของผู้เขียนที่อยู่ในซอยลึก 700 เมตรของย่านสุทธิสารที่ถือว่าไม่ไกลความเจริญ แต่เงียบสงบพอสมควร

เมื่อมาถึง สิ่งแรกที่ทำคือควักมือถือออกมาตรวจสัญญาณไวไฟ ก็ปรากฏว่าเรียบร้อยดี แต่แทนที่จะยิ้มแย้ม เขากลับมีสีหน้าวิตกกังวล

เขาให้ผู้เขียนดูหน้าจอมือถือซึ่งปรากฏสัญญาณไวไฟอีก 4-5 สัญญาณขึ้นมา เขาบอกว่าผมกังวล เพราะแถวนี้มีไวไฟมากเกินไป

อ้าว จะมาไม้ไหน

เขาอธิบายว่าคลื่นสัญญาณมือถือเข้าไปทำอันตรายต่อระบบในร่างกายของมนุษย์เรา ผู้เขียนก็รับฟัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องแบบนี้

แต่เป็นครั้งแรกที่รับรู้ว่ามีผู้เลือกถิ่นที่อยู่โดยมีเรื่องสัญญาณไวไฟเป็นประเด็นสำคัญ

ถึงแม้จะรู้ดีว่าการที่พ่อหนุ่มคนนี้จะหาที่อยู่ในกรุงที่สะดวกพอสมควรแต่ปลอดสัญญาณไวไฟเป็นเรื่องยากเย็นอย่างยิ่ง หรือเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร เพราะรู้ดีว่าการรับรู้ของเขาถึงความเสี่ยงจากสัญญาณไวไฟคงจะฝังรากลึกมาก และจะไม่สามารถโน้มน้าวใจให้เขาผ่อนคลายความกังวลได้

ตรงกันข้ามเขากลับทำให้เราเพิ่มดีกรีความกังวลขึ้นมา

 

คนในทวีปยุโรปมีการรับรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมสูงมาก เพื่อนชาวฝรั่งเศสเล่าให้ฟังว่ามีกลุ่มคนที่กลัวการแผ่รังสีจากสัญญาณมือถือถึงกับหนีไปอยู่ตามถ้ำ และบางประเทศได้จัดสถานที่ให้สามารถอยู่ได้โดยไม่มีสัญญาณไวไฟ เรียกว่า Wifi Free ทำนองเดียวกับการจัดให้มี no smoking area

การมี 5G มีประโยชน์แน่ แต่ก็ต้องติดตามผลที่ตามมา คำพูดที่ว่า “คุณอนันต์ แต่โทษมหันต์” อาจเป็นคำอธิบายที่ดีสำหรับ 5G

สำหรับคุณประโยชน์ของ 5G คือการสื่อสารระหว่างสิ่งของกับสิ่งของ เช่น ระหว่างรถยนต์กับสัญญาณไฟจราจร

ในเว็บชื่อ UIH ให้คำอธิบายถึงประโยชน์ของ 5G ว่า

“เทคโนโลยี 5G ถูกออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อจำนวนมากผ่านอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า IoT อาทิ รถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดได้จากระยะไกล หุ่นยนต์ในโรงงาน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานซึ่งถือว่ามีความเร็วมากกว่าเทคโนโลยี 4G เกิน 10 เท่า รวมถึงช่วยให้เกิดการใช้งาน AR และ VR ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสำรวจภาคสนาม การสาธารณสุขทางไกล ความบันเทิง และท่อส่งข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการเข้าถึงการใช้งาน Cloud Computing ซึ่ง 5G ช่วยพัฒนาระบบค้าปลีก การซื้อของออนไลน์ รวมถึงการใช้งานต่างๆ ของออฟฟิศอัจฉริยะ (Smart Office) และนำไปสู่ระบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ในอนาคต”

เมื่อเร็วๆ นี้ได้คุยกับ Startup รายหนึ่งซึ่งธุรกิจหลักคือให้บริการ 5G เขาอธิบายว่า เป้าหมายของบริษัทคือการบริการที่มุ่งโฟกัสเฉพาะจุดที่สัญญาณไปไม่ถึง เช่น ธุรกิจ Oil and Gas ตัวอย่างเช่น แท่นขุดเจาะกลางทะเล เป็นต้น การบริการที่โฟกัสแบบนี้มีประโยชน์มากอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้พัฒนารายนี้ยังบอกว่า 5G ถ้าใช้กับ IoT, Healthcare, Virtual Reality จะคุ้ม

สิ่งที่คนกลัวกันก็คือคลื่นความถี่ที่จะมีผลต่อร่างกาย ทำนองเดียวกับที่คนกลัวคลื่นในไมโครเวฟ เป็นต้น ที่กลัวกันก็คือคลื่นวิทยุจะทำให้เกิดมะเร็งสมอง มีผลต่อระบบการตั้งครรภ์ โรคปวดศีรษะในเด็ก และการเจ็บป่วยอื่นๆ

 

เมื่อเดือนเมษายนปีนี้รัฐบาลเบลเยียมได้ชะลอการทดลองเกี่ยวกับการใช้ 5G ในกรุงบรัสเซลส์เนื่องจากกลัวว่าการแผ่รังสีจากสถานีฐานอาจสร้างอันตราย ส่วนในเนเธอร์แลนด์ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลคอยเฝ้าระวังเรื่องผลของ 5G ในขณะที่ในสวิตเซอร์แลนด์ก็กำลังทดสอบเรื่องผลที่มีต่อร่างกายมนุษย์ และใน Mill Valley รัฐแคลิฟอร์เนีย สภาเทศบาลเมืองสั่งห้ามใช้มือถือที่ใช้สัญญาณ 5G ไปเรียบร้อยแล้ว

ทั่วโลกทั้งนักกฎหมายและผู้วางนโยบายไม่นิ่งนอนใจกำลังแตะเบรกเรื่อง 5G

ประเทศไทยเราไม่เคยยอมแพ้ใครเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ อะไรใหม่มาก็ขอมีด้วย ไม่ยอมตกเทรนด์ เรื่องอันตรายจะมีหรือไม่ก็ไม่ค่อยจะกลัวกัน เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เรื่องปุ๋ยเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก็ยอมเสี่ยงใช้กันไป ผู้มีอำนาจในปัจจุบันก็ไม่สนใจเรื่องสารพิษหรืออันตรายใดๆ ทั้งสิ้น

เห็นได้จากการแบนพาราควอตไม่เป็นผล เรื่อง 5G นี้ก็คงประสบชะตากรรมเดียวกัน

คนไทยเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วเรื่องการซื้อของออนไลน์ แซงหน้าอเมริกา เชื่อไหมล่ะคะ ก็เพราะคนไทยเห่อของใหม่ เชื่อเลยว่าเมื่อ 5G เข้ามาเปิดใช้ คนไทยจะใช้เพื่อการบันเทิงและช้อปปิ้งกันสนุกสนาน

และวัตถุประสงค์การใช้ 5G เพื่อการบันเทิงจะแซงหน้าสาธารณสุข หรือออฟฟิศอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะกันแน่ๆ คนไทยรอใช้กันโดยไม่สนใจว่าจะมีความเสี่ยงอะไรหรือเปล่า

ผู้เขียนคนหนึ่งละไม่อยากอินเทรนด์กับเขา เพราะเวลานี้เสาโทรศัพท์ 4G ก็อยู่ในซอยบ้าน เสี่ยงไม่เสี่ยงก็ไม่รู้ แต่เสียวน่ะแน่ๆ อีกหน่อย 5G มา เขาว่าจะมีเสาขนาดเล็กโผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียว

เมื่อถึงวันนั้นจะถอนเจ้าดอกเห็ดนี้ออกไปก็คงจะสายเกินการณ์ไปแล้ว