ส.ว.คึกคัก ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภา “สมเดช” มั่นใจ โดนศรีสุวรรณร้อง ไม่หลุดเก้าอี้

ส.ว.คึกคัก ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภา “ศุภชัย” พร้อมรับตำแหน่งรองปธ.วุฒิสภา “สมเดช” มั่นใจ โดนศรีสุวรรณร้อง ไม่หลุดเก้าอี้

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่อาคารสุขประพฤติ ถ.ประชาชื่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้นัดหมายสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 250 คนมารวมตัว เพื่อออกเดินทางไปยังห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศเพื่อร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภานั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกต่างแต่งชุดขาวอย่างพร้อมเพรียง โดยทยอยขึ้นบนชั้น 21 ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดเตรียมไว้เป็นสถานที่รับรองอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะออกเดินทางไปเข้าร่วมพิธีด้วยรถบัสจำนวน 2 คันในเวลา 13.00 น.

นายศุภชัย สมเจริญ ส.ว.ให้สัมภาษณ์กรณีมีชื่อเป็นแคนดิเดตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ว่า ตนยังไม่ทราบ รายละเอียดว่า จะได้รับการเสนอชื่อหรือไม่ แต่ถ้ามีสมาชิกเสนอก็พร้อมปฏิบัติที่ ซึ่งตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา ถือเป็นงานที่ตนยังไม่เคยทำ ต้องมีทักษะความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ แต่ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า การประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธานจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อถามถึงท่าที่ของส.ว.ต่อการโหวตนายกฯที่หลางฝ่ายจับตามองว่า สั่งได้นั้น นายศุภชัย กล่าวว่า คงไม่เป็นแบบนั้น วันนี้จะมีการปฏิญานตนในการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องทำความซื่อสัตย์สุจริต ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขออย่ามองในแง่ร้ายจนเกินไป บ้านเมืองต้องการความรักสามัคคี พวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งการโหวตเลือกนายกฯของส.ว.เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้น เชื่อว่าก่อนที่จะถึงวันนั้นคงหารือกันก่อน

นายสมเดช นิลพันธุ์ ส.ว.กล่าวต่อประเด็นที่ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบคุณสมบัติดำรงตำแหน่งส.ว. หลังจากพบกรณีที่กระทำความผิดต่อหน้าที่ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ดินเทศบาลตำบลธรรมศาลา จ.นครปฐม ว่า เป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่ต้องดำเนินการ ตนพร้อมรับการตรวจสอบ เพราะในฐานะส.ว.ที่มาจากการเลือกกันเองของสายจังหวัด โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐมเป็นผู้เสนอชื่อตนนั้น ก่อนการลงคะแนนเลือก กกต.เป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนอย่างครบถ้วนแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดีคดีที่นายศรีสุวรรณยื่นร้องต่อ กกต.​เป็นเรื่องที่เกิดเมื่อปี 2557 ซึ่งผลของคดีดังกล่าว ตนเคยไปให้ปากคำ และยอมรับว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช่การทุจริต เพราะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น สำหรับการตัดสินลงโทษไม่ใช่การให้ออกจากราชการแต่อย่างใด

ขณะที่ นายชยุต สืบสกุล ส.ว. ซึ่งถูกนายศรีสุวรรณ ยื่นเรื่องให้ กกต.​ตรวจสอบคุณสมบัติ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ กรณีที่เคยเป็นบุคคลที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการ เพราะมีพฤติกรรมประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุทุจริตเงินของอาสาสมัครรักษาดินแดน ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าว ระบุเพียงว่า “ผมขอไปทำธุระ”

ผู้สื่อข่าวซักถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นประเมินว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของส.ว. และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฐานะผู้แต่งตั้งหรือไม่ นายชยุต บอกว่า “ไม่เกี่ยว เพราะผมเลือกตั้งเข้ามา”

มติชนออนไลน์