งานวิจัยเผย การทานข้าวอาจช่วยยั้งโรคอ้วนได้

วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์บลูมเบิร์กของสหรัฐฯรายงานว่า มีงานวิจัยที่ออกมาเปิดเผยว่าการบริโภคข้าวอาจช่วยในการยับยั้งภาวะโรคอ้วนได้ โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่ารูปแบบอาหารที่มีข้าวเป็นพื้นฐานของชาวญี่ปุ่นและเอเชียจะก่อให้เกิดโรคอ้วนได้น้อยกว่าผู้ที่อาศัยในประเทศที่บริโภคข้าวในอัตราต่ำ

นักวิจัยกล่าวด้วยว่า กระแสการบริโภคอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ อย่างกินข้าวแบบจำกัดปริมาณกำลังเป็นที่นิยมกับกลุ่มคนลดน้ำหนักในประเทศพัฒนา แต่ผลจากการบริโภคต่อโรคอ้วนนั้น ยังไม่มีผลเป็นที่แน่ชัด

งานวิจัยนี้สำรวจการอัตราการบริโภคข้าวที่คิดเป็นกรัมต่อคนต่อและปริมาณแคลอรี่ จาก 136 ประเทศ รวมถึงการติดตามข้อมูลดัชนีมวลร่างกายหรือบีเอ็มไอ อย่างเช่นในอังกฤษ พบคนบริโภคข้าววันละ 19 กรัม ซึ่งต่ำกว่าประเทศอื่นอีกหลายแห่งอย่างแคนาดา สเปนและสหรัฐฯ

ไม่เพียงเท่านี้ นักวิจัยยังคำนวณว่า หากเพิ่มการบริโภคข้าวเป็นคนละ 50 กรัมต่อวันอาจลดปริมาณผู้เกิดโรคอ้วนทั่วโลกได้ 1%

ศาสตราจารย์โทโมโกะ อิมาอิ จากวิทยาลัยศิลปศาสตร์สตรีโดชิช่าในนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำทีมวิจัยกล่าวว่า จากการสำรวจชี้ว่าอัตราของโรคอ้วนมีอัตราต่ำในประเทศที่บริโภคข้าวเป็นอาหารพื้นฐาน ดังนั้น อาหารญี่ปุ่นหรืออาหารเอเชียที่มีข้าวเป็นพื้นฐานอาจช่วยยับยั้งโรคอ้วนได้ จากระดับโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก จึงควรให้บริโภคข้าวมากขึ้นเพื่อปกป้องจากโรคอ้วนแม้แต่ในประเทศตะวันตก

ศ.อิมาอิกล่าวอีกว่า เหตุที่ว่าทำไมข้าวช่วยได้นั้น เพราะข้าวมีไขมันต่ำและอาจให้ไฟเบอร์ องค์ประกอบของพืชและสารอาหารที่พบในธัญพืชอาจเพิ่มความรู้สึกอิ่มและยับยั้งการกินมากเกินไป

ขณะที่ แทม ฟรายด์ ประธานที่ประชุมแห่งชาติด้านโรคอ้วนกล่าวว่า เรารู้มาหลายศตวรรษว่าประชากรในตะวันออกไกล มีแนวโน้มที่จะผอมกว่าทางตะวันตกเพราะข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วนบางคนอาจชื่นชมว่าทำไม งานวิจัยใหม่นี้ จะเป็นครั้งแรกที่เราตั้งสมมติฐานว่าเราสามารถตอกตะปูปิดตายโรคอ้วนด้วยการกินในปริมาณที่น้อยมาก