เปิดคำสารภาพหนุ่มง้อโหด ลั่นไกดับเมียเก่า-แม่ยาย แค้นขอคืนดีแต่ถูกด่าแม่ เผ่นปราจีนจนมุมชัยนาท

เป็นความสูญเสียที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น สำหรับกรณีฆ่า 2 ศพ แม่ลูกที่ จ.ปราจีนบุรี

เพราะจุดเริ่มต้นมาจากความพยายาม ขอคืนดี เพื่อให้ชีวิตคู่กลับมาเหมือนเดิม

แต่เพราะความไม่ยับยั้งชั่งใจ ปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ จนตัดสินใจก่อเหตุสลด

ด้วยการยิงอดีตแม่ยาย และอดีตภรรยา จบชีวิตลง

แถมยังต้องหอบหิ้วลูกน้อยวัย 6 ขวบ หลบหนีข้ามจังหวัด จากปราจีนบุรีมาจนมุมที่ชัยนาท

ขณะที่เจ้าตัวเองก็เปิดใจเกือบจะปลิดชีวิตตัวเองตายตามเสียแล้ว ถ้าลูกน้อยไม่ขอเอาไว้เสียก่อน

เป็นเรื่องที่ควรเป็นอุทาหรณ์ ให้คนได้ใช้สติ ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง

★ ยิงดับ 2 ศพ คาร้านนวดปราจีนฯ

เหตุสลดดังกล่าวเป็นที่รับรู้ขึ้นเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 21 เม.ย. เมื่อร.ต.อ.สุมิตร อัครเนตร รองสารวัตรเวร สอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุฆาตกรรม 2 รายซ้อน ที่ร้านคุณรัตน์นวดแผนไทย เลขที่ 120/61 หมู่ 8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เป็นร้านห้องแถวอยู่ใกล้กับสี่แยกสามทหาร ถนนสุวรรณศร (กบินทร์บุรี-สระแก้ว) ประมาณ 150 เมตร ภายในร้านพบผู้เสียชีวิต 2 ราย รายแรกนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนอง ถูกยิงที่ท้ายทอย 1 นัด กระสุนฝังใน ทราบชื่อต่อมาว่าคือ นางปิยะนันท์ หรือ เอ๋ เจริญบูรณพันธุ์ อายุ 44 ปี

ห่างไปอีก 1 เมตร พบศพ นางวรีรัตน์ เจริญบูรณพันธุ์ แม่ของ นางปิยะนันท์ และเจ้าของร้านนวดแผนไทย สภาพศพนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองพื้น มีบาดแผลถูกยิงที่คิ้วขวา 1 นัด ตรวจสอบทั้งคู่ถูกกระสุนปืน .38 และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

เท่ากับว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่ นายพงษ์ยศ วงศ์วิโรจน์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้แจ้งความ และเป็นอดีตสามีของนางวรีรัตน์ เจ้าของร้านนวด ให้การกับตำรวจว่า ตนเลิกรากับนางวรีรัตน์มาแล้วประมาณ 6 ปี แต่มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ นายไตรภพ วงศ์วิโรจน์ อายุ 20 ปี
โดยก่อนเกิดเหตุ นายไตรภพ ที่เป็นลูกชายโทรศัพท์มาบอกเมื่อช่วงเย็นว่า แม่หรือนางวรีรัตน์ กับพี่สาวต่างบิดา คือนางปิยะนันท์ มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับนายตู่ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นอดีตสามีของนาง ปิยะนันท์ ที่เลิกรากันมาได้แล้วประมาณ 2 ปี

พร้อมระบุอีกว่า นายตู่ขับรถเก๋งทะเบียน จ.สุโขทัย เดินทางมาที่ร้าน เพื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจ และงอนง้อขอคืนดี ซึ่งจังหวะดังกล่าวนายไตรภพ โทรศัพท์คุยกับที่บ้านจนรู้เรื่องดังกล่าว จึงโทรศัพท์บอกตน ให้ช่วยเข้ามาดู เพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องรุนแรง

เมื่อรับทราบเรื่องราว ตนก็ขับรถมาถึงที่ร้านเมื่อเวลา 19.30 น. แต่ร้านปิดไฟมืด สับสวิตช์ไฟก็ไม่ติด ไปสับเบรกเกอร์ ไฟก็ยังไม่ติด จึงใช้ไฟฉายจากมือถือส่องดูภายในร้าน

ก็ต้องถึงกับช็อกเมื่อพบกับศพอดีตภรรยาและลูกเลี้ยงนอนอยู่เคียงกัน

ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าน้องพอร์ท เด็กชายวัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของนางปิยะนันท์กับไอ้ตู่ แฟนเก่า ยังหายไปด้วย คาดว่าจะถูกพ่ออุ้มพาหลบหนีไป

จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ เพื่อช่วยเหลือน้องพอร์ทมาให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย

การปฏิบัติการไล่ล่าจึงเกิดขึ้น!??

★ จับทันควันซุกป่าไพรนกยูง

พลิกคดีง้อโหด 2 ศพ ยิงดับ‘เมียเก่า-แม่ยาย’
หลังเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลก็เร่งตรวจสอบว่าแท้จริงแล้วนายตู่คนนี้มีชื่อจริงว่า นายทอง เขียวฉอ้อน อายุ 51 ปี เป็นชาวสระบุรี โดยขับรถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน กง 3320 สุโขทัย มาหานางปิยะนันท์ ที่ร้าน ก่อนมีปากเสียง จนเกิดเหตุสลดขึ้น และเมื่อเช็กวงจรปิดก็พบนายทอง เดินอยู่กับเด็กชายวัย 6 ขวบ ซึ่งคาดว่าจะเป็นน้องพอร์ท จึงสั่งขยายผลเช็กวงจรปิดตามหารถคันดังกล่าว

ในที่สุดก็ได้เรื่อง เมื่อมีผู้แจ้งว่าพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่กลางทุ่งนา ในอ.หันคา จ.ชัยนาท ขณะที่ น้องพอร์ท อยู่ในรถที่จอดไว้ ใกล้กับบ้านของน.ส.ดวงพร ทั่งทอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวต่างบิดา ล่าสุดพบว่าได้รับตัวน้องพอร์ทไว้ดูแล ในสภาพปลอดภัย
แต่ตัวนายทองนั้น ยังหลบหนี และมีพยานระบุว่า มีคนขับรถปิกอัพมารับไปจากจุดที่จอดรถ จึงเร่งติดตามล่าคนร้ายรายนี้ให้ได้

ด้านพ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาสน์ ผกก.สภ.หันคา ระบุว่า ได้ตรวจสอบทะเบียนราษฎรของนายทอง มือปืนโหดรายนี้ พบว่ามีพื้นเพอยู่ที่ ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท โดยมีเมียเก่า และลูกชาย พักอาศัยอยู่ที่บริเวณใกล้เคียง

จึงติดตามลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าภรรยาและลูกของนายทอง ไม่ทราบว่านายทองไปก่อเหตุอะไรมา และไม่ทราบว่านายทองเข้ามาในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ละความพยายาม เพราะยังเชื่อว่าน่าจะยังกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท อย่างแน่นอน

พร้อมกันนั้นพนักงานสอบสวนได้ยื่นขออนุมัติหมายจับในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา ซึ่งศาลกบินทร์บุรี อนุมัติหมายจับโดยมีอายุความ 20 ปี
และด้วยการตามล่าอย่างไม่ย่อท้อ ในที่สุดก็เกิดผลสำเร็จ เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 22 เม.ย. เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่านายทองไปกบดานอยู่ที่กระท่อมแห่งหนึ่ง เชิงเขาไพรนกยูง หมู่ 5 ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท

จึงนำกำลังไปตรวจสอบแล้วก็พบนายทองเดินอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ที่จ.24/2562

โดยนายทองยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับ และเป็นผู้ก่อเหตุยิงอดีตภรรยา และอดีตแม่ยายจริงเพราะความหึงหวงและโกรธแค้น

ก่อนจะนำเจ้าหน้าที่ไปขุดเอาอาวุธปืน .38 ของกลาง ที่ฝังดินเอาไว้พร้อมกระสุนในรังเพลิงอีก 3 นัด ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.กบินทร์บุรี

ปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว

★ หนุ่มง้อโหดเล่านาทียิง

หลังควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่สภ.กบินทร์บุรี พล.ต.ต.จรัญ จิตเจือจุน รองผบช.ภาค 2 พร้อมพล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ร่วมสอบสวนนายทองด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยผลการสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายทอง พร้อมอาวุธของกลางปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 3 นัด และปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 3 นัด ที่ผู้ต้องหานำไปฝังดินซุกซ่อนไว้ที่ทุ่งนา หมู่ 4 ต.ไพรนกยูง

โดยนายทองให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาหาอดีตภรรยาเพื่อพูดคุยและเคลียร์ปัญหา เพราะไม่พอใจที่อดีตภรรยาตีตัวออกห่าง แต่เมื่อมาถึงแล้วจะขอเจรจา อดีตแม่ยายก็ดุด่าตนเสียๆหายๆ แถมด่าลามไปถึงบุพการี จึงหยิบลูกปืนที่เตรียมไปออกมาให้ดู หวังว่าอดีตแม่ยายจะกลัว แต่ที่ไหนได้กลับด่าซ้ำ จึงชักปืนออกมาขู่ แล้วยิงใส่อดีตแม่ยายล้มทรุดลง

จังหวะนั้นนางปิยะนันท์ ก็เข้ามาแย่งปืน จนปืนลั่นใส่เสียชีวิต แล้วก็เห็นลูกเดินเข้ามา

“ครั้งแรกที่มาไม่ได้ตั้งใจมาฆ่า แต่มาเพื่อจะข่มขู่ แต่ถูกแม่ด่าว่า จึงใช้ปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด แฟนที่นอนอยู่โซฟา จึงเข้ามาแย่งปืน ทำให้กระสุนลั่นไป 1 นัด จากนั้นเกิดการแย่งปืนกันอีกปืนจึงลั่นถูกแฟน 1 นัด ล้มลงไป”

จากนั้นผมเริ่มเครียด จึงใช้ปืนจ่อที่ศีรษะ เพื่อจะฆ่าตัวตาย แต่ลูกขอร้องว่าป๊าอย่ายิงนะ ถ้าป๊าตายแล้ว หนูจะอยู่กับใคร ผมก็ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง จึงปิดไฟปิดประตู เดินออกนอกร้านเพื่อขึ้นรถกลับ แต่เด็กได้วิ่งตามออกมา

ผมจึงพาขึ้นรถเดินทางไปที่บ้านพี่สาวของเด็ก ที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท เพราะผมหาทางเลี้ยวเข้าบ้านไม่ถูก จึงสละรถ ให้ลูกนอนอยู่ในรถ และผมก็โทรศัพท์ให้ลูกชายมารับพาหนี เข้าไปหลบซ่อนในป่าเขาไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้

พร้อมคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ทิ้งไว้เพียงความเสียใจที่ได้ก่อเหตุลงไป