คุณเคยเกิดอาการเบื่อๆ เซ็งๆ กับชีวิต และไร้ซึ่งแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวันไหมคะ

สิ่งรอบตัวดูน่าเบื่อ และไร้ซึ่งความเร้าใจในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

มันเคยเกิดขึ้นกับฉันในวัย 40 ปีที่ผ่านมา…

ตอนนี้คิดว่า หรือเราจะเป็นวัยทอง (เฮ้ยยยย มันจะทองเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ)

ตอนนั้นก็หาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ทำไปเรื่อยๆ

จนเมื่อเจอการทำ Powerballs นั่นแหละค่ะ ชีวิตก็ไม่เคยเกิดอารมณ์เบื่ออะไรอีกเลย (ฮา)

การเดินทางในชีวิตมีภาค 2 3 4 เสมอ และรู้เลยว่าการเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ แม้แต่ความคิดของตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ฉันจึงชอบการเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่เสมอ อะไรที่ไม่รู้ยิ่งอยากทำให้มันรู้ มันเร้าใจตรงนี้ ฉันจึงไม่เคยกลัวกับการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่เคยทำ ที่ที่ไม่เคยไป คนที่ไม่เคยเจอ และงานที่ไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน

สำหรับฉัน เรื่องเหล่านี้ นำความตื่นเต้นมาเสมอ…

 

เมื่อฉันเข้าสู่โลกของธุรกิจมากขึ้น การเติบโตแบบเป็นสเต็ป ตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มกิจการ และตลอดเส้นทางที่ฉันอยู่กับมันทุกย่างก้าว ทำให้ฉันรู้ทุกอย่างที่ฉันทำ ในทุกตำแหน่งหน้าที่ ฉันพูดเลยว่าฉันทำมันทุกตำแหน่งแล้ว

ฉันไม่เคยกลัวว่าถ้าขาดใครไปเราจะอยู่อย่างไร ในเมื่อเราทำทุกอย่างมากับมือเรา เราแก้ปัญหาหรือเรื่องที่เซอร์ไพรส์ที่เกิดขึ้นกับเราทุกวัน ดังนั้น ในความรู้สึกคือ…เราเอามันอยู่มือ

ชีวิตมันคล้ายๆ การเดินทางจากจุดหนึ่งไปถึงจุดหนึ่งเสมอ

เช่น การที่เราเจอเรื่องนี้ ทำเรื่องนี้ เพื่อทำให้เรานำไปสู่จุดนั้น และจุดต่อๆ ไป แต่ถ้าเราไม่ได้ผ่านจุดอันนั้น เราก็ไม่สามารถมาเจอจุดอันนี้ได้ (เข้าใจนะคะ)

ดังนั้น ถ้าคุณกำลังเจอเรื่องที่ไม่ชอบใจ เสียใจ ผิดหวัง หรือใครทำคุณให้รู้สึกไม่ดี บางทีการเกิดขึ้นของเหตุการณ์เหล่านี้ ก็นำไปสู่จุดที่ดีของคุณในจุดต่อไป

อยู่ที่คุณจะเลือกว่าคุณจะไปจุดที่ดีขึ้น หรือจุดที่แย่ลง

 

เมื่อฉันเริ่มขายของ เรามีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง ฉันรู้ความรู้สึก รู้วิธี รู้ศาสตร์และศิลป์ของมัน

ในความสนุกคือ ทุกวันคือการเรียนรู้จริงๆ

ได้เจรจาต่อรอง ได้แก้ไขปัญหาของลูกค้า ได้บริหารบุคคล และได้เรียนรู้โลกของการเงินที่เปิดกว้างมากขึ้น

ฉันเป็นคนชอบเรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่แล้ว

ฉันเป็นเด็กที่ชอบเล่นธนาคารตั้งแต่ยังเด็ก ตัดเอาล็อตเตอรี่ที่ไม่ถูกของพ่อมาเป็นแบงก์ แล้วใส่กล่องช็อกโกแลต เล่นเป็นธนาคารให้เพื่อนฝาก-ถอนกัน

ฉันจึงมีความสนใจเรื่องการบริหารเงิน เก็บออม ทำให้เงินงอกเงยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

และเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เท่าที่มีความรู้ความสามารถ

พอในวันที่เราเปิดหูเปิดตากว้างขึ้น เรารู้ถึงโอกาสทางการเงินของเราที่มันเติบโตขึ้นได้ เราก็ลงมือทำ เรียนรู้มันอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน

และสิ่งใหม่ที่ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะมีวันนี้คือ

ฉันสามารถเข้าใจตัวเลขทางการเงินอย่างพวกงบต่างๆ ได้

ก่อนหน้านี้ฉันเบือนหน้าหนีมาโดยตลอด ภาษีก็ทำหน้าที่จ่ายๆๆ โดยดูก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง งบอะไรก็ดูไม่เป็น เจ้าหน้าที่บัญชีพูดอะไรออกมาก็เหมือนภาษาต่างดาว เหมือนคำพูดอยู่กันคนละโลก

แต่ในที่สุดเมื่อเราได้พยายามตัดสินใจฮึดสู้และบอกกับตัวเองว่า “ฉันรักตัวเลข ฉันเก่งเลข และฉันจะเข้าใจมัน”

แล้วฉันก็เข้าใจมันจริงๆ

 

ฉันเขียนงบกำไร ขาดทุนของบริษัทได้ ฉันเขียนงบกระแสเงินสดได้ ฉันเขียนงบดุลได้

เมื่อเรียนเสร็จ คืนนั้นฉันนั่งลงเขียนจนดึกดื่น เขียนด้วยปากกาลงกระดาษนี่แหละ มันได้อารมณ์ดี เพราะเอาจริงๆ ฉันก็เป็นคนชอบเขียนทรัพย์สิน การเงินของตัวเองอยู่เสมอ คอยอัพเดตการเงินของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

พอคราวนี้เรารู้แล้วว่ามันต้องเขียนอย่างไร ยิ่งมันเข้าไปใหญ่

แล้วมันดีอย่างไรน่ะเหรอ

ตัวเลขมันไม่หลอกเรา เหมือนเราหลอกตัวเอง (ฮา)

บางทีเราใช้ความรู้สึกว่า เอ้อ เราทำอันนี้น่าจะได้กำไรประมาณนี้แหละ แต่พอลงรายละเอียดตัวเลข เราจะเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่

หรือบางคนก็คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไปต่อไม่ได้แล้ว พอลงมือเขียน อ้าว รู้แล้วว่าเราได้เงินนี่ ก็จะได้คิดหาหนทางทำต่อ

หรือบางคนก็จะเห็นว่าตัวเองรวยขนาดไหน ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ

แต่การรู้ตัวเลขเหล่านี้ มันทำให้เราได้วางแผนการทำงาน และชีวิตของเราต่อไปได้

เราต้องลดอะไร เพิ่มตรงไหน ตรงไหนที่พอดีสำหรับเรา ได้แค่นี้พอใจแล้วหรือยัง

ซึ่งถ้าเราไม่เขียนมันออกมา มันจะมองไม่เห็นเลย

เพิ่งเข้าใจในวันนี้เองว่า…ตัวเลขมันเซ็กซี่อย่างนี้นี่เอง!!!!