วงค์ ตาวัน : ไล่ ‘นักการเมืองชั่ว’ ด้วยระบอบประชาธิปไตย

วงค์ ตาวัน
REUTERS/Kim Hong-Ji

สถานการณ์ในเกาหลีใต้ กลายเป็นหัวข้อใหญ่ในบทสนทนาของนักประชาธิปไตย เมื่อนักการเมืองถูกเปิดโปงพฤติกรรมฉาวโฉ่ จนประชาชนรับไม่ได้ ลุกฮือชุมนุมกันนับล้านเพื่อขับไล่ สุดท้ายจบลงด้วยการใช้กลไกของสภา ถอดถอนประธานาธิบดีหญิงผู้อื้อฉาวพ้นจากตำแหน่ง เหลืออีกเพียงขั้นตอนเดียวก็จะเป็นการโดนปลดอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ถือเป็นชัยชนะในการต่อสู้ของประชาชน ในการจัดการกับนักการเมืองคอร์รัปชั่น โดยไม่จำเป็นต้องไปอาศัยอำนาจรถถัง อำนาจนอกระบบใดๆ

“บรรลุเป้าหมายในการขจัดนักการเมืองเลวร้าย โดยไม่ทำลายอำนาจของประชาชนเอง ระบอบประชาธิปไตยก็เดินหน้าต่อไปอย่างเป็นปกติ เศรษฐกิจการค้าก็ไม่ต้องถดถอย”

ทำให้นึกถึงประเทศไทย ถ้าเลือกหนทางแก้ปัญหานักการเมืองประพฤติมิชอบ ด้วยการรักษาประชาธิปไตยเอาไว้ต่อไป

เราก็ไม่ต้องถอยหลังจนกลายเป็นประเทศล้าหลัง ธุรกิจการค้าการลงทุนก็ไม่ต้องประสบภาวะวิกฤตอย่างในวันนี้

“การแก้ปัญหาการเมืองของเกาหลีใต้ จึงเป็นแบบอย่างที่ควรเรียนรู้อย่างยิ่ง!”

 นางชเว ซุน ซิล ที่ได้ฉายา รัสปูตินหญิงแดนเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ของเกาหลีใต้ มาขึ้นศาลในการเปิดการไต่สวนคดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 59 (AFP PHOTO / KOREA POOL / KOREA POOL / South Korea OUT)
นางชเว ซุน ซิล ที่ได้ฉายา รัสปูตินหญิงแดนเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ของเกาหลีใต้ มาขึ้นศาลในการเปิดการไต่สวนคดีครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 59 (AFP PHOTO / KOREA POOL / KOREA POOL / South Korea OUT)

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ในแดนโสมขาวหนนี้ มาจากการเปิดโปงพฤติกรรมของ นางชเว ซุน ซิล เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีหญิง ปาร์ก กึน เฮ

โดยพบว่าเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังผู้นำหญิง ทั้งที่ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในทางการเมืองและการบริหารประเทศเลย แต่กลับมีอิทธิพลราวประธานาธิบดีเงา ก้าวก่ายกิจการงานรัฐได้

ทั้งพฤติกรรมครอบงำประธานาธิบดีได้ และความที่เป็นทายาทของผู้นำทางจิตวิญญาณ พ่อมดหมอผี จึงมีการตั้งฉายา นางชเว ซุน ซิล ผู้นี้ว่า รัสปูตินหญิง

“ขณะที่จุดหักเหในชะตากรรมของรัสปูตินหญิงนี้ มีที่มาราวกับนิยายขายดี!”

โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เริ่มต้นมาจากการที่รัสปูตินหญิง ไปมีสัมพันธ์กับหนุ่มวัย 40 ที่อายุน้อยกว่าเธอราว 20 ปี โดยหนุ่มหน้าตาดีคนนี้เป็นเจ้าของกิจการกระเป๋าถือสตรียี่ห้อดัง เมื่อ นางชเว ซุน ซิล สนใจอยากซื้อกระเป๋ายี่ห้อนี้ ก็ได้พบกับเจ้าของกิจการหนุ่ม เกิดถูกอกถูกใจกัน เลยทุ่มซื้อสินค้าแบบไม่อั้น

ต่อมาความสัมพันธ์ต้องมาสะดุด เมื่อทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องฝากสุนัขตัวโปรดไปให้ช่วยเลี้ยง นำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง และกดขี่ข่มเหงกัน ทำให้ฝ่ายชายเจ็บแค้น แอบเก็บหลักฐานมัดรัสปูตินหญิง ว่าเข้าไปแทรกแซงกิจการรัฐ และบงการผู้นำการเมืองเช่นไร จนเมื่อได้เวลาอันเหมาะสมได้หอบหลักฐานเหล่านั้นออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

กลายเป็นเรื่องอื้อฉาว กระแสความไม่พอใจจากประชาชนลุกลามไปทั่ว

ลงเอยรัสปูตินหญิงถูกดำเนินคดีและลามถึงเก้าอี้ประธานาธิบดี ปาร์ก กึน เฮ จนโดนถอดถอนในที่สุด!

Tens of thousands of protesters hold candles during an anti-government rally in central Seoul on November 19, 2016 aimed at forcing South Korean President Park Geun-Hye to resign over a corruption scandal. Tens of thousands of protestors gathered in Seoul for the fourth in a weekly series of mass protests aimed at forcing President Park Geun-Hye to resign over a corruption scandal. / AFP PHOTO / POOL / JUNG YEON-JE
AFP PHOTO / POOL / JUNG YEON-JE

ประชาชนเกาหลีใต้ ที่ชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดีหญิง ต่างพากันไชโยโห่ร้องฉลองชัยชนะ ในทันทีที่สมาชิกสภาเกาหลีใต้ลงมติเห็นชอบกับญัตติถอดถอนประธานาธิบดี ปาร์ก กึน เฮ ผู้นำหญิง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยเป็นการถอดถอนจากกรณีคอร์รัปชั่น เพราะมีส่วนในการหาผลประโยชน์ของเพื่อนสนิท ด้วยคะแนนเกินกว่า 2 ใน 3 ของสภา

ผลจากมตินี้ ทำให้ประธานาธิบดีถูกระงับอำนาจบริหารชั่วคราว มอบต่อให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่แทน ขั้นตอนต่อไปเป็นการพิจารณาของคณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ หากผลการพิจารณาเป็นไปตามนี้ เท่ากับเป็นการปลดพ้นจากตำแหน่งอย่างถาวร

AFP PHOTO / SEO YOUNG-SOO
AFP PHOTO / SEO YOUNG-SOO

สำหรับ น.ส.ปาร์ก ชนะการเลือกตั้งและเป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ เมื่อปี 2556 ถือเป็นประธานาธิบดีขวัญใจมหาชนในช่วงปีแรกๆ เนื่องจากเป็นลูกสาวของ นายปัก จุง ฮี อดีตประธานาธิบดีที่ถูกลอบสังหารเมื่อปี 2522

“จนเมื่อเกิดข่าวเปิดโปงรัสปูตินหญิง ช็อกผู้คนทั้งเกาหลีใต้ คะแนนนิยมจึงตกต่ำดำดิ่ง กลายเป็นการชุมนุมประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนนับล้าน ส่งผลให้สภาต้องดำเนินการถอดถอนในที่สุด”

ไม่ใช่แค่เรื่องการเข้าไปแทรกแซงอำนาจประธานาธิบดีหญิงเท่านั้น แต่เรื่องใหญ่สุดคือการที่รัสปูตินหญิง ก่อตั้งมูลนิธิส่วนตัวขึ้นมา แล้วเรี่ยไรเงินบริจาคเข้ามูลนิธิจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้จำนวนมหาศาล ทำให้บริษัทดัง เช่น ซัมซุง แอลจี ฮุนได ลอตเต โดนสอบสวนกันระนาว

นี่เข้าข่ายใช้อิทธิพลส่วนตัวไปหาผลประโยชน์อันมิชอบอย่างรุนแรง และยังน่าสงสัยถึงผลประโยชน์ต่างตอบแทนระหว่างนางชเวกับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้อีกด้วย

แถมยังมีการสาวไส้ด้วยว่า เงินในมูลนิธิดังกล่าวก็นำไปใช้เรื่องส่วนตัวมากมาย เช่น ใช้ในกิจกรรมลูกสาวที่เป็นนักขี่ม้าชื่อดัง

กลายเป็นคดีคอร์รัปชั่นเขย่าไปทั้งเกาหลีใต้ ส่งผลให้ 2 สตรีผู้มีอิทธิพลถึงจุดจบ!

จะเห็นได้ว่า เมื่อมีการเปิดโปงความเลวร้ายของผู้นำการเมือง จนทำให้ประชาชนทั้งเกาหลีใต้ไม่พอใจ กลายเป็นม็อบที่ชุมนุมต่อเนื่องหลายระลอก แต่ทั้งผู้ที่ออกมาประท้วง และกระบวนการแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศนี้

ไม่มีใครหันไปใช้หนทางนอกระบบ

ไม่มีใครขยายประเด็นความชั่วร้ายของนักการเมือง เพื่อนำไปสู่การล้มระบอบประชาธิปไตย

REUTERS/Kim Hong-Ji
REUTERS/Kim Hong-Ji

“ไม่มีใครต้องมาร่ายมนต์สะกดจิตคนส่วนใหญ่ให้หลงทิศผิดทางว่า เมื่อการเมืองเต็มไปด้วยการคดโกง ควรจะต้องหยุดประชาธิปไตย ต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”

เพราะนั่นเท่ากับทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อ ต้องสูญเสียอำนาจทางการเมืองที่อยู่ในมือคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว เอาไปมอบให้คนหยิบมือเดียวเอาไปใช้แทน แล้วมากำหนดกติกามากมาย โดยไม่เคยถามประชาชน ไม่เคยฟังความเห็นชาวบ้าน

ทำให้คนส่วนใหญ่ถูกกีดกันออกจากการเมือง ไปนั่งนอนรอ พอเขากำหนดอะไรเสร็จสิ้น ก็มาเล่นตามกฎที่มีการกำหนดเอาไว้หมดแล้ว แถมเป็นกติกาที่ทำให้อำนาจของนักการเมือง ซึ่งเชื่อมโยงประชาชนมากที่สุด แทบหมดสิ้นไป

“แปลว่าปฏิรูปเสร็จ ประชาชนยิ่งไร้อำนาจทางการเมือง ยิ่งไม่มีส่วนร่วม ยิ่งไม่ต้องมีความคิดพัฒนาก้าวหน้า”

แน่นอนว่า กลไกในระบบของเกาหลีใต้เข้าที่ข้างทางอยู่แล้ว ดังนั้น การแก้ปัญหาตามระบบจึงเป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรติดขัด

แต่ระบบของเกาหลีใต้ พัฒนาขึ้นมา ด้วยการเติบโตทางการเมืองร่วมกันของประชาชน

“เพราะเกาหลีใต้ ไม่มีการรัฐประหารมายาวนานหลายสิบปี!!”

หมายความว่า เมื่อประชาธิปไตยดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง คนส่วนใหญ่ก็เรียนรู้และยกระดับกันไปได้ต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

การพัฒนาการเมือง มีแต่ต้องทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่มีใครมาฉุดให้ถอยหลังอยู่เป็นระยะ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมและร่วมกันยกระดับให้มีคุณภาพมากขึ้น

วันนี้คนเกาหลีใต้ฮือขับไล่ผู้นำ เพื่อให้กลไกสภาจัดการตามระบบ การเมืองก็มั่นคงก้าวหน้า การค้าก็เจริญรุ่งเรืองต่อไป!