เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นายรังสิมันต์ โรม ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เดินทางมาปราศรัยช่วยลูกพรรคประกอบด้วยนางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ ผู้สมัครเขต 1 น.ส.ธัชญา จวงสันทัด ผู้สมัครเขต 2 นายอำนาจ ศรีแสง ผู้สมัครเขต 3และนายพัฒนพงศ์ หนูอุดม ผู้สมัครเขต 4 ท่ามกลางพี่น้องประชาชนและแฟนคลับกว่า400 คนมารอการปราศรัยตั้งแต่เวลา 18.00น.เป็นต้นไปโดยก่อนที่นายธนาธร จะเดินทางมาถึงมีนายรังสิมันต์ โรม นายปิยบุตร น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับ ที่บริเวณลานน้ำพุสตาร์ ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง

นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ผมเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 16 นโยบายที่ผมพูดถนัดที่สุดคือนโยบายการปฏิรูปกองทัพ นโยบายและสวัสดิการและเรื่องการปฏิวัติการศึกษา 3 นโยบายนี้ผมจะพูดอยู่เสมอว่าเราต้องแก้ ผู้สมัครแต่ละคนชูนโยบายไม่เหมือนกัน แต่นโยบายที่ชูคือนโยบายพรรคเหมือนกัน แต่ผมจะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปกองทัพมากที่สุด ดังนั้นจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ยกเลิกการสู้กับหญ้าฆ่ากับมด ยกเลิกการเป็นทหารรับใช้ ยกเลิกบรรดาอุปสรรคใดๆที่ทำให้เยาวชนของเราไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่จะมอบเป็นของขวัญให้กับพวกเรา พรรคอนาคตใหม่อยากให้เยาวชนทุกคนถ้าทำกันได้เสร็จจากเวทีปราศรัยโทรบอกแม่ บอกพ่อ และพี่ป้าน้าอาทุกคน วันที่ 24 มีนาคมนี้กาพรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นเวทีปราศรัยว่าผมจะชี้เรื่องความสำคัญนโยบายของพรรคอนาคตใหม่คือเรื่องประชาธิปไตย ประชาธิปไตยสำคัญอย่างไรกับนโยบายต่างๆที่เราผลิตขึ้นมา นโยบายของพรรคการเมืองแต่ละพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้มีความก้าวหน้ามากและก็คล้ายๆกันหมด มีความแตกต่างในรายละเอียด แต่นโยบายเหล่านี้จะไม่มีวันทำได้สำเร็จ ถ้าบ้านเมืองนี้ยังไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้า คสช.ยังครองอำนาจเป็นรัฐบาลต่อ ถ้า คสช.ยังสืบทอดอำนาจต่อ ประชาธิปไตยครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่พี่น้องจะชี้ชะตาว่าเราจะเลือกอยู่กับประชาธิปไตยหรือเราจะยอมทนยอมจำนนอยู่กับเผด็จการ พร้อมอ้อนขอคะแนนเลือกผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 4 เขต นายธนาธร หัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

เมื่อเวลา 22.00น.วันเดียวกันนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เดินทางมาถึง ต้องรีบขึ้นเวทีปราศรัยทันทีเพราะเกรงใจพี่น้องประชาชนต้องนั่งรอมานานหลายชั่วโมง ว่าทะเลชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ระยองชลบุรี จันทบุรีและตราด จุดเริ่มต้นของพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ระยอง เกิดขึ้นที่นี่ และที่นี่จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถามว่าใครได้ประโยชน์สูงสุดโครงการพัฒนาอีอีซี การพัฒนาอีอีซีที่ไม่ฟังเสียงประชาชน สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือดอกผลของการพัฒนาอีอีซีจะตกไปอยู่กับนายทุนที่อยู่กรุงเทพฯ และนายทุนที่อยู่ต่างประเทศ อำนาจที่เหลื่อมล้ำกันจึงทำให้การพัฒนาในประเทศ ดอกผลของการพัฒนาจึงไปกระจุกตัวอยู่ในมือคนไม่กี่คน คนที่รับกรรมเรื่องสิ่งแวดล้อมคือคนระยอง ผมพึ่งกลับมาจาก จ.ลำปาง คนลำปางก็เจอโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ออกแบบโดยคนจากส่วนกลาง ท้องถิ่นไม่เคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ คนที่อยู่รอบบริเวณโรงไฟฟ้ารับกรรม รับมลพิษที่เกิดจากการพัฒนา

นายธนาธร กล่าวต่อว่า จีดีพีรายได้ต่อหัวของคนระยองถือว่าเป็นจังหวัดที่สูงที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศ ตัวเลขจีดีพีมันหลอกลวงเพราะตัวเลขจีดีพีไม่ได้บอกว่าเงินไปอยู่ที่ใครบ้างเอาแต่ค่าเฉลี่ยมา ถามว่าคนระยองที่อยู่โดยรอบที่ไม่ได้อยู่ในเขตอุตสาหกรรม มีรายได้มากกว่าคนอื่นหรือเปล่าคำตอบคือไม่ พ่อแม่พี่น้องนี่คือเหตุผลที่เราต้องเอาความจริงมาพูดกันว่าความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ในสังคมไทย ต้นตออยู่ที่อำนาจทางการเมือง พวกเราถึงได้เรือดำน้ำมาดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

มติชนออนไลน์