อนุสรณ์ ติปยานนท์ : ชะตากรรมจากความโดดเดี่ยว

รัก/หลง/เมือง (9)

เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง หนังสือในมือร่วงหล่นลงพื้น

เขาปรารถนาจะพบเธออีกสักครั้งก่อนจากเมืองนี้ไป

แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบเธอที่นี่

พบเธอในลักษณะนี้ เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลเคลื่อนร่างของเธอบนรถเข็นไปยังห้องฉุกเฉิน มีชายหนุ่มของเธอติดตามไป

เขาหยุดอยู่กับที่ ความตั้งใจที่จะตามเธอไปสิ้นสุดลง ไม่มีพื้นที่ให้เขาในโลกของเธอ แม้ในยามที่เธอบาดเจ็บ แม้ในยามที่เธอไม่รู้สึกตัว

รถฉุกเฉินแล่นออกจากโรงพยาบาลไป

เขาเก็บหนังสือที่ตกอยู่ที่พื้นใส่เป้สะพายหลัง เขาควรตามรถฉุกเฉินคันนั้นไปไหม ออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้ไป เขามาที่นี่เพื่อหลีกหนีเธอ แต่เขากลับพบเธออย่างไม่คาดฝัน

เขาไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าเธอบาดเจ็บเพราะเหตุใด

เขาไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าอาการบาดเจ็บของเธอมากน้อยเพียงใด

แต่อย่างน้อยเขาเชื่อว่าเธอคงต้องอยู่ที่นี่อย่างน้อยหนึ่งถึงสองวัน

ดังนั้น หากเขาจะออกเตร็ดเตร่ไปในเมือง เดินซอกซอนไปในเมือง เขาจะไม่มีทางได้พบเจอเธอกับชายหนุ่มของเธอ

นี่เป็นโอกาสดีและโอกาสเดียวที่เขาจะได้เผชิญความเป็นไปในเมืองโดยไม่มีภาพเขาและเธอติดตาม

แต่แล้วเขากลับตรงเข้าไปในโรงพยาบาล เลือกม้านั่งยาวตัวที่ติดกับประตูห้องฉุกเฉินมากที่สุดและนั่งลง

 

ประตูฝ้ามัว ขจัดทุกสายตาแห่งการมองเห็นอันชัดเจน เขาเห็นเครื่องแบบของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวิ่งสับสนไปมา

เขาเห็นแพทย์สองสามคนเดินเข้าประตูนั้นไป

ช่วงที่ประตูถูกเปิด เขาเห็นภาพชายหนุ่มของเธอนั่งอยู่ที่ม้านั่งยาวหน้าห้องฉุกเฉิน ชายหนุ่มผู้มีตัวตนในชีวิตเธอ

แตกต่างจากเขาที่เป็นเพียงภูตผีไร้ร่องรอย

เขาถอนหายใจ เราอาจเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีตัวตน แต่สำหรับบางคนแล้ว เราเป็นเพียงวิญญาณที่ล่องลอย

ราวครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มของเธอเดินออกจากประตูนั้นมา เขามีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

เขาเดินตรงไปที่ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หยอดเหรียญและรับเอาน้ำเปล่าหนึ่งขวดจากตู้

ชายหนุ่มของเธอไม่ได้กลับไปในเขตห้องฉุกเฉิน แต่กลับนั่งลงที่ม้านั่งยาวหน้าห้องฉุกเฉิน ม้านั่งยาวตัวเดียวกับเขานั่นเอง

เป็นครั้งแรกที่เขาได้สังเกตเห็นชายหนุ่มของเธออย่างชัดเจน

และเป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจจะทำเช่นนั้นด้วย

เขาพยายามหลีกเลี่ยงการมองชายหนุ่มของเธออย่างเต็มตา หากเราไม่เห็นสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมไม่มีอยู่ นั่นคือความเชื่อของเขา

แต่เมื่อชายหนุ่มของเธอนั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกันกับเขา การกระทำเช่นนั้นย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้อีกต่อไป

เขาพบว่าเสื้อผ้าของชายหนุ่มของเธอมีคราบเลือดเช่นกัน อาจเป็นเลือดจากร่างของเขา หรืออาจเป็นเลือดจากร่างของเธอ เขาไม่แน่ใจ

สิ่งเดียวที่เขาแน่ใจคือชายหนุ่มของเธอมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา

แตกต่างกันตรงใบหน้า ใบหน้าของเขาเรียวยาวมีโหนกแก้ม ผมของเขาหยักศก

ในขณะที่ใบหน้าชายหนุ่มของเธอโค้งมน ดูอิ่มเอิบสมบูรณ์

เส้นผมของเขาเหยียดตรงและถูกจัดแต่งอย่างบรรจง

เขาแลดูเหมือนคนที่ไม่สนใจตนเอง ในขณะที่ชายหนุ่มของเธอแลดูเหมือนคนที่เดินออกจากแผ่นป้ายโฆษณา

เขาแลดูโดดเด่นแม้ในยามที่ดูอ่อนล้าและสิ้นเรี่ยวแรง

 

เขาถอนหายใจ ลุกจากม้านั่งยาว ตรงไปที่ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ หยอดเหรียญ รับน้ำเปล่าหนึ่งขวดมาก่อนจะกลับมาที่นั่งของตน

ชายหนุ่มของเธอไม่แม้แต่จะเหลือบตามองเขา สายตาของเขาจับจ้องไปที่ประตูทางเข้าห้องฉุกเฉิน

เขาไม่เพียงไม่มีตัวตนในโลกของเธอ เขาไม่มีตัวตนในโลกของคนอื่นด้วยเช่นกัน

เข็มนาฬิกาดำเนินไป ชายหนุ่มของเธอมีอาการกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่เขามีแต่ความเศร้า ไม่ว่าผลของเรื่องราวนี้จะเป็นเช่นไร

ชายหนุ่มของเธอคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอ ในขณะที่เขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ตกอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ต้องการเขา

กระนั้นเขาก็รู้ดีว่าตนเองไม่อาจผละจากที่แห่งนี้ไปได้

กระนั้นเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจลุกออกจากที่นั่ง เดินหายไปในเมือง และทำใจหลงลืมทุกสิ่งไป

เขาต้องเฝ้ารอ เฝ้ารอจนกว่าจะรู้แน่แก่ใจว่าเธอปลอดภัย

และหากผลลัพธ์เป็นแบบอื่น เขาก็จะเฝ้ารอจนกว่าร่างของเธอจะหายลับไปจากสายตา

เขาเคยเห็นเธอหายลับไปจากสายตาของเขาหลายครั้งแล้ว

ดังนั้น ถ้าหากเธอจะหายลับจากสายตาของเขาอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย

เขาก็จะทานทนมัน แม้ว่าการหายลับครั้งนี้จะนำพาเอาความเจ็บปวดอย่างเหลือแสนมาให้เขาก็ตามที

เกือบสองชั่วโมงที่ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก

และประตูทางเข้าสู่ห้องฉุกเฉินก็เปิดตามมา เขาแน่ใจว่าสิ่งที่เขารอคอยกำลังจะมาถึงแล้ว

นายแพทย์คนหนึ่งเดินตรงมาที่ม้านั่ง คล้ายดังในภาพยนตร์หรือละครที่มีฉากดังกล่าวจนเจนตา

นายแพทย์ผู้นั้นพูดเบาๆ กับชายหนุ่มของเธออยู่ชั่วครู่ จากสีหน้าของนายแพทย์และชายหนุ่มของเธอ เขารู้ได้ว่ามันเป็นข่าวดี

ชายหนุ่มของเธอถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินตามนายแพทย์ผู้นั้นไปยังห้องฉุกเฉิน

เขาถูกทิ้งไว้เพียงลำพังอีกครั้ง

เขาดื่มน้ำจากขวดจนหมด ก่อนจะคว้าขวดเปล่าของเขาและของชายหนุ่มของเธอไปทิ้งลงยังถังขยะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ปลายทางเดิน

 

น่าขันที่เขาช่างเป็นคนใส่ใจคนอื่นเหลือเกิน ชายหนุ่มผู้นั้น ชายหนุ่มของเธอทิ้งขวดเปล่าให้เขาจัดการ เขาทำได้เพียงเท่านี้เองหรือ จัดการขยะที่ไม่มีใครสนใจ

ในขณะที่บุคคลอื่นทำสิ่งที่สูงส่งกว่านั้น เขานึกเหยียดหยันตนเอง นี่เขาเป็นเพียงคนที่คอยเก็บกวาดสิ่งที่คนอื่นหลงลืมแล้วกระนั้นหรือ ใช่สิ เขาเป็นคนแบบนั้น คนที่ถูกหลงลืมเก็บกวาดสิ่งของที่ถูกหลงลืม

เปลเข็นที่มีร่างของเธอแล่นมาตามทางเดิน หญิงสาวผู้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งของจำนวนมากรอบตัวมากกว่าตอนที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ ถังออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ เครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพจร

เธอหลับสนิท แต่ในขณะที่เปลเข็นชะลอความเร็วเพื่อหลบร่างของเขา หญิงสาวผู้นั้นก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอจ้องมองมาทางเขา ดวงตาของเธอสบกับดวงตาของเขา เป็นการสบตาครั้งแรกนับตั้งแต่เขาตกหลุมรักเธอ

ดวงตาของหญิงสาวอิดโรยไม่แจ่มใสเหมือนดังกาลก่อน

เธอต้องการการพักผ่อนอย่างยิ่ง เขาเชื่อว่าหญิงสาวผู้นั้นควรจะได้หลับสนิทอย่างน้อยนานนับชั่วโมง เธอแลดูปราศจากเรี่ยวแรง อ่อนล้า อิดโรย ราวกับคนที่ผ่านการเดินทางไกล

จริงสิ เธอเพิ่งผ่านการเดินทางไกล เธอเดินทางไกลกลับมาจากความตาย

 

เขายืนมองจนเปลเข็นและร่างของเธอหายลับไป ก่อนจะพบว่าชายหนุ่มของเธอก็เดินผ่านเขาไปด้วย ชายหนุ่มผู้นั้นสาวเท้ายาวๆ ตามติดเปลเข็นไป เขาโยนขวดพลาสติกเปล่าสองใบลงในถังขยะ กระชับเป้สะพายหลัง และมุ่งหน้าเดินออกจากโรงพยาบาล

เมื่อเขาออกจากโรงพยาบาล เขาพบว่ามันเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ร้านค้าริมทางเดินเปิดขายกันอย่างคึกคัก พ่อค้าเร่ที่ปูผ้าใบขายตามถนนสายหลักในเมืองวางสิ่งของขายของตนเองอย่างคึกคัก

เมืองกำลังเริ่มต้นชีวิตในยามค่ำของมันอีกครั้ง

ในขณะที่เขารู้สึกเหมือนดังเพิ่งจบชีวิตภาคหนึ่งของตนเองไป

เขาตรงไปยังร้านเหล้าร้านเดิม สั่งเครื่องดื่มแบบเดิม แต่กลับไม่แตะต้องมัน

สิ่งที่เขาทำมีเพียงแค่การจ้องมองไปที่ถนนสายหลัก ดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่มีเธอปรากฏตัวอีกแล้ว

ไม่มีเรื่องราวให้แปลกประหลาดใจอีกแล้ว

มีแต่การมอง มีแต่การเฝ้าดู ไม่มีความคาดหวัง สำหรับเขาแล้ว

เมืองๆ นี้ไม่อาจสร้างความรู้สึกใดๆ ให้เขาได้อีกต่อไป

เขานั่งอยู่กับเครื่องดื่มของตนเองจนมันละลายจาง

ก่อนจะสั่งแก้วใหม่ และแก้วใหม่ เบื้องหน้าเขาประกอบไปด้วยเครื่องดื่มชนิดเดียวกันที่เขาไม่แตะต้อง เขาจะทำอย่างไรต่อไปดี ทุกอย่างดูเวิ้งว้างไปหมด

แรกเริ่ม เขาตกหลุมรักใครคนหนึ่ง ต่อมาเขารู้สึกได้ว่าความรักไม่อาจสมหวัง ต่อมาเขาหนีจากความรักนั้น ต่อมาเขาพบความรักนั้นอีกครา และต่อมาความรักนั้นหนีหายเขาอีกครั้งหนึ่ง

เขาควรทำเช่นไร ยอมรับว่าตนเองพ่ายแพ้ หลบหนีไปที่อื่นอีกหรือจมอยู่ที่นี่อย่างคนสิ้นไร้ไม้ตอกดี

เขาหาบทสรุปให้ตนเองไม่ได้เลย ทอดทิ้งหรือยึดมั่น ละเลิกหรือเดินหน้า สิ้นหวังหรือยังมีหวัง

โชคชะตาดูช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับคนโดดเดี่ยวอย่างเขาที่พยายามจะมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็พยายามจะมีชีวิตอยู่ให้ได้ในเมืองใดสักเมือง