“จตุพร” ชี้ เลือกตั้ง 62 ต้องไม่สกปรก-ไม่ฉ้อฉลเพื่อประเทศสงบ จี้ คสช.ปลดล็อกทั้งหมด-รวมสื่อด้วย

“จตุพร” ชี้การเลือกตั้งที่มีความสกปรก ฉ้อฉลมาก จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ประเทศเสียเงินฟรี นำพาสู่การยึดอำนาจ พร้อมติงคำสั่งปลดล็อกอย่าใจแคบ ชี้เลิก กม. แต่ดำเนินคดีเก่า ร้องปลดล็อกสื่อมวลชนด้วย วอนทุกฝ่ายเสียสละ หนุนทำบ้านเมืองสงบ ขณะ ปท.กำลังมีพระราชพิธีสำคัญ

วันที่ 13 ธันวาคม 2561 นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวภายหลังเป็นวิทยากรของสถาบันพัฒนาการเมืองพรรคเพื่อชาติที่จังหวัดระนองว่า หากต้องการให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งจะต้องมีความยุติธรรม เสมอภาค ชัยชนะที่ได้มาโดยมิชอบ ฉ้อฉล จะสร้างความไม่ชอบธรรม และจะนำพาสู่ปัญหา เช่นการเลือกตั้งเมื่อปี 2500 ที่มีหลายฝ่ายยกตัวอย่าง เป็นการเลือกตั้งที่มีความสกปรก ฉ้อฉลมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นำพาสู่การยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

รวมทั้งเห็นว่า เรามีประวัติศาสตร์กันแล้ว การเลือกตั้งครั้งล่าสุด 2 ครั้งติดต่อกันที่เป็นโมฆะทั้งปี 2549 และปี 2557 บรรยากาศเช่นนั้นไม่ควรเกิดอีกแล้ว ประเทศไทยไม่ควรหมดเงินแบบฟรีๆ ให้กับการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ

รวมถึงเรื่องบัตรเลือกตั้ง ตนอยากจะฝากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ควรกำหนดให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ มีโลโก้พรรคให้เต็ม เพราะหน้าที่ของ กกต.คือให้คนเกิดความสะดวก ในการไปใช้สิทธิ เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีตั้งแต่ 18 ปีเป็นต้นไป จนถึงผู้สูงอายุ ควรจะทำอะไรให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ เพราะวัตถุประสงค์ของการเลือกตั้ง ก็คือให้ประชาชนสามารถทำตามเจตนารมณ์ของตัวเองได้ ไม่ใช่ไปสร้างความยากลำบาก

“การเลือกตั้งที่โมฆะทั้ง 2 ครั้งหลังสุด เป็นสิ่งที่ กกต.ประกาศว่าทำได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เป็นโมฆะ หลังจากนั้นก็เกิดการยึดอำนาจ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก”

นายจตุพร กล่าวว่า ตนว่าประเทศไทยเราเสียหายมากพอแล้ว ทุกฝ่ายควรจะเสียสละเพื่อบ้านเมือง และทุกฝ่ายก็ต้องรู้เหมือนกันว่า ประเทศไทยกำลังจะมีพระราชพิธีสำคัญ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รัฐบาลที่ดี ที่ถูกต้อง เพื่อรอรับพระราชพิธีที่คนไทยรอคอยอยู่ในขณะนี้

 

คสช.ต้องปลดล็อกทั้งหมด-คลายคำสั่งจำกัดเสรีภาพสื่อ

เมื่อถามถึงคำสั่งที่เกี่ยวกับการปลดล็อกการเมือง นายจตุพรกล่าวว่า การปลดล็อกอย่างที่ทราบกัน เป็นการคลายล็อกที่ยังไม่ปลดอย่างเบ็ดเสร็จอย่างที่ควรจะเป็น บางเรื่องไม่ควรที่จะทิ้งไว้เป็นปัญหา เช่นกรณีคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน แม้ว่ายกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทิ้งประเด็นเอาไว้ว่า ผู้ที่ถูกดำเนินคดีมาก่อน ยังจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป

“ในทางกฎหมายเอง เมื่อคำสั่งนี้ไม่มีโทษอีกต่อไป มันก็ไม่ควรจะมากำหนดว่า จะต้องดำเนินคดีต่อ เพราะวันที่ดำเนินคดีก็กำหนดโทษ แต่ว่าหลังจากนั้นมันไม่มีโทษอยู่ ถามว่าจะดำเนินคดีไปเพื่ออะไร ในทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็นซีกไหนก็ตาม ต่างก็รู้ว่ากฎหมายที่เป็นคุณ จะต้องยกประโยชน์ให้กับจำเลย ไม่ควรที่จะคิดอะไรแคบๆ ควรคิดใจกว้างๆ หาทางออกให้กับบ้านเมือง”

พร้อมระบุว่า คดีนี้เล็กน้อยสำหรับพวกตน เพราะคดีใหญ่กว่านี้มีมากมายอยู่แล้ว รวมถึงการคลายล็อกเรื่องสื่อมวลชน คำสั่งที่ 97/2557, 103/2557 ตนว่าควรได้รับการปลดล็อกให้กับสื่อมวลชนเช่นเดียวกันกับประชาชน