ต้องเข้าใจง่าย! “จตุพร” แนะ ‘กกต.’ ให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ จี้ปลดล็อกเสรีภาพสื่อด้วย

วันที่ 12 ธันวาคม 2561 นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังเป็นวิทยากร ตามคำเชิญของ สถาบันพัฒนาการเมือง พรรคเพื่อชาติ จังหวัดระนอง ในวันที่สามของกำหนดการ พรรคเพื่อชาติสัญจรภาคใต้ ว่า หากต้องการให้ประเทศชาติ สงบเรียบร้อย การเลือกตั้งจะต้องมีความยุติธรรม เสมอภาค ชัยชนะที่ได้มาโดยมิชอบ ฉ้อฉล จะสร้างความไม่ชอบธรรม และจะนำพาสู่ปัญหา อาทิเช่นการเลือกตั้งเมื่อปี 2500 ที่มีหลายฝ่ายยกตัวอย่าง เป็นการเลือกตั้งที่มีความสกปรก ฉ้อฉลมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นำพาสู่การยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

ตนก็เห็นว่าเรามีประวัติศาสตร์กันแล้ว การเลือกตั้งครั้งล่าสุดสองครั้งติดต่อกันที่เป็นโมฆะทั้งปี 2549 และปี 2557 บรรยากาศเช่นนั้นไม่ควรเกิดอีกแล้ว ประเทศไทยไม่ควรหมดเงินแบบฟรี ๆให้กับการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ รวมถึงเรื่องบัตรเลือกตั้ง ตนอยากจะฝากคณะกรรมการเลือกตั้งว่า ควรกำหนดให้พรรคการเมืองเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ มีโลโก้พรรคให้เต็ม เพราะว่าหน้าที่ของ กกต.คือให้คนเกิดความสะดวก ในการไปใช้สิทธิ เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีตั้งแต่ 18ปีเป็นต้นไป จนถึงผู้สูงอายุ ควรจะทำอะไรให้เข้าใจกันได้ง่าย ๆ เพราะวัตถุประสงค์ของการเลือกตั้ง ก็คือให้ประชาชนสามารถทำตามเจตนารมณ์ของตัวเองได้ ไม่ใช่ไปสร้างความยากลำบาก

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งที่โมฆะทั้งสองครั้งหลังสุด ก็เป็นสิ่งที่ กกต.ประกาศว่าทำได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นโมฆะ หลังจากนั้นก็เกิดการยึดอำนาจ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ตนว่าประเทศไทยเราเสียหายมากพอแล้ว ทุกฝ่ายควรจะเสียสละเพื่อบ้านเมือง และทุกฝ่ายก็ต้องรู้เหมือนกันว่า ประเทศไทยกำลังจะมีพระราชพิธีสำคัญ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เสียสละเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รัฐบาลที่ดี ที่ถูกต้อง เพื่อรอรับพระราชพิธีที่คนไทยรอคอยอยู่ในขณะนี้

เมื่อถามถึง คำสั่งที่เกี่ยวกับการปลดล็อคการเมือง นายจตุพร กล่าวว่า การปลดล็อคก็อย่างที่ทราบกัน เป็นการคลายล็อคที่ยังไม่ปลดอย่างเบ็ดเสร็จ อย่างที่ควรจะเป็น บางเรื่องไม่ควรที่จะทิ้งไว้เป็นปัญหา เช่นกรณีคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน ห้าคน แม้ว่ายกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปแล้ว แต่ปรากฏว่าทิ้งประเด็นเอาไว้ ว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีมาก่อน ยังจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป ในทางกฎหมายเอง เมื่อคำสั่งนี้ไม่มีโทษอีกต่อไป มันก็ไม่ควรจะมากำหนด ว่าจะต้องดำเนินคดีต่อ เพราะวันที่ดำเนินคดีก็กำหนดโทษแต่ว่าหลังจากนั้นมันไม่มีโทษอยู่ ถามว่าจะดำเนินคดีไปเพื่ออะไร ในทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็นซีกไหนก็ตาม ต่างก็รู้ว่ากฎหมายที่เป็นคุณจะต้องยกประโยชน์ให้กับจำเลย ไม่ควรที่จะคิดอะไรแคบ ๆ ควรคิดใจกว้าง ๆ หาทางออกให้กับบ้านเมือง คดีนี้เล็กน้อยสำหรับพวกตน เพราะคดีใหญ่กว่านี้มีมากมายอยู่แล้ว รวมถึงการคลายล็อคเรื่องสื่อมวลชน คำสั่งที่ 97/2557 , 103/2557 เนี่ย ตนว่าก็ควรได้รับการปลดล็อคให้กับสื่อมวลชนเช่นเดียวกัน กับประชาชน

ทั้งนี้ช่วงเย็น นายจตุพร ยังมีกำหนดการไปเป็นวิทยากร ให้สถาบันพัฒนาการเมือง พรรคเพื่อชาติ จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย