พปชร.จี้กกต.ตรวจสอบสมาชิกเพื่อไทยบินไปหา’ทักษิณ’ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ

วันที่ 24 ตุลาคม 2561 ว่าที่ ร.ต.พณนคร ดิวรางกูร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตามที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เกี่ยวกับการเมืองไทยฝ่ายประชาธิปไตย เห็นว่า พรรคการเมืองซึ่งจดทะเบียนกับนายทะเบียนพรรคการเมืองและส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ล้วนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งสิ้น พรรคพลังประชารัฐก็เช่นกันก็เป็นฝ่ายประชาธิปไตย มีอิสระในการบริหารงานขึ้นตรงต่อสมาชิกในรูปแบบ คณะกรรมการบริหารพรรคและสาขาพรรคและสมาชิกทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง พ.ศ.2560

ว่าที่ ร.ต.พณนคร กล่าวว่า พฤติการณ์ที่มีว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องเดินทางออกนอกประเทศไปพบนายทักษิณ ก่อนจึงจะมีสิทธิลงสมัครส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าพรรคการเมืองนี้มีการบริหารงานแบบรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คนเดียวตระกูลเดียวคือตระกูลชินวัตร จึงไม่ใช่พรรคการเมืองประชาธิปไตยที่แท้จริง ผมรู้สึกเสียดายที่หลายท่านมีความรู้ความสามารถแต่ไม่กล้ายืนหยัดอุดมการณ์ของตนเอง

“เป็นห่วงว่าจะขัดเจตนารมณ์ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 วรรคแรก และ มาตรา 90 ซึ่งกำหนดให้พรรคการเมืองเป็นผู้ดำเนินการและพระราชบัญญัติพรรคการเมือง 2560 หมวด 3 ทั้งหมวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 50 และ 51 หากความปรากฏชัดว่าพรรคการเมืองนี้จะได้เป็นผู้สมัครส.ส.หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายใหญ่ก็จะเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย ทำให้เป็นโมฆะทั้งหมด และมีความผิดเป็นข้อห้ามตาม มาตรา 54 และ 55 ห้ามไว้ไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการของพรรคการเมืองนั้น พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งก็เป็นบุคคลนอกประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค เข้ามาก้าวก่ายกิจการพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นการกระทำผิด

ว่าที่ร.ต.พณนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงควรเป็นเรื่องของประชาชน มาจากประชาชน ไม่ใช่บางพรรคการเมืองมีทุนขนาดใหญ่ทางการเมืองจากคนในต่างประเทศสนับสนุนอยู่ แล้วมาหลอกประชาชนว่า พรรคตนเองเป็นประชาธิปไตย ทั้งที่เห็นกันชัดๆ ไม่ได้รังเกียจใครเป็นการส่วนตัวแต่อยากให้ประชาชนเห็นว่า ประชาธิปไตยเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของทุนจากตระกูลใดตระกูลหนึ่งส่งคนมาเล่นการเมืองกับประชาชน