นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน กล่าวว่า ตราบใดที่คดีอาญาโกงจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร งวดเข้ามาปลายปีนี้จะเห็นปรากฎการณ์ลิ่วล้อพรรคเพื่อไทยออกมาปกป้องแบบจนตรอก วิธีการคือโยนบาปให้ผู้อื่น เช่นพรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และ รัฐบาลคสช. ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือเงินทุจริตที่เป็นส่วนต่างของกำไรที่พวกพ่อค้าในขบวนการเครือข่ายโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้นำไปต่อยอดธุรกิจ หรือนำสนับสนุนนักการเมืองระดับเจ้าพ่อเจ้าแม่บางรายที่กุมชะตาชีวิตอดีตส.ส.ไว้แล้วใช่หรือไม่

นางมัลลิกา กล่าวว่านายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยควรสำเหนียกว่าได้โฆษณาชวนเชื่อโกหกชาวนาและประชาชนไปอย่างไร เมื่อไม่สามารถบริหารนโยบายได้แถมยังเกิดการทุจริตปล่อยขบวนการหากินบนหลังคนลอยนวล โดยที่อดีตส.ส.เหล่านี้ไม่เคยท้วงติง อภิปรายฯ หรือเป็นปากเสียงให้ชาวนาเลยแม้แต่น้อยจำได้หรือไม่

ทุกสำนักข่าวบันทึกไว้ทั้งหมดว่าช่วงที่ชาวนาตั้งคาราวานมาชุมนุมเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขณะนั้นกระทั้งเกิดการฆ่าตัวตายมากกว่า 12 รายก็ไม่มีส.ส.เพื่อไทยคนใดออกมาเป็นปากเป็นเสียงแทนชาวนา แม้กระนั้นระหว่างที่ส.ส.นพ.วรงค์ จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งกระทู้อภิปรายสอบถามนายกรัฐมนตรีตอนนั้นก็กลับหนีไปว.5ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นด้วยจำได้หรือไม่

“กรรมเป็นผลจากการกระทำ ดังนั้นก็ไม่ควรโยนบาปให้ผู้ใด หรือหาแพะรับบาปที่คนอื่นเขาไม่ได้ก่อ ทั้งหมดเป็นบาปกรรมที่พรรคเพื่อไทยต้องชำระให้แก่ชาวนา” นางมัลลิกา กล่าว

ส่วนการเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแก้ไขก็เพราะว่าขณะนี้เขามีอำนาจ