“เดอะซัน” ตีข่าวนักท่องเที่ยวสาวอังกฤษยันโดนข่มขืนบนเกาะเต่า เตือนแบ็กแพ็คเกอร์อยู่ให้ห่าง

เมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2561) เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษ รายงานว่านักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปีที่อ้างว่าตนเองถูกมอมยา ถูกข่มขืนและถูกลักทรัพย์ขณะมาท่องเที่ยวบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ออกมากล่าวเตือนนักท่องเที่ยวสะพายเป้ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเที่ยวเกาะเต่า และยังอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงมากกว่าที่จะทำการสอบสวนในเหตุการณ์เลวร้ายที่เธอต้องประสบพบเจอบนเกาะเต่า

เดอะซันรายงานว่า นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษรายนี้จากกรุงลอนดอนออกมาเปิดเผยเหตุการณ์เลวร้ายที่เธอประสบบนเกาะเต่าเป็นครั้งแรกกับเดอะ ไทม์ส โดยบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะหยุดยั้งความจริงเกี่ยวกับเหตุทำร้ายที่โหดร้ายดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะไปทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ทำเงินให้กับเกาะดังกล่าว

นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษยังกล่าวอีกว่า “ฉันขอให้หนุ่มสาวคนอื่นๆอยู่ให้ห่าง ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเลยที่จะกลับไปที่เกาะเต่า ฉันไม่ได้จะบอกว่าอย่าไปประเทศไทย เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉันชอบ แต่มันเป็นสถานที่ที่สวยงามที่มีด้านมืดที่เรามองไม่เห็น”

เดอะซันระบุว่า เกาะเต่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแบบสะพายเป้ชาวอังกฤษที่กลายมามีชื่อเสียงในทางลบในปี 2557 เมื่อเกิดกรณีน.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ วัย 23 ปี และนายเดวิด มิลเลอร์ เพื่อนชายวัย 24 ปี ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดที่ชายหาดเกาะเต่า ก่อนจะตามมาด้วยกรณีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสะพายเป้อีกหลายรายที่ไม่สามารถอธิบายได้ จนเกาะเต่ากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “เกาะแห่งความตาย”

เดอะซันรายงานว่า ในสัปดาห์นี้มีคน 12 คนที่ถูกขู่ว่าจะถูกจับกุมหลังจากแชร์เรื่องราวของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษวัย 19 ปีรายนี้ทางเฟซบุ๊ก และว่า เหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิงรายนี้เกิดขึ้นบนหาดทรายรี เกาะเต่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่น.ส.วิทเธอริดจ์ถูกข่มขืนฆ่า

เดอะซันรายงานว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษเชื่อว่ามีการใส่ยาลงในโค้กผสมเหล้ารัมของเธอเข้าไปเที่ยวที่บาร์แห่งหนึ่งบนหาดดังกล่าว ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียและออกจากบาร์นั้นไปและเธอไม่สามารถจำอะไรได้อีกเลย ส่วนเพื่อนชายที่ดื่มเครื่องดื่มนั้นด้วยในเวลาเดียวกันก็มีอาการง่วงนอนก่อนจะหมดสติไป สิ่งที่ตนเองจำได้เมื่อตื่นขึ้นมา ก็เห็นว่ากางเกงขาสั้นและกางเกงในหลุดออกจากตัวไป และเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองอยู่แล้วก็เอาโทรศัพท์ เงินและบัตรเครดิตของเธอไป

นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษเล่าต่อว่าเธอนั่งเรือมายังเกาะพะงันและเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกข่มขืน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะรับแจ้งความเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เกาะอื่น ขณะที่ไม่มีการตรวจพิสูจน์หลักฐานแม้ว่าเธอจะมีเสื้อยืดที่เปื้อนอสุจิก็ตาม

เดอะซันระบุว่ากรณีนี้เป็นเรื่องราวขึ้นเมื่อแม่ของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษรายนี้ออกมาพูดเพราะว่าลูกสาวรู้สึกหวาดกลัวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการอะไร ก่อนที่จะเพิ่งมาสอบสวนเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังกล่าวหาว่าเธอแต่งเรื่องข่มขืนขึ้นมาเพื่อกลบเรื่องว่าเธอมีเซ็กส์กับเพื่อนชาวอังกฤษที่ไม่ได้เป็นแฟนของเธอ ซึ่งเธอปฏิเสธว่าไม่จริง