รีวิวที่ไม่ใช่รีวิว ‘SHOPLIFTERS’ ทำไมเธอถึงควรค่าไปดู!!

นี่ไม่ใช่รีวิว ไม่ใช่วิเคราะห์ ไม่ใช่วิจารณ์ แต่มันมาจากความรู้สึกล้วนๆ

1.สะเทือนอารมณ์ รู้สึกเหมือนล้มทั้งยืน
คือด้วยความที่หนังพาเราไปรู้จักครอบครัวหนึ่ง(ในญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นศูนย์รวมความหลากหลาย(วัย) ต่างต้องยัดชีวิต เบียดเสียด อยู่แบบหลบๆซ่อนๆในบ้านเล็กๆที่ต้องแอบเขาอยู่ มันมีทั้งความอบอุ่น ต้องเกื้อกูลกันในครอบครัว แม้มีบางความสัมพันธ์ไม่ใช่ “สายเลือด” แท้ๆ แต่ความผูกพันเอ็นดูที่เกิดขึ้นมันงดงามมาก คือการประทังชีวิตของครอบครัวนี้มาจากหลายทาง บ้างไปทำกรรมกร บ้างต้องขายบริการความสุข บ้างพึ่งพิงเงินสงเคราะห์คนชรา บ้างต้องหาจากการขโมย

หากคิดจะชมหนังที่พาท่องเมืองญี่ปุ่นแบบศิวิไลซ์ เรื่องนี้ไม่ใช่ แต่นี่คือ “ชีวิต”ยังไงเล่า ภายใต้ความเจริญของเมืองทันสมัยมันมีความหลากหลายขาดแคลนอยู่

ที่ว่าล้มทั้งยืนก็เพราะ หนังมันพาไปจุดสูงสุดแห่งความสุขการไปเที่ยวกันของครอบครัว และช่วงเวลาที่กราฟดิ่งลง แบบโอ้ยยยยยย ฆ่าฉันเถอะ (ไม่สปอยแล้วกัน)

2.ต้องดูเพราะด้วยชื่อเสียงเรียงนามของ ผู้กำกับฯ โคเรเอดะ ฮิโรคาสุ
ผกก. นำ SHOPLIFTERS คว้ารางวัลปาล์มทองคำ รางวัลสูงสุด จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ครั้งที่ 71 ประจำปี 2018 มาครอง โดยปีนี้มีประธานคณะกรรมการตัดสินรางวัลคือ ขุ่นแม่ “เคต แบลนเชตต์” เป็นผู้ประกาศผลรางวัลจากการตามอ่านบทสัมภาษณ์ขุ่นแม่ก็บอกว่ากรรมการทุกคนก็ “รู้สึกล้ม” หลังชมเรื่องนี้

พูดถึง ผกก.ผู้นี้ ภาพยนตร์ของเขา เคยได้รับเลือกจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ให้เข้าชิงในสายประกวดหลัก รางวัล ปาล์มทองคำ มาถึง 4 ครั้ง Distance (2001) Nobody knows (2004) Like Father, Like Son (2013) Our Little Sister (2015) และ 2 ครั้ง ในสาย Un Certain Regard จาก Air Doll (2005) และ After the Storm (2016) ก็ดูชื่อแต่ละเรื่องสิ ทำคนกี่แสนกี่ล้านคนเสียน้ำตามา!

3.ทั้งลุ้น ทั้งเรียล และ ทั้งรัก
มันมีซีนให้ลุ้นมากหลายซีนเหมือนกันนะ ถ้าฝั่งฮอลลีวู้ด มีหนังปล้นโจรกรรมที่เวอร์ๆ วางแผนสูงฉันใด แต่ในSHOPLIFTERSมีการลักเล็กขโมยน้อยและปล้นแบบให้ลุ้นอีกฉันนึง แบบว่า ลูกชาย ลูกสาว จะสามารถฝ่ามิชชั่น(ที่ไม่ควร)ในวัยเด็กได้หรือไม่ หรือ ตัวคุณพ่อที่ต้องทำในสเกลใหญ่เพื่อนำของที่ขโมยได้มาใช้ประทังชีวิตในบ้านที่ต้องแอบๆซ่อนๆอยู่คือ มันดูเรียลมาก

ส่วนที่ว่าหลงรักคือหนูน้อยทั้งสองของเรื่องไม่ว่าหนูจะทำอะไร พี่นี่ได้แต่เอ็นดู มันเหมือนไม่ใช่การแสดงเลย ทำไมดูแล้วเชื่อและอิน และสะอึก เหมือนโดนผู้กำกับทำร้ายยังไงบอกไม่ถูก T^T

เอาเป็นว่าหนังเข้าแล้ว ใครดูเหมือนแอดแล้ว มาแชร์ความรู้สึกกันว่าชอบซีนไหนกันบ้าง หรือใครเสียน้ำตาให้เรื่องนี้ สารภาพมาดีๆ!