การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นวันแรก ประเดิมคู่แรก “จอมโหด” อุรุกวัย พบ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่นิซนี่ นอฟโกรอด สเตเดียม เมืองนิซนี่ นอฟโกรอด เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องททบ. 5
สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเจอกันมา 8 ครั้ง ทีมจอมโหดเอาชนะได้ 3 ครั้ง ฝรั่งเศสชนะ 1 ครั้ง และเสมอกันไป 4 ครั้ง แต่ถ้านับในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย นี่เป็นการเจอกันครั้งที่ 4 ซึ่ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้อุรุกวัยไม่เคยแพ้เลย
เอดินสัน คาวานี่ ฮีโร่ของอุรุกวัยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คงต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้ายว่าจะสามารถลงเกมนี้ได้หรือไม่ แต่หลายฝ่ายค่อนข้างยืนยันชัดเจนว่าโอกาสลงเล่นในเกมนี้ค่อนข้างยาก ทำให้ ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซือทีมจอมโหดวางแผนรับมือไว้ 2 อย่างคือ ให้ คริสเตียน สตัวนี่ ลงจับคู่กับหลุยส์ ซัวเรซ ในแดนหน้า หรือจะส่งคริสเตียน โรดริเกซ ลงมาเสริมกลางให้ซัวเรซยืนหน้าเป้าคนเดียว
ด้านทีมตราไก่ กุนซือ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ จะไม่สามารถใช้งาน แบลส มาตุยดี้ กองกลางตัวหลักที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ แต่ต้องลุ้นว่าระหว่าง โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ที่มีใบเหลืองติดอยู่ 1 ใบ กับนาบิล เฟคีร์ ใครจะได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง ส่วนแบ๊กขวา แม้ว่า ฌิบริล ซิดิเบ้ จะฟิตแล้ว แต่ยังเชื่อว่า บ็องฌาแม็ง ปาวาร์ ที่ยิงได้ในเกมก่อน จะยึดตำแหน่งเอาไว้ได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ด้านอีกคู่หนึ่ง “แซมบ้า” บราซิล พบกับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่คาซาน อารีน่า เมืองคาซาน ในเวลา 01.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องทรู4ยู
ทีมแชมป์โลก 5 สมัยเอาชนะ “จังโก้” เม็กซิโก ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ 2-0 ขณะที่เบลเยียมนั้น โกงความตายพลิกสถานการณ์จากตามหลังญี่ปุ่น 0-2 กลับมาแซงชนะ 3-2 ผ่านเข้ารอบมาได้สำเร็จ
โดยคู่นี้เคยเจอกันมาทั้งหมด 3 ครั้ง ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอแม้แต่ครั้งเดียว เป็นฝั่งแซมบ้าเอาชนะไปได้ 3 ครั้ง และเบลเยียมชนะอีกครั้งหนึ่ง ส่วนในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เจอกันเมื่อปี 2002 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นบราซิลเอาชนะไปได้ 2-0
เกมนี้ ติเต้ กุนซือแซมบ้าได้ข่าวดีคือ ดักลาส คอสต้า กลับมาลงซ้อมพร้อมเป็นตัวเลือกได้แล้ว แต่จากฟอร์มของวิลเลี่ยนเกมล่าสุดอาจจะทำให้เขาต้องเป็นสำรองไปก่อน นอกจากนี้ติเต้ ยังต้องปรับแดนกลาง จากการติดโทษแบนของ คาเซมิโร่ ซึ่งจะเป็น แฟร์นันดินโญ่ ที่จะลงมาเล่นแทน ขณะที่มาร์เซโล่ แบ๊กซ้ายตัวเก่ง ยังต้องลุ้นว่าจะกลับมาลงเล่นได้หรือไม่
ส่วนโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปนของเบลเยียม จะยังให้ แว็งซอง ก็อมปานี เซนเตอร์แบ๊กตัวหลักเป็นตัวจริงในเกมนี้ หลังจากคืนสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยแล้ว ส่วนในแนวรุกทั้ง นาเซอร์ ชาดลี่ และ มารูยาน เฟลไลนี่ 2 ซุปเปอร์ซับในเกมกับญี่ปุ่น อาจจะยังต้องเริ่มต้นด้วยการเป็นสำรองเช่นเดิม