สรุปข่าวในประเทศ

ประชาชนแน่นทำเนียบซื้อเสื้อลายฝีพระหัตถ์ในหลวง ร.10

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นำเสื้อจากร้านจิตอาสา 904 ซึ่งเป็นเสื้อลายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาจำหน่าย ในราคาตัวละ 299 บาท ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยมีประชาชนมายืนรอต่อคิวจำนวน 4 แถวตั้งแต่ 06.00 น.

นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไม่คิดว่าประชาชนจะให้การตอบรับมากขนาดนี้ ซึ่งเดิมทาง สปน. รับมาจำหน่ายจะเป็นเสื้อที่อยู่ในสต๊อกของร้าน 904 ที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นตัว และได้มีการทยอยขายจนหมด แต่ปรากฏว่ายังมีประชาชนให้ความสนใจ และสอบถามเข้ามาจำนวนมาก จึงได้ประสานไปยังสำนักพระราชวัง และทางสำนักพระราชวังได้มีการผลิตเพิ่มแล้ว ซึ่งสามารถผลิตได้วันละ 500-600 ตัว แต่ด้วยความต้องการของประชาชนจำนวนมากที่อยากได้เสื้อเหลืองมาสวมใส่เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 กรกฎาคมนี้ จึงได้หารือกับทางสำนักพระราชวังให้ผลิตเพิ่มขึ้นวันละ 2,000-3,000 ตัว

ประยุทธ์บอกพยายามมีสติ แต่รับมีอารมณ์โมโหมากไปนิดหนึ่ง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา นำรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 26 มิถุนายน 2561 ทรงเจริญพรรษายุกาล ครบ 91 พรรษา ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โอกาสนี้สมเด็จพระสังฆราชได้สนทนาธรรมกับนายกฯ ว่า วันเกิดเป็นแค่วันหนึ่ง อย่าให้ความสำคัญมาก เพราะก็เหมือนทุกๆ วัน จึงขอให้ทำทุกๆ วันอย่างดีที่สุด และขออวยพรให้นายกฯ และคณะมีสุขภาพแข็งแรง ด้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ศาสนาสอนให้ทุกคนมีสติ มีความงาม วันนี้ถือเป็นวันมงคล วันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งตนไปกราบขอพรให้กับคนไทย เพราะไม่อยากให้ปัญหาเก่าๆ เกิดขึ้นอีก ตนพยายามสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ขอร้องอย่าเอาการเมืองมาเป็นเรื่องเดียว เพราะประเทศอื่นใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำ ไม่ใช่การเมือง ไทยเรามีสภาเหมือนประเทศอื่น ซึ่งตนไม่สามารถสั่งการได้ ถ้าสั่งได้คงไม่เป็นเช่นนี้ ไม่สามารถสั่งการสภาหรือศาลได้ทั้งนั้น แม้จะมีอำนาจตามมาตรา 44 แต่ไม่ควรสั่ง ดังนั้น ใครที่มีอำนาจเหมือนตนในวันนี้ ให้กลับไปคิดดูว่าหากมีอำนาจจริงๆ แล้วจะทำอะไร เพราะมีหลายคนต้องการให้ทำตามใจฝ่ายตัวเอง ซึ่งไม่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธี นายกฯ และคณะได้เดินทักทายประชาชนภายในวัด พร้อมกล่าวว่า ศาสนาพุทธสอนให้เรามีเมตตาธรรมอย่างมีสติ และจะทำให้เกิดปัญญา แต่บางทีก็ยอมรับว่า มีอารมณ์โมโหมากไปนิดนึง

อสส.ฟ้อง “อริสมันต์-4 เอกชน” ร่วม “วัฒนา เมืองสุข” ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด มอบอำนาจให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ไปยื่นฟ้องจำเลย 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อายุ 54 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย 2.บริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด 3.บริษัท นามแฟทท์ คอนสตรัคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด 4.บริษัท พรินซิพเทค ไทย จำกัด 5.น.ส.สุภาวิดา คงสุข กก.ผู้มีอำนาจทำการแทน บริษัท ไทยเฉนหยูฯ ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด แก่ตนเองหรือผู้อื่น และสนับสนุน “นายมานะ วงศ์พิวัฒน์” อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (บอร์ด) หรือ กคช. ซึ่งเป็นพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

การยื่นฟ้องวันนี้มีตัวผู้ถูกกล่าวหามาพบอัยการเพื่อนำตัวมาฟ้องเพียง 2 คน คือผู้แทน บจก.พรินซิพเทค ไทย และ น.ส.สุภาวิดา โดยได้รับการประกันตัวหลังฟ้องไปด้วยเงินสดวงเงิน 3 ล้านบาท โดยคดีนี้นายวัฒนาได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท

มีชัยเสียดายถ้าเลิกไพรมารีโหวตชี้แก้ไข รธน.ฝ่ายหนุนมีสิทธิปกป้อง

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการที่พรรคการเมืองเสนอให้ยกเลิกการทำไพรมารีโหวตว่า กรธ. ไม่ได้ร่างเรื่องนี้ แต่พอสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แก้ให้มีไพรมารีก็ต้องเดินตาม หากเกิดติดขัด ก็ต้องแก้หรือทบทวน เพื่อทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ถ้าดูตามบทเฉพาะกาลของกฎหมายพรรคการเมือง ที่มีคำสั่ง คสช. แก้ไข ก็ผ่อนมาเยอะแล้ว ต้องพูดกันให้ชัดว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร ถ้าทำไม่ทัน ปัญหาก็คือเวลา ที่คอยเร่งรัดอยากให้เลือกตั้งเร็วก็คงทำไม่ได้ หากจะแก้ก็ต้องดูความเหมาะสม จะใช้วิธีและเวลาแก้กันอย่างไร การใช้มาตรา 44 ก็จะใช้เท่าที่จำเป็น การปฏิรูปการเมืองต้องเริ่มจากภายในพรรค ทำให้เป็นของประชาชนจริงๆ ไม่มีใครครอบงำ ส่วนข้อเสนอจากฝ่ายการเมือง หากจะให้ยกเลิกเลยก็น่าเสียดายโอกาส หากจะให้ทำระดับภาค ก็ไม่สะท้อนอะไร มีเพียง 4-5 ภาค คลุมทั้ง 77 จังหวัด ดังนั้น แทนที่จะมาโทษกัน ขอให้ช่วยกันคิดปฏิรูป

ส่วนที่หลายพรรคเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น นายมีชัยกล่าวว่า ทำได้ แต่ต้องมีกรอบ ไม่ใช่เอากระดาษเปล่ามาวาง การจะแก้ไขเพราะมองแต่จุดที่ไม่ชอบ ทั้งที่มันมีจุดชอบอยู่ ถ้าเอาแต่ใจตนเองก็เป็นเผด็จการ ที่ขนาดเผด็จการจริงๆ ยังไม่กล้าทำ จะเอาตามใจตนเองหรือพวกตนกลุ่มเดียวไม่ได้ จะแก้ไขก็ต้องบอกก่อนจะแก้อย่างไร คนอีก 66 ล้านคนจะได้รู้ด้วย ทำได้แต่ต้องบอกให้รู้ด้วยจะทำอย่างไร

ส่วนคนที่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขาก็มีสิทธิปกป้องและคัดค้านได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะแก้ไขไปสู่อะไร