นงนุช สิงหเดชะ/’พฤติกรรมส่วนตัว’ ดารา-คนสาธารณะ ‘แยกขาด’ จากอาชีพ-สถานะหรือไม่?

บทความพิเศษ / นงนุช สิงหเดชะ

 

‘พฤติกรรมส่วนตัว’

ดารา-คนสาธารณะ

‘แยกขาด’ จากอาชีพ-สถานะหรือไม่?

 

ยังคงเป็นประเด็นน่าถกเถียงว่า “พฤติกรรมส่วนตัว” บางอย่างของดาราหรือคนดังในสังคม ที่ได้ชื่อว่าเป็น “บุคคลสาธารณะ” ควรแยกขาดจากอาชีพและสถานะของพวกเขาหรือไม่

จากกรณีที่มีการแฉพระเอกสุดฮ็อตจากละครบุพเพสันนิวาส โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ว่าชอบส่งข้อความไปจีบสาวทางอินสตาแกรม (ไอจี) และไลน์ ลวงให้มีอะไรลึกซึ้งด้วยนับสิบคน พอสมหวังแล้วก็ตีจาก

และหนุ่มโป๊ปได้ออกมายอมรับ แต่อ้างว่าไม่เคยหลอกลวงหรือบังคับใคร

หลังจากพระเอกคนดังกล่าวออกมายอมรับ

ประกอบกับความมีวาทศิลป์เป็นเลิศ อ้อนเก่ง ฉลาดพูด ทำให้แฟนคลับเกือบทั้งหมดพากันเทใจเข้าข้างและปกป้อง

แถมชมอีกว่าตอบได้ดี บอกว่าเป็นเรื่อง “ส่วนตัว” และเป็นปกติของผู้ชาย เมื่อมีหญิงมาเสนอตัวก็ต้องสนองเป็นธรรมดา และว่า ไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของโป๊ป สนใจแค่การแสดง

ดังนั้น จะยังสนับสนุนต่อไป

ทำให้จนถึงบัดนี้หนุ่มโป๊ปก็ยังฮ็อตเป็นพระเอกห้างแตก มีคิวออกอีเวนต์และเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ ยาวเหยียด นับเงินไม่หวาดไม่ไหว

 

ต้องยอมรับกันว่าบทบาทของพี่หมื่นของเขาในละครบุพเพสันนิวาสเป็นที่หลงใหลของหญิงๆ มากถึงขีดสุด จากที่หลงใหลมากอยู่แล้ว

ความหลงใหลอันท่วมท้นนี้ ทำให้บางคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าดาราชายระดับพระเอกคนอื่นมีข่าวฉาวแบบเดียวกับโป๊ป จะได้รับการเข้าข้างและปกป้องเหมือนโป๊ปไหม คำตอบก็คือ น่าจะไม่

หากไปอ่านดูกระทู้เรื่องนี้ในโลกออนไลน จะพบว่า ส่วนใหญ่แล้วแฟนคลับ (ทั้งชาย-หญิง) จะมีความเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย เป็นการสมยอมของผู้หญิงเอง แล้วผู้หญิงพวกนั้นจะมาโวยวายทำไม

นอกจากนี้ ประเด็นที่พูดกันมาก (ซึ่งไม่น่าเป็นตรรกะที่ถูกต้อง) ก็คือเรื่องเกิดขึ้นนานแล้วทำไมถึงเพิ่งมาแฉ อยากทำลายเขาใช่ไหม ตอนเขาไม่ดังทำไมไม่แฉ

แม้โป๊ปจะอ้างว่าเป็นเรื่องอดีต แต่มีเพียงโป๊ปรู้ว่า “อดีต” ที่ว่านั้นกินเวลาแค่ไหน เป็นอดีตเมื่อเดือนที่แล้วหรือปีที่แล้ว หรือ 10 ปีที่แล้ว อีกทั้งจะหยุดพฤติกรรมนี้ไหม หากไม่ถูกแฉเสียก่อน

 

หากสืบค้นข้อมูลย้อนกลับไปจะเห็นว่า เรื่องนี้ไม่ได้เพิ่งมาแฉ แต่มีการแฉผ่านข่าวซุบซิบต่อเนื่องหลายปีเป็นระยะ แต่หนุ่มโป๊ปปฏิเสธตลอด

ฝ่ายแฉอาจหมั่นไส้ที่โป๊ปปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่อง แถมยังพูดแต่เรื่องเข้าวัดปฏิบัติธรรม เรื่องการทำดี เป็นคนดีอยู่บ่อยๆ ดังนั้น พอมาถึงปีนี้เลยแฉแบบจัดชุดใหญ่

ดูแค่การให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ก็เริ่มมีพิรุธแล้ว

เมื่อนักข่าวถามว่ามีข่าวลือพระเอก ป. พานักศึกษาสาวขึ้นคอนโดฯ คราวนั้นหนุ่มโป๊ปปฏิเสธตามเคย แต่ปฏิเสธแบบไม่เต็มปากเต็มคำ

เมื่อนักข่าวถามว่าแล้วเคยพาสาวคนอื่นๆ ขึ้นห้องหรือไม่ โป๊ปยิ้มหวานแล้วบอกว่า อันนี้เป็นความลับ บอกไม่ได้

กลุ่มผู้หญิงที่ออกมาแฉนั้น ในอีกมุมหนึ่งพวกเธออาจเจ็บใจที่โป๊ปไม่จริงใจ เพราะในจำนวนผู้หญิงเหล่านี้ มีเพียงโป๊ปเท่านั้นที่ “รู้อยู่แก่ใจ” ว่าหญิงคนไหนเต็มใจจะมีอะไรกับเขาทั้งที่รู้ว่าจะเป็นแค่ความสัมพันธ์เพียงคืนเดียว (one night stand) หรือคนไหนหลงเชื่อเพราะโป๊ปไปให้ความหวัง ทำนองว่าอยากคบจริงจัง

ที่สำคัญคือ ก่อนจะเลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันนั้น โป๊ปแสดงออกอย่างชัดเจนหรือไม่ว่าต้องการแค่ one night stand หรือเพราะเห็นว่าตัวเองหล่อมีเสน่ห์ เป็นดารา แล้วใช้สถานะนั้นเอาเปรียบผู้หญิง ด้วยการทำให้เข้าใจว่าอยากคบจริงจัง แต่พอ “ได้” แล้ว ก็หาเหตุผลมาอ้างเพื่อตีจากคนแล้วคนเล่า ถ้าเป็นอย่างหลังก็ถือว่าไม่แฟร์ ไม่ใช่วิถีสุภาพบุรุษ

นอกจากนี้ การแฉของพวกเธอ ยังมีวัตถุประสงค์ในลักษณะ “เตือนภัย” หญิงอื่นๆ ด้วยกันว่าหากถูกโป๊ปส่งข้อความไปหาชวนให้เคลิ้มและขอมีอะไรลึกซึ้งด้วยก็จงทำใจว่าเขาไม่จริงจัง จะได้ระวังตัวและไม่เสียใจ

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้โป๊ปได้เปรียบ กระทั่งทำให้แฟนคลับหลงมากจนไม่ตำหนิเขา อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ “ด้านสว่าง” ที่เขาแสดงออกต่อสาธารณะและแฟนคลับรับรู้ก็คือ

  1. เป็นคนเข้าวัดปฏิบัติธรรม ชอบทำบุญกุศล
  2. ไม่ยุ่งอบายมุข เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ
  3. เป็นคนกตัญญู
  4. เป็นกันเองกับแฟนคลับ
  5. เป็นคนพอเพียง
  6. พูดบ่อยๆ ว่าอยากทำดี เป็นตัวอย่างที่ดี

และที่แน่นอนก็คือ 7. หล่อมาก ยิ้มละลายใจ

ดังนั้น เมื่อมาเจอข่าวที่เป็น “ด้านมืด” แฟนคลับอาจจะช็อกไปครู่หนึ่ง ก่อนที่กลไกทางจิตจะออกมาปฏิเสธไม่ยอมรับด้านมืด เพราะอยากเก็บความหลงใหลชื่นชอบนั้นไว้

 

เป็นความจริงที่ว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นสิทธิ เพราะดาราก็เป็นคน แต่อย่าลืมว่าดาราหรือคนมีชื่อเสียงในสังคมถือเป็น “บุคคลสาธารณะ” มีหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องแบกรับนั่นก็คือเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม ฉะนั้น จึงถูกคาดหวังให้ประพฤติตัวเรื่องนี้อย่างมีขอบเขตและเหมาะสมบ้าง

ดารามีอิทธิพลต่อสังคม ชี้นำสังคมได้ ไม่อย่างนั้นสินค้าหรือองค์กรต่างๆ คงไม่จ้างพวกเขาแพงๆ ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ดังนั้น จะบอกว่าพฤติกรรมส่วนตัว เรื่องส่วนตัวบางอย่างไม่เกี่ยวกับสถานะและอาชีพของพวกเขาจึงไม่น่าถูกต้องนัก

ถ้าบอกว่าผู้หญิงที่ออกมาแฉโป๊ปเป็นพวกล่าผู้ชายเพื่อ “ทำแต้ม” ไว้อวด ก็ต้องบอกว่า ถ้าโป๊ป (ที่บอกว่าเป็นคนธรรมะธัมโม) เข้าไปร่วมเกมล่าแต้มด้วย ก็เท่ากับส่งเสริมให้มีผู้หญิงแบบนี้มากขึ้นในสังคม

ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องดี

 

อย่างไรก็ตาม ในกระทู้ทางโลกออนไลน์ดังกล่าวนั้นก็มีเสียงส่วนน้อย (มาก) สวนทางอยู่บ้างในประเด็นนี้ที่ช่วยกระตุกให้ฉุกคิด เช่น คนหนึ่ง (ชาย) บอกว่า

“สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากข่าวนี้คือ ผมว่าสังคมไทยเริ่มป่วย ขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ดูละครบุพเพฯ และไม่ได้เป็นติ่ง เคยมีชอบบทบาทพี่โป๊ปบ้าง

ที่คนส่วนใหญ่บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนั้น ไม่ผิดครับ แต่พี่โป๊ปเป็นบุคคลสาธารณะ–จะผิดก็ตรงนี้ครับ

ถ้าผู้หญิงเหล่านั้นเป็นลูกสาวของพวกคุณบ้าง พวกคุณจะยังเข้าข้างพี่หมื่นไหม

เรื่องที่เกิดขึ้น พี่โป๊ปไม่โดนด่า แถมมีคนชมอีกว่าตอบได้ดี อันนี้ผมว่าโคตรสองมาตรฐาน ตอนนี้กลายเป็นว่า ถ้าโสด อายุ 30 ปีขึ้นไป จะนอนกับใครก็ไม่ผิด แล้วบอกว่ามีเมตตา อย่างนี้ผู้ชายก็เอาแบบพี่โป๊ปให้หมดเลยครับ แล้วที่ผมไม่ชอบสิ่งที่พี่โป๊ปทำมากที่สุดคือไม่มีความรับผิดชอบต่อการเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะบุคคลสาธารณะมีผลต่อการชี้นำสังคม”

ส่วนผู้วิจารณ์ที่เป็นหญิง บอกว่า “เราเป็นกลางค่ะ เราไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน หลอกหรือไม่หลอกเราไม่รู้ แต่ต้องคิดตามเหตุผล ผู้ชายบางคนคิดว่าตัวเองหล่อเลือกได้ก็เยอะ ผู้ชายคิดแต่จะเอาเปรียบผู้หญิงก็มี ดูข่าวแล้วคิดตาม ต้องเปิดใจทั้งด้านมืดและสว่าง”

 

ล่าสุดพระเอกโป๊ปไปออกรายการทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อถูกถามว่าเจ้าชู้หรือไม่ เขาตอบว่า “เป็นปกติของผู้ชายที่จะชอบผู้หญิงไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วจริงๆ ผมก็จะหยุดที่คนนั้นและศีล 5 ครบ”

ไม่แน่ใจว่านัยยะของโป๊ปที่พูดว่า “ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วผมจะมีศีล 5 ครบ” หมายถึงอะไร เพราะเจ้าตัวไม่ได้ขยายความและพิธีกรไม่ได้ซักต่อ

เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมาการคบหญิงของเขานั้น ศีลไม่ครบ คืออาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับหญิงมากหน้าหลายตา คบซ้อนบ้าง จีบทีหลายคนพร้อมกันบ้าง ซึ่งก็น่าจะหมายถึงข้อที่ว่าด้วยกาเมสุมิจฉาฯ

นอกจากนี้ อาจพ่วงด้วย “มุสาวาทา” เพราะบรรดาหญิงที่ออกมาแฉเขา หาว่าเขาไม่จริงใจในการคบพวกเธอ อีกทั้งหนุ่มโป๊ปก็ปฏิเสธข่าวพวกนี้มาตลอด เท่ากับว่าโกหกมานาน