เมื่อเทียบกับปี 2018 ที่กำลังผ่านพ้น ปฏิทินกีฬาสากลในปี 2019 อาจจะไม่ค่อยหวือหวานัก เนื่องจากเป็นช่วงเว้นว่างจากอีเวนต์ใหญ่ๆ ทั้งระดับมหกรรมและทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรให้แฟนกีฬาได้ติดตาม

ที่แน่ๆ คือศึก “ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019” ที่ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม ซึ่ง “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์คว้าตั๋วร่วมแข่งขันได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

หนก่อนไทยไปแข่งครั้งแรก และสร้างประวัติศาสตร์เก็บชัยชนะแรกกลับบ้านได้ในแมตช์เฉือนไอวอรีโคสต์ 3-2

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทีมแม่เนื้ออ่อนของไทยเจองานหินยิ่งกว่าเก่า เนื่องจากโดนจับรวมกลุ่มเอฟกับสหรัฐอเมริกา แชมป์โลกสมัยที่แล้ว, สวีเดน เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2016 และชิลี รองแชมป์ทวีปอเมริกาใต้หนล่าสุด

“มาดามแป้ง” “นวลพรรณ ล่ำซำ” ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยยอมรับว่า บอลโลกหนนี้น่าจะเป็นงานหินยิ่งกว่าคราวก่อน แต่ก็ยังแอบหวังลึกๆ ว่าจะทำคะแนนกลับบ้านได้

โดยเฉพาะแมตช์ที่พบกับชิลี

ไม่ใช่แค่ชบาแก้วที่มีภารกิจสำคัญ ข้างฝั่งทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยหรือ “ช้างศึก” ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบสำคัญอย่างศึก “เอเชี่ยนคัพ” ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 5 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ โดยก่อนหน้านี้หลังจากช้างศึกพลาดโอกาสเข้าชิงชนะถ้วย “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า หลังเสมอมาเลเซียแบบไป-กลับ และตกรอบตัดเชือกด้วยกฎอะเวย์โกล “มิโลวาน ราเยวัช” กุนซือช้างศึกก็โดนแฟนบอลบางส่วนวิจารณ์อย่างหนักถึงแผนการเล่นที่เน้นตั้งรับมากเกินไป และการจัดแผนที่ไม่โดนใจในหลายตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในสัญญาทำทีมที่ราเยวัชเซ็นกับ “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ” เมื่อคราวรับตำแหน่งปีที่แล้วนั้น ไม่ได้ระบุการประเมินผลงานในถ้วยเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพไว้ แต่จะให้ความสำคัญกับถ้วยเอเชี่ยนคัพว่าจะต้องผ่านรอบแรกให้ได้ ด้วยสถานการณ์ของไทยที่อยู่ร่วมกลุ่มกับเจ้าภาพ ยูเออี รวมถึงอินเดีย และบาห์เรน ที่ต้องการทีมอันดับ 1-2 และอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 จาก 6 กลุ่มเข้ารอบต่อไป

น่าจะไม่ใช่โจทย์ที่โหดหินจนเกินไปนัก

เอ่ยถึงฟุตบอลแล้ว ช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ถือเป็นวาระสำคัญของการลุ้นแชมป์ทั้งบอลถ้วยและบอลลีกของยุโรป โดยเฉพาะในศึก “พรีเมียร์ลีก” อังกฤษ ลีกยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ซึ่งฤดูกาล 2018-2019 นับเป็นฤดูกาลที่สถานการณ์การลุ้นแชมป์เข้มข้นที่สุดในรอบหลายปี เพราะทั้ง “ลิเวอร์พูล” และ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ต่างมีมาตรฐานโดดเด่นออกมาจากทีมร่วมลีกอื่นๆ และอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมลุ้นแชมป์ด้วยกันทั้งคู่

ผ่านช่วงคริสต์มาสไป หงส์แดงนำเป็นจ่าฝูง แต่เนื่องจากยังเหลืออีกตั้งครึ่งทาง ระยะห่างเพียงเล็กน้อยยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าพวกเขาจะก้าวไปคว้าแชมป์ที่รอคอยมาตั้งแต่ปี 1990 ได้สำเร็จ เพราะตอนที่ใกล้เคียงที่สุดเมื่อฤดูกาล 2013-2014 ก็เกิดเหตุการณ์ “ลื่น” ในตำนานในแมตช์พ่ายเชลซีคาบ้าน 0-2 จนแชมป์หลุดมือมาแล้ว

ขณะที่สถานการณ์ของทีมอันดับรองๆ ลงมาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเหลือโควต้าลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 3 ที่ แต่ทั้ง “ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, เชลซี” และ “อาร์เซนอล” ต่างก็เกาะกลุ่มกันไว้อย่างเหนียวแน่น ส่วน “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” หลังปลดผู้จัดการทีม “โชเซ่ มูรินโญ่” หันมาใช้บริการ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์” ในฐานะกุนซือขัดตาทัพ

ก็น่าจับตาว่าจะไปได้ไกลขนาดไหนกับเส้นทางที่เหลือ

ข้ามมาในการแข่งขันระดับมหกรรมกีฬา ไทยเรามีศึก “ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ให้ได้ติดตาม การลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกับเจ้าภาพย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไทยคว้าอันดับ 2 ของตาราง เป็นรองเจ้าภาพ มาเลเซีย ในซีเกมส์ ครั้งที่ 29

ส่วนกีฬาใหญ่ไม่ตามวาระคือศึก “รักบี้ เวิลด์คัพ” ที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 20 กันยายน – 2 พฤศจิกายน ขณะที่กีฬาสากลอื่นๆ ซึ่งทำการแข่งขันตามปฏิทินเป็นปกตินั้น ไฮไลต์เป็นการจับตาผลงานรายบุคคล อาทิ กลุ่ม “บิ๊ก 3” หรือ “บิ๊ก 4” ของกีฬาเทนนิสอย่าง “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล, โนวัก โยโควิช” พ่วงด้วย “แอนดี้ เมอร์เรย์” ว่าจะทำผลงานได้ดีเพียงไร

หรือการกลับมาของ “เซเรน่า วิลเลียมส์” อดีตนักเทนนิสสาวมือ 1 ของโลก หลังปัญหาบาดเจ็บและอาการเครียดจากการเลี้ยงลูก รวมถึงการ “จบไม่สวย” อย่างการเถียงกรรมการในศึกแกรนด์สแลม “ยูเอส โอเพ่น” รอบชิงชนะเลิศ

ขณะที่กีฬากอล์ฟฝ่ายชาย น่าลุ้นผลงานของ “ไทเกอร์ วู้ดส์” อดีตมือ 1 โลกซึ่งกลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งคว้าแชมป์แรกในรอบหลายปีได้ในปีนี้ ส่วนกอล์ฟหญิงคงไม่พ้นการติดตาม” “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล” นักกอล์ฟสาวมือ 1 ของโลก ซึ่งเป็นคนแรกของโลกกวาดทุกรางวัลที่แจกกันในปี 2018 ไปครอง

ผลงานของโปรเมนับเป็นเหตุการณ์ระดับหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่การรักษาฟอร์มให้ดีต่อเนื่องก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าจับตา ซึ่งอาจนำไปสู่ผลงานใหญ่ๆ ที่น่าประทับใจอีกในอนาคต