เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่าเขาจะลาออกและส่งมอบอำนาจให้กับนายฮุน มาเนต บุตรชายคนโต

“ขแมร์ไทม์ส” ของกัมพูชารายงานโดยอ้างการกล่าวถ้อยแถลงพิเศษของสมเด็จฯฮุน เซน ต่อสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของกัมพูชาว่า ฮุน มาเนต จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป

“ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2528 จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ผมอยู่ในตำแหน่งมาแล้ว 14,099 วัน หรือ 2,014 สัปดาห์ หรือ 463 เดือน หรือ 38 ปี 7 เดือน 8 วัน” ฮุน เซนกล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าเขาจะลาออก แต่เขาจะยังคงทำงานการเมืองต่อไปในฐานะหัวหน้าพรรคซีพีพี สมาชิกรัฐสภา และประธานองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นก็จะเป็นประธานวุฒิสภาหลังการเลือกตั้งวุฒิสภาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567

ฮุน เซน ได้สมรสกับ บุน รานี ทั้งคู่มีบุตรชาย 4 คน บุตรสาว 2 คน และบุตรสาวบุญธรรม 1 คน ได้แก่ฮุน กอมซอต (เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด), ฮุน มาเนต, ฮุน มานา, ฮุน มานิต, ฮุน มานี และฮุน มาลี

เป็นลูกชายฮุน เซน นั้นสุดแสนจะลำบาก ต่อความที่มาตรฐานสูงมากของบิดาที่กดทับความกดดันมาแต่ยังเด็ก

ฮุน มาเนต เป็นตัวอย่างของความกดดันนั้น โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่เขาต้องไปให้สุดกว่าทุกคน ใช่แต่พี่น้อง แต่เป็นทุกคนในกัมพูชา

ดังนั้น การสำเร็จนักเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์ที่สหรัฐ ตามเป้าหมายของบิดาที่กำหนดไว้จึงไม่พอ

ฮุน มาเนต ข้ามไปเรียนต่อปริญญาโทด้านเศรษฐกิจที่อังกฤษ เขาพบรักกับภรรยาที่นั่นและยืนยันแต่งงานกับสตรีที่ตนหมายปอง และเป็นสิ่งเดียวที่เขาต้านกฎของครอบครัว ขณะที่พี่น้องทุกคนถูก “คลุมถุงชน!”

เป็น-เชื้อไม่ทิ้งแถว-ลูกไม้ที่ใต้ต้น-เป็นลมที่กระพือปีกให้บิดา ทั้งหมดที่ร่ายมา เห็นได้จากฮุน มาเนต ไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ นอกจากนี้ ลูกชายทั้งหมด 3 คนในตระกูลฮุน ต่างมีบุคลิกความสัมพันธ์ต่อกันเยี่ยงนักการทูต

ลำดับความสำคัญอย่างเป็นทางการที่ว่านี้ นอกจากจะมีต่อบิดาอย่างเคร่งครัด ไม่เว้นแม้แต่ในยามที่บิดาอยู่ในชุดเสื้อกล้ามตราห่านและนั่งอยู่หัวโต๊ะกินข้าว ราวกับเหมือนง่าย แต่เด็กๆ ตระกูลฮุนทุกคน หลังตรงพร้อมทุกเวลาในการทำความเคารพต่อบิดา

เรื่องแบบนี้ใช่มีแต่ในหมู่ชาวราชสำนัก แต่สำหรับตระกูลฮุนแล้ว สมเด็จฮุน เซน ได้ฝึกทายาทมาเช่นนี้ ทั้งต่อหน้า ลับหลังหมู่ชน พ่อลูกต่างมีจังหวะซึ่งกันและกันอย่างเป็นทางการ

แต่นั่นแหละ ตระกูลไหนก็มีจุดอ่อน แม้เด็กๆ ตระกูลฮุนนั้น จะถูกฝึกฝนมาอย่างดี กระนั้นการอยู่ในเขตเซฟโซนมายาวนาน แต่สำหรับฮุน มาเนต แล้ว ประสบการณ์ของเขาร่วม 2 ทศวรรษในกองทัพ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาพ้นใต้เงาบิดาไปได้

แม้ว่า ฮุน มาแนต ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความคาดหวังถึงระดับเจ้านายชั้นสูง

สมบูรณ์แบบขนาดนั้น แต่ฮุน มาเนต ก็ยังอุตส่าห์มี “รักเล่นกล” หรือ affair ลับๆ ที่จำต้องปกปิด

มันคือ สัมพันธ์ลับกับสาวสวยคนหนึ่งซึ่งเคยรับราชการในกองทัพ ต่อมา แจว สุวัฒนา ถูกย้ายเข้าไปทำงานด้านพิธีการในรัฐสภา เธอกลายเป็นสาวโสดลูกติดที่สุดแซ่บ ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองที่ไม่ผ่านการสมรสและเปิดเผยของลูกๆ

ชีวิตที่ลึกลับของแจว สุวัฒนา ยากที่ชาวเขมรทั่วไปจะเข้าใจ แต่ความฉาวโฉ่ลับๆ นั่น กลับเห็นแต่เรื่องราวของเธอที่มักโพสต์แต่ภาพแนบชิดของตนกับอดีตผู้บังคับบัญชาพลโทฮุน มาแนต (ยศขณะนั้น)

หลายครั้ง ภาพที่ชวนให้ตีความเหล่านั้นก็หลุดลอดออกมา กระทั่งมีข่าวว่าแจว สุวัฒนา หันไปคบหากับคนระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัด จึงดับความสนใจเรื่องของเธอกับฮุน มาแนต ไประยะหนึ่ง

กระทั่งไม่นาน จู่ๆ แจว สุวัฒนา ก็ตัดสินใจแขวนคอตายในวิลล่าที่เป็นรังรัก นั่นคือเรื่องราวเมื่อกว่า 5 ปีก่อน

รองผู้ว่าฯ ของเธอถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังฆาตกรรมอำพรางจากรักสามเส้ากับภรรยาหลวง เขาถูกจับและติดคุกยาวทันที นับแต่นั้น คดีรักเล่นกลของแจว สุวัฒนา ทั้งคนที่หนึ่งและสองก็ดับหายไปจากกระแสสังคม

ไม่มีใครออกมาเปิดเผยความจริง รวมทั้งลูกๆ ของเธอ ที่ไม่ทราบมีใครเป็นนอมินีรับไปดูแล แต่ที่แน่ๆ เคยมีภาพที่ถ่ายกับฮุน มาแนต และถูกสังเกตว่าพวกเขามีหน้าตาละม้ายกันมาก