เมื่ออายุมากขึ้น เราไม่สามารถหนีปัญหาสภาพผิวที่เสื่อมโทรมลงได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขาดความกระชับหย่อนคล้อย ความเหี่ยวย่น และริ้วรอยร่องลึกต่างๆ ซึ่งมีแต่จะเพิ่มขึ้นตามอายุ นั่นเพราะเมื่ออายุเดินทางมาถึงเลข 20 ผิวของเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในทุกปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเท่าเดิม Sculptra จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก เปรียบเสมือนฟื้นคืนสปริงในชั้นผิว ช่วยให้ผิวกลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน และเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นผิวอีกครั้ง วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Sculptra นวัตกรรมที่ออกแบบมาเป็น Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลก โดย Sculptra นี้จะเข้ามามีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวเราได้อย่างไร ไปทำความรู้จักเลย

Sculptra คืออะไร ออกฤทธิ์อย่างไร?

Sculptra คืออนุภาคของสารกำเนิดคอลลาเจน PLLA หรือที่เรียกว่า Poly-L-Lactic Acid ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ Collagen Biostimulator เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ผ่านการทำงานของเซลล์ Macrophage กระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเองได้ถึง 66.5 % หลังการฉีดเพียงครั้งเดียว โดยการออกฤทธิ์ของ Sculptra คือจะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และส่งสัญญาณไปยังเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน กระตุ้นการผลิต Collagen Type 1 ที่เป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกาย ช่วยเสริมโครงสร้างให้กับผิวหนัง ผนังหลอดเลือด และเส้นเอ็น ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น อิ่มฟูขึ้น ช่วยแก้ปัญหาสภาพผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ให้ผิวเรียบเนียนและแข็งแรงขึ้น เติมเต็มร่องลึกต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้าบริเวณที่ฉีดดูอ่อนเยาว์ลง และที่สำคัญผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยจะสังเกตเห็นผลผลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นหลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน

Biostimulator สารกระตุ้นคอลลาเจน คืออะไร?

Biostimulator เป็นการรักษาชนิดหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ด้านความงาม การชะลอวัย โดยใช้หลักการ Natural healing และ Regenerative process เป็นหลักการกระตุ้นโดยผ่านสารบางอย่างเพื่อให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมและฟื้นฟูด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับการรักษาด้วย PRP การฉีด Growth factor หรือ Rejuran แต่ผลลัพธ์นั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่งในปัจจุบัน biostimulato สำหรับฉีด เป็นการนำสารที่ใช้ในการผลิตไหมละลายมาทำให้เป็นผงละเอียด แล้วนำไปผสมกับน้ำเกลือ แล้วจึงนำไปฉีดเข้าผิว จนทำให้กลายเป็นที่มาของชื่อ ‘ไหมน้ำ’ นั่นเอง ซึ่งไหมน้ำนี้ก็มีหลายชนิดและหลายยี่ห้อ เช่น PDO, PDLA, PCL และ Calcium Hydroxyapatie เป็นต้น

Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร?

อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว ช่วยเติมเต็มร่องลึกต่างๆ รวมถึงบริเวณโครงสร้างใบหน้าที่เกิดจากไขมันและกระดูกที่ยุบตัว สามารถแก้ไขปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำให้กลับมาสุขภาพดีฉ่ำวาวอีกครั้ง เห็นผลหลังฉีดทันที โดยฟิลเลอร์แต่ละรุ่นก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ระยะเวลาของผลลัพธ์จะอยู่ตั้งแต่ 6 – 24 เดือน แต่ Sculptra คือสาร PLLA ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นเองตามธรรมชาติ โอกาสแพ้น้อยและไม่ตกค้างในร่างกาย ช่วยเสริมโครงสร้างให้กับผิวหนัง ให้โครงสร้างผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก โดดเด่นในการช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูอิ่มฟู ยกกระชับผิว และลดเลือนริ้วรอยต่างๆ นั่นเอง

Sculptra ช่วยฟิ้นฟูสภาพผิวอย่างไรบ้าง?

การฉีด Sculptra คือเปรียบเสมือนการเพิ่มสปริงในผิวชั้นลึก เพื่อให้ผิวมีความยืดหยุ่น มีการคืนตัว (Elasticity) มีความเรียบเนียน (Texture Smoothness) และมีความกระชับมากขึ้น ซึ่งการฉีด Sculptra นั้นให้ผลลัพธ์ผิวดูอ่อนเยาว์ แน่น ตึง และอิ่มฟูขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดศัลยกรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิค วิธี และการวางแผนของแพทย์แต่ละคนด้วย

• ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นลึกและปรับโครงสร้างผิวจากภายใน เพราะ Sculptra มีสาร PLLA ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและสมบูรณ์จากภายใน
• เติมเต็มร่องลึกต่างๆ เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นผิวเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนขึ้นทุกปี จนเกิดเป็นริ้วรอยร่องลึกต่างๆ บริเวณผิวหน้า การฉีด Sculptra จะช่วยกระตุ้นให้ผิวชั้นลึกผลิตคอลลาเจนแทนคอลลาเจนที่สูญเสีย ทำให้ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ ดูตื้นและเต่งตึงขึ้น
• ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย เพราะการหย่อยคล้อย สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ผิวสูญเสียคอลลาเจน ดังนั้นการฉีด Sculptra จึงช่วยให้ผิวมีความตึงกระชับมากขึ้น
• เพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวกระจ่างใส นอกจากคอลลาเจนจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวตึงกระชับและดูอ่อนเยาว์แล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มฟู และดูกระจ่างใสขึ้นด้วย
• ช่วยในการรักษาหลุมสิว แม้หลายคนจะเข้าใจว่าเลเซอร์เป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่เห็นผลที่สุด แต่การใช้ Sculptra ในการรักษาหลุมสิวนั้น หากมีเทคนิคและการวางแผนการรักษาโดยเฉพาะก็สามารถช่วยให้เนื้อของหลุมสิวถูกเติมเต็มได้ดีกว่าหลายเท่า
• เสริมการทำงานของเครื่องมือกลุ่มยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจน เพราะบริเวณที่ฉีด Sculptra จะมีเซลล์ Fibroblast ที่เป็นกำเนิดของคอลลาเจนสูง ทำให้ผิวของเราตอบสนองต่อการรักษาด้วยเครื่องมือกลุ่มยกกระชับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น เช่น Thermage, Ulthera, Potenza เป็นต้น

 

หากจะเปรียบคอลลาเจนเป็นสปริงในชั้นผิว เมื่ออายุมากขึ้น บวกสภาพอากาศ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ ล้วนส่งผลให้ความยืดหยุ่นและการคืนตัวของสปริงในชั้นผิวเกิดการเสื่อมสภาพลง Sculptra จึงนับเป็นหัตถการที่จะเข้ามาช่วยกอบกู้และเสริมสร้างประสิทธิภาพของสปริงในชั้นผิวให้กลับมาแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นขึ้นอีกครั้ง นวัตกรรมคอลลาเจน Sculptra จึงเป็นทางเลือกใหม่ในวงการเสริมความงามที่ช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญไม่มีความเสี่ยงในการเกิดโครงสร้างใบหน้าผิดรูป ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าอย่าง Sculptra ที่ DSK Clinic คลินิกเสริมความงามที่ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เราพร้อมให้คำปรึกษา ตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์สภาพผิว วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

 

ติดต่อสอบถาม | จองคิว

โทร:      สาขา Stadium One 082-162-5359

สาขารัชดา 081-141-9255

สาขาบางนา 063-090-7888

สาขานครปฐม 063-079-9000

ไลน์:      @dskinclinic