การศึกษา

 

เมื่อ ‘พ.ร.บ.กศน.’เพิ่ม ‘ซี 11-สอน ป.ตรี’

จับตา ‘หมอธี’ พร้อมชน ‘บิ๊กน้อย’??

 

มีประเด็นร้อนแรงเกิดขึ้นในแวดวงการศึกษา เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่าน “ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พ.ศ. …” ที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ยกร่าง และผลักดัน เพื่อปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580)

ที่มาที่ไปของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ น.ส.ประดินันท์ สดีวงศ์ รองเลขาธิการ กศน.ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นนโยบายของ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งกำกับดูแล กศน.ต้องการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ

ซึ่งขณะนี้กฎหมายอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนจะบรรจุวาระการพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ยังไม่แน่ใจ แต่ พล.อ.สุรเชษฐ์ช่วยผลักดันเต็มที่

สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.จะเน้นเรื่องกระบวนการเรียนการสอนตลอดชีวิต ยกฐานะสำนักงานเป็น “นิติบุคคล” จัดรูปแบบการศึกษาเพื่อคุณวุฒิตามระดับในรูปแบบการศึกษานอกระบบ มี 2 ระดับ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาที่สูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การจัดการเรียนการสอนระดับอนุปริญญา และปริญญาตรี

ที่สำคัญร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดให้มี “เลขาธิการ กศน.” เทียบเท่ากับข้าราชการระดับ (ซี) 11!!

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเห็นว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการยกฐานะ กศน.เป็นนิติบุคคล ให้มีความอิสระในการบริหารจัดการ ซึ่งการปรับสถานะ กศน.เป็นนิติบุคคล จึงค่อนข้างเหมาะสม แต่ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีกรรมการที่มาจากตัวแทนหน่วยงานต่างๆ มากเกินไป มองว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้แทนจากหน่วยงานเหล่านี้เป็นกรรมการมากนัก แต่ควรเพิ่มผู้แทนที่มาจากภาคประชาสังคม ที่ทำงานอย่างจริงจัง จะเกิดประโยชน์มากกว่า

“อีกประเด็นที่ไม่เห็นด้วย คือไม่อยากให้ กศน.เน้นสอนระดับปริญญาตรี เพราะในอนาคตจะเกิดปัญหาการแย่งเด็ก โดยเฉพาะกับกลุ่มวิทยาลัยชุมชน (วชช.) กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชการมงคล (มทร.) ซึ่งจำนวนผู้เรียนน้อยอยู่แล้ว แต่อยากให้เน้นผู้เรียนระดับอนุปริญญา และการเรียนสายอาชีพเพื่อการมีงานทำ และการศึกษานอกระบบ จะตอบโจทย์ บทบาท และหน้าที่ของ กศน.มากกว่า” นายสมพงษ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ปรากฏโฉมหน้าออกมา ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก

เพราะมีบางเรื่องที่ดูจะขัดกับแนวทางการดำเนินงานของ ศธ.ทั้งประเด็นที่ กศน.สอนปริญญาตรีได้ จะทำให้เกิดการแย่งเด็กขึ้นหรือไม่ ทั้งที่ปัจจุบันจำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยลดลงอย่างมาก

อีกทั้งยังยกตำแหน่งเลขาธิการ กศน.เป็นซี 11 ทั้งที่ ศธ.มีแนวทางการปรับโครงสร้าง ศธ.โดยจะลดสถานะ 5 แท่งให้เหลือเพียงกรม และมีปลัด ศธ.เป็นซี 11 ทำหน้าที่บริหารในภาพรวมเพียงคนเดียวนั้น

ขณะที่ นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.กศน.จะกระทบกับโครงสร้าง ศธ.ที่ กอปศ.กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้หรือไม่ มองว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล และ ศธ.ที่จะพิจารณาว่าเป็นการขัดหรือไม่ ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าขัด

ส่วนการเปิดสอนในระดับปริญญาตรี จะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่ เพราะการทำงานจะซ้ำซ้อนกับมหาวิทยาลัย มองว่าไม่เป็นปัญหา เพราะถ้าไปถึงระดับอุดมศึกษา และจัดการเรียนการสอนเป็นปริญญา จะมีระบบการกำกับดูแลตรวจสอบอยู่แล้ว

ร้อนถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ชน “บิ๊กน้อย” พล.อ.สุรเชษฐ์ แทบจะในทันที โดยให้สัมภาษณ์ว่า จะไม่ยอมให้ กศน.เปิดสอนถึงปริญญาตรี และยกตำแหน่งเลขาธิการ กศน.เป็นซี 11 อย่างแน่นอน

“ดับฝัน” กันชัดเจน…

นพ.ธีระเกียรติระบุว่า ได้รับการร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก และทราบว่ามีเรื่องนี้เข้ามาด้วย ซึ่งจะขอดูรายละเอียดก่อน เพราะมีคนร้องผ่านตนจำนวนมากว่าอย่าให้กลายเป็นทางผ่าน หรือกลายเป็นการยัดไส้เอาคนเข้ามา และทำให้เลอะเทอะ

ส่วนเรื่องที่จะให้ กศน.สอนระดับปริญญาตรี ไม่ได้ทำง่าย ขณะนี้ กศน.ฝันที่จะทำหลายเรื่อง บางเรื่องเป็นเรื่องอยู่ในความฝัน เดี๋ยวจะปลุกให้ตื่น ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย โดยร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เกิดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องตามหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงต้องปรับให้ กศน.เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลเรื่องเรียนรู้ตลอดชีวิต

กศน.เลยอยากจะปรับโครงสร้างกันยกใหญ่ แม้ ครม.เห็นด้วยโดยหลักการ แต่ต้องผ่านหลายขั้นตอน ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครปล่อยเรื่องเลอะเทอะให้ผ่านไปได้หรอก

“คุณมีสิทธิฝัน แต่ต้องดูว่าถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย และนโยบายรัฐหรือไม่ มีหลายคนที่ค้านใน 2 ประเด็นนี้ ทั้งเรื่องซี 11 และการสอนระดับปริญญาตรี ผมก็ค้าน อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้ ผมจะเป็นประธานพิจารณาเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้เอาอยู่” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

นอกจากนี้ นพ.ธีระเกียรติ ยังเน้นย้ำหลายรอบว่า “ไม่ยอมแน่นอน” หาก กศน.จะจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี และไม่มีนโยบายให้มีหน่วยงานมากขึ้น หรือให้ ศธ.ใหญ่ขึ้น มีแต่จะเล็กลง การปรับเปลี่ยนทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

“ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้จะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงสร้าง คิดว่าน่าจะมีความชัดเจน เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย ส่วนสุดท้ายโครงสร้างของ กศน.จะเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ถ้ากฎหมายใดที่ขัดกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ต้องปรับใหม่ให้สอดคล้องกัน ส่วนจะผ่าน สนช.ภายในรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่าจะทัน แต่ถ้ารัฐบาลใหม่เข้ามาก็สามารถทำต่อได้ทันที” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

ทำเอาคนที่ลุ้นเรื่องนี้ “ฝันค้าง” กันเป็นแถวๆ!!

 

ด้าน พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ผู้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ ออกให้ความเห็นหลังจาก นพ.ธีระเกียรติฟันธงชัดเจนว่าจะไม่ให้ กศน.เพิ่มซี 11 และเปิดสอนปริญญาตรีอย่างแน่นอน ว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน และจะต้องรับฟังความเห็นให้ทั่วถึง คงไม่ถึงขั้นไปค้าน หรือไปอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้จะเหมาะสมแค่ไหน อย่างไร

ดูเหมือนความเห็นต่างระหว่าง นพ.ธีระเกียรติ และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ในเรื่องนี้ ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คงต้องดูกันต่อว่าใครจะมีกำลังภายในมากกว่ากัน เมื่อร่าง พ.ร.บ.กศน.ฉบับนี้ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา และผ่านที่ประชุมที่ นพ.ธีระเกียรติเป็นประธานแล้ว

จะยังคงเก้าอี้เลขาธิการ กศน.เป็นซี 11 หรือไม่…

ยังให้เปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาตรีหรือไม่…

ทั้งนี้ ทุกฝ่ายคงต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน และตีโจทย์งาน กศน.ให้แตกว่า “จุดมุ่งหมาย” ที่สำคัญของ กศน.คืออะไรกันแน่

การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน และการส่งเสริมอาชีพเพื่อเสริมชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น ใช่หรือไม่??

      หรือที่เปิดสอนปริญญาตรี ก็เพื่อให้เก้าอี้เลขาธิการ กศน.เป็น “ซี 11” ได้อย่างสมเหตุสมผลเท่านั้น!!