ในแวดวงกีฬาที่อเมริกา เดือนมีนาคม เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มาร์ช แมดเนส (March Madness) หรือ “มีนาบ้าคลั่ง” เพราะเป็นเดือนที่มีการแข่งขันบาสเกตบอลชิงแชมป์มหาวิทยาลัยแห่งชาติ (NCAA) โดยเป็นการชิงแชมป์ดิวิชั่น 1 ซึ่งสูงที่สุดของประเทศ มีสุดยอดทีมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัย 64 ทีมเข้าแข่งขันแบบแพ้ตกรอบทันที ทีมแชมป์จะต้องชนะ 6 ครั้งรวดติดต่อกัน

การแข่งขันเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม รวมเบ็ดเสร็จ 63 นัด

รอบชิงแชมป์จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน

เฉพาะเดือนมีนาคมเดือนเดียว มีการแข่งขันถึง 62 นัด ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แทบทุกวัน จึงเรียกกันว่า March Madness หรือมีนาบ้าคลั่ง เพราะการแข่งขันสนุกตื่นเต้น หลายนัดลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้าย

บ่อยครั้งที่ทีมรองพลิกล็อกเอาชนะทีมเป็นต่ออย่างเหนือความคาดหมาย ผู้ชมตื่นเต้น สนุกสุดขีด จนควบคุมสติแทบไม่อยู่

ความคลั่งไคล้และความนิยมของคนอเมริกันที่มีต่อการแข่งขันบาสเกตบอลชิงแชมป์มหาวิทยาลัย มีมากกว่า NBA Playoffs ซะอีก เพราะแฟนของทีมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยมีทั้งนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่า

แม้แต่คนที่ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยนั้นๆ แต่อาศัยอยู่ในเมืองหรือรัฐที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ ก็เป็นแฟนเหนียวแน่นสืบทอดกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด

 

อย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลก ซึ่งนิตยสาร Forbes ประเมินว่า มีทรัพย์สินประมาณ 90,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 ล้านล้านบาท เป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีมบาสเกตบอล เครห์ตัน ยูนิเวอร์ซิตี้ (Creighton University) เพราะเขาเกิดและเติบโตที่เมืองโอมาฮ่า (Omaha) รัฐเนแบรสกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย และปัจจุบันก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่น

March Madness ปีนี้ บัฟเฟตต์จัดกิจกรรมที่สนุกและตื่นเต้นให้กับพนักงานบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของเขาที่มีพนักงานกว่า 377,000 คน เรียกกิจกรรมนี้ว่า Million-Dollar March Madness Bracket Challenge ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เขาจัดให้กับพนักงานได้ร่วมสนุกชิงเงินรางวัลมาตั้งแต่ปี 2014

โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ทาง NCAA ผู้จัดการแข่งขัน ได้เผยตารางการประกบคู่แข่งขันที่รู้จักกันในชื่อ March Madness Bracket ซึ่งบรรดาแฟนบาสเกตบอลก็จะถ่ายสำเนาตารางการประกบคู่แข่งขันไว้ติดตามและทายว่าทีมไหนจะเป็นทีมที่ชนะจากทั้งหมด 63 นัด

หากพนักงานคนไหนทายผลการแข่งขันถูกเป๊ะว่าทีมไหนจะสามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เรียกว่า Sweet 16 หรือเข้ารอบ 3 (ซึ่งหมายความว่าจะต้องทายผลการแข่งขันถูกถึง 48 นัด) วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะมอบเงินให้ปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 31 ล้านบาทไปตลอดชีวิต

ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ทราบผลแล้วว่าไม่มีพนักงานคนไหนทายถูก เพราะ March Madness ปีนี้บ้าคลั่งสมชื่อ ทีมรองเฉือนเอาชนะทีมเต็งไปอย่างพลิกความคาดหมายหลายคู่

 

ถามว่าโอกาสที่จะทายถูกทั้ง 48 นัด และได้เงินปีละ 1 ล้านดอลลาร์ไปตลอดชีวิตนั้นมีมากขนาดไหน

มีการคำนวณและได้คำตอบว่า โอกาสมีอยู่ที่ 1 ใน 4,000,000,000!

ดังนั้น สรุปได้ว่า โอกาสที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะจ่ายเงินให้กับพนักงานที่ทายผลการแข่งขันถูกเป๊ะว่าทีมไหนจะสามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือ Sweet 16 นั้นแทบจะไม่มีเลย

 

ปีหน้า หรือปีต่อๆ ไป หากวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะจัดกิจกรรม Million-Dollar March Madness Bracket Challenge เพื่อให้พนักงานชิงเงินล้านต่อปีไปตลอดชีวิต ก็คาดว่าไม่มีใครทำได้สำเร็จ

แต่บัฟเฟตต์ก็มีรางวัลปลอบใจ โดยพนักงานคนใดทายผลการแข่งขันถูกมากคู่ที่สุด จะได้เงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์ หรือ 3 ล้าน 1 แสนบาท

ซึ่ง March Madness ปีนี้ มีพนักงาน 8 คน ทายผลการแข่งขันได้สูงสุดเท่ากัน เงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์ จึงต้องหาร 8

 

นอกจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ แล้ว เว็บไซต์ต่างๆ เช่น Yahoo และ ESPN ก็จัดกิจกรรม March Madness Bracket Challenge ชิงเงินรางวัลหากทายผลการแข่งขันถูกทั้งหมด ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา เคยมีคนทายผลการแข่งขันได้ถูกต้องมากที่สุด 39 นัด

ถามว่าโอกาสที่จะทายผลการแข่งขันถูกต้องทั้งหมด 63 เกม อยู่ที่เท่าไหร่

คำตอบคืออยู่ที่ 1 ใน 128,000,000,000

จึงไม่แปลกใจที่ March Madness ปี 2014 วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถึงกล้าตั้งรางวัลว่า ใครคนใดก็ตามไม่เฉพาะแต่พนักงานบริษัทของเขา หากทายผลการแข่งขันถูกทั้ง 63 เกมที่เรียกว่า Perfect Bracket บัฟเฟตต์จะมอบเงินรางวัลให้ทันที 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 31,000 ล้านบาท

ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว…ว่าไม่มีใครได้รางวัลนี้ไป