E-DUANG : ท่าที จาก”ภายใน” เพื่อไทย กรณี ปานปรีย์ พหิทธนานุกร

ปฏิกิริยาต่อปฏิกิริยาภายหลังการปรับครม.จากภายในพรรคเพื่อไทยต่อกรณี นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร และกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว มีความแตกต่างกัน

ไม่ว่าจะมองจากความรู้สึกของ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ไม่ว่าจะมองจาก”กองเชียร์”ที่แวดล้อมอยู่โดยรอบ

ต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว มากด้วยเยื่อใย มีความผูกพัน

ต่อ นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร มากด้วยความหงุดหงิด แม้จะมีการปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลายลงบ้าง แต่เยื่อใยมีน้อยกว่า ผูกพันน้อยกว่า

อาจเป็นเพราะ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เติบโตในพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องผ่านพรรคพลังประชาชน และกลายเป็นกำลังสำคัญ ให้กับพรรคเพื่อไทย

ตรงกันข้าม นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร มาจากพรรคชาติไทย มาจากพรรคชาติพัฒนา ก่อนจะมาเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคไทยรักไทย

จุดสำคัญเป็นอย่างมากคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นส.ส.เขต นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร เคยเป็นสส.ระบบบัญชีรายชื่อ

คนหนึ่งเป็นเหมือนคนในบ้าน อีกคนเป็นเหมือนแขกรับเชิญ

 

ฟังจากน้ำเสียงของ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แทบไม่มีความห่างเหิน ตรงกันข้าม กลมกลืนอย่างเป็นเนื้อ เดียวกัน เป็นนักการเมืองเหมือนกัน

จากไทยรักไทย จากพลังประชาชน และเพื่อไทย

ต่อ นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร เหมือนลอยอยู่บนฟ้าสูงมา พร้อมกับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มาพร้อมกับ นายกร ทัพพะรังสี และอยู่ระดับ”บน”ของพรรคไทยรักไทย

เห็นได้จากตอนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็อยู่ที่สหประชาชาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และทำงานร่วมทีมเดียว กันกับ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย

นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร จึงมิได้เป็น”นักการเมือง”ในแบบคลุกดินเหมือนกับ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม หากมีความใกล้ชิดกับระดับบนไม่ว่าพรรคชาติไทย ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย

อาลัยต่อ นายปานปรีย์ พหิทธนานุกร จึงมีน้อยกว่า

 

ต้องยอมรับว่าความรู้สึกอันมาจาก นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สะท้อนความจริงใจและดำเนินไปอย่างแยกจำแนก จำแนกสถานะของ”นักการเมือง”ในพรรคเพื่อไทย

ความห่วงใยต่อชะตากรรมของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จึงมีอยู่อย่างลึกซึ้งด้วยความประทับจิตฝังใจ แต่ต่อชะตากรรมของ นาย ปานปรีย์ พหิทธนานุกร แทบไม่มีอาวรณ์อาลัย

ท่าทีจึงเป็นแบบไล่ส่ง ย่อมต่างไปจากท่าทีต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พยายามรั้งดึงไว้อย่างเต็มกำลัง