100 นัด ธีราทร บุญมาทัน ตำนานนักเตะ ‘ช้างศึก’ คนล่าสุด

ในโลกของฟุตบอล การติดทีมชาติ 1 นัด นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการยืนระยะให้ได้อย่างยาวนานที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกฟุตบอลทีมชาติ ไม่ได้มีการแข่งขันมากมายเหมือนระดับสโมสร ที่ปีหนึ่งมีการแข่งขันมากกว่า 40-60 นัด

ฉะนั้น การจะทำสถิติลงสนามให้ได้มากกว่า 100 เกม เรียกว่าต้องเล่นทีมชาติต่อเนื่องให้ได้มากกว่า 10 ปีขึ้นไป

จากการเก็บสถิติทั่วโลก ปรากฏว่ามีนักเตะที่เคยลงเล่นให้กับทีมชาติเกิน 100 นัด เพียงแค่ 601 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ชาติที่มีนักเตะติดทีมชาติจำนวนเยอะๆ มักจะเป็นชาติที่ไม่ได้ใหญ่มาก หรือมีการแข่งขันหลายรายการ อย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย (17 คน) หรือ บาห์เรน (16 คน) ที่มีการแข่งขันระดับชาติให้ลงมากมาย

โดยนักเตะระดับโลกที่ทำสถิติลงเล่นในนามทีมชาติมากที่สุด ก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะจากทีมชาติโปรตุกีส ที่ลงเล่นไปแล้วถึง 205 นัด ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ลงเล่นให้กับทีมชาติมา และยังมีโอกาสเพิ่มสถิติไปได้มากกว่านี้อีกด้วย

ย่อยลงมาในระดับเอเชีย นักเตะที่ทำสถิติลงเล่นมากที่สุด ก็คือ บาเดอร์ อัล-มูตาว่า จาก คูเวต ที่ลงเล่นไป 196 นัด ในช่วงปี 2003-2022

ในขณะที่ระดับอาเซียน คนที่ลงเล่นทีมชาติมากที่สุดคือ ซอห์ ชิน อันน์ จาก มาเลเซีย ลงเล่นไปทั้งหมด 195 นัด ในช่วงปี 1969-1984

 

ประเทศไทยนั้น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีนักเตะที่ติดทีมชาติเกิน 100 นัดแล้วทั้งหมด 6 คนด้วยกัน

เรียงลำดับมาเลย ได้แก่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตดาวยิงจอมตีลังกา ลงเล่นไปทั้งสิ้น 134 นัด ช่วงปี 1993-2007

ตามมาด้วย “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ารุ่นน้องยุคปัจจุบัน ที่ลงเล่นไปแล้ว 127 นัด ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา และมีโอกาสทุบสถิติของซิโก้ได้ด้วย ถ้าได้ลงเล่นอีก 8 นัด

อันดับ 3 ของไทย คือ “แบน” ธชตวัน ศรีปาน ลงเล่นไปทั้งหมด 110 นัด ช่วงปี 1993-2009

ส่วนอันดับ 4 กับ 5 นั้นลงเล่น 100 นัดเท่ากัน คือ “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน (ช่วงปี 1981-1997) และ “โก้” ดัสกร ทองเหลา (ช่วงปี 2003-2017)

และคนล่าสุดที่ทำได้ก็คือ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่ลงเล่นนัดที่ 100 ในเกม “เอเอฟซี เอเชี่ยนคัพ 2023” นัดที่เสมอกับโอมาน 0-0

ซึ่งต้องบอกเลยว่าในส่วนของธีราทร เขาผ่านอะไรมาเยอะมาก จนมาถึงวันนี้ที่ได้ลงเล่นครบ 100 นัด

ถ้าใครจำกันได้ ย้อนกลับไปช่วงวัยหนุ่มของเขา ยังเป็นนักเตะที่อารมณ์ร้อน ช็อตที่แฟนบอลจำกันได้ดีคือการโดนใบแดง 2 นัดติด ภายใน 2 วัน ในนามทีมชาติ

เริ่มจาก ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ซึ่งแข่งขันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2010 ธีราทรโดนใบแดงในเกมกับ ซาอุดีอาระเบีย ก่อนถูกเรียกตัวบินด่วนไปยัง ซีเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อลงเล่นนัดชี้ชะตา แต่กลับได้อยู่ในสนามแค่ 12 นาทีเท่านั้น เพราะโดนใบเหลือง 2 ใบเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

ช่วงนั้นธีราทรกลายเป็นแพะรับบาปจากสังคมลูกหนังไทย เพราะถูกมองว่าเป็นต้นเหตุแห่งความพ่ายแพ้ต่ออินโดนีเซีย และการตกรอบแรกฟุตบอลซีเกมส์อีกด้วย

“ตอนนั้นผมท้อสุดๆ เล่นแล้วก็โดนด่า จนถึงขนาดไปปรึกษาพ่อเพื่อขอเลิกเล่นทีมชาติ แต่พ่อบอกว่าตนเองอุตส่าห์ตามรับตามส่งผมตั้งแต่เด็กหมดเงินเสียเวลาไปไม่รู้เท่าไหร่ ยอมเหนื่อยมาโดยตลอด จะมาเลิกแค่นี้ได้ยังไง ให้คิดดูดีๆ ผมจึงตัดสินใจสู้ต่อ” ครั้งหนึ่งธีราทรเคยเล่าเอาไว้

ถือว่าเป็นคำสอนที่ดีจาก สมหมาย บุญมาทัน ผู้เป็นพ่อ ที่ทำให้ธีราทรฝ่ามรสุมคำด่าทอต่างๆ จนสามารถพิสูจน์ตัวเองและเข้าไปนั่งอยู่ในใจของแฟนฟุตบอลชาวไทยได้อย่างทุกวันนี้

 

ธีราทรบอกว่า “ขอบคุณแฟนบอลที่ทั้งชื่นชมและบางคนก็มีด่าบ้าง แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องเจออยู่แล้ว ขอบคุณที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน”

“ส่วนตัวดีใจที่ได้เดินทางมากับทีมชาติไทย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นถึง 100 นัด จากเด็กที่เล่นฟุตบอลและได้ดูทีมชาติในราชมังคลากีฬาสถาน ทำให้อยากติดทีมชาติ จนมาถึงเกมที่ 100 รู้สึกภูมิใจ จะทำหน้าที่ต่อไป ไม่หยุดภูมิใจในตัวเองแค่นี้ จะพยายามทำหน้าที่ ดูแลตัวเอง เพื่อรับใช้ชาติให้นานที่สุด” คำกล่าวของธีราทร หลังจากลงเล่นนัดที่ 100 ให้กับทีมชาติไทยไปแล้ว

แน่นอนว่าในวัย 33 ย่างเข้า 34 ปี เวลาของทีมชาติกับเขาอาจจะเหลือไม่มากนัก แต่ด้วยคุณภาพของธีราทร เขายังสามารถช่วยเหลือทีมชาติไทยไปได้อีกหลายปี อีกทั้งตอนนี้เจ้าตัวเรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ของทีมชาติไทยไปแล้ว

และด้วยความที่ธีราทรเป็นนักเตะที่รักษาสภาพร่างกายดี อาการบาดเจ็บค่อนข้างน้อย และช่วงหลังเองเขาไม่เคยปฏิเสธทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นรายการเล็กหรือใหญ่ (ยกเว้นแต่สโมสรจะเป็นคนตัดสินใจไม่ส่งมาเล่นทีมชาติเอง) ทำให้ธีราทรมีโอกาสบวกสถิติของตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างน้อยแซงหน้าธชตวัน (110 นัด) หรือเทียบเท่าธีรศิลป์ (127 นัด) เอง คงไม่ใช่เรื่องยาก

และนี่คือนักเตะตำนานของทีมชาติไทยอีกหนึ่งคนอย่างแน่นอน •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]