กีฬา

‘ไทเกอร์’ โบกมือลา ‘ไนกี้’ ถึงเวลาต่างฝ่ายต่างมูฟออน

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 มกราคม 2567
คอลัมน์Technical Time-Out
เผยแพร่

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ในที่สุด หลังวันเกิดอายุครบ 48 ปี ได้เพียงสัปดาห์เดียว ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตโปรกอล์ฟมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ก็ประกาศข่าวช็อกว่า ได้ตัดสินใจสิ้นสุดความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับ ไนกี้ ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาเจ้าใหญ่ของสหรัฐ หลังร่วมงานกันมา 27 ปีเต็ม

ในมุมมองของคนทั่วไป นี่อาจเป็นข่าวใหญ่ที่ชวนตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น?

แต่สำหรับผู้สังเกตการณ์ที่ติดตามสถานการณ์ของทั้ง 2 ฝั่งอย่างใกล้ชิดแล้ว ว่ากันว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ต้องเกิดไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น

ฝั่งไนกี้หยุดผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งลูกกอล์ฟ ไม้กอล์ฟ และถุงกอล์ฟ อีกทั้งผู้บริหารยอมรับว่า ต้องพยายามลดค่าใช้จ่ายลงราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70,000 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีหลังจากนี้

ข้างฝั่งไทเกอร์เอง เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า ทำให้ลงสนามไม่ได้สม่ำเสมอเหมือนเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อต้นปี 2021 ซึ่งทำให้เขาเจ็บหนักที่ขาขวาตั้งแต่เข่าลงไป ถึงขั้นเจ้าตัวยอมรับว่าหวั่นจะโดนตัดขา ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอยู่นานกว่าจะกลับมาแข่งขันได้ ถึงกระนั้นสภาพร่างกายก็ไม่เต็มร้อย ยังมีปัญหาเวลาเดินนานๆ แม้ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ส่งผลโดยตรงกับการออกรอบแข่งขัน

ผลจากอุบัติเหตุและปัญหาบาดเจ็บทำให้ไทเกอร์หายจากพื้นที่สื่อไปนาน แม้ว่ามีข่าวเมื่อไรคนก็ให้ความสนใจเมื่อนั้น แต่จำนวนการออกสื่อก็ไม่ถี่เหมือนกับตอนยังแข็งแรงดี

อีกทั้งเมื่อไม่ได้เล่นกอล์ฟสม่ำเสมอ โอกาสที่จะได้ “ขาย” ของให้แบรนด์ผ่านการถ่ายทอดยิ่งน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ความสัมพันธ์ระหว่างไนกี้กับไทเกอร์ย้อนไปตั้งแต่หลังเขาคว้าแชมป์สมัครเล่น ยูเอส อเมเจอร์ สมัยที่ 3 ติดต่อกันในปี 1996 และตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเพื่อก้าวสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพเต็มตัว

ไนกี้ต้อนรับไทเกอร์ด้วยการลงโฆษณา 3 หน้าเต็มในหนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีต เจอร์นัล โดยสัญญาฉบับแรกเซ็นกัน 5 ปี มูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,400 ล้านบาท)

ว่ากันว่าตอนนั้นไนกี้พยายามมองหานักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์เพื่อทำสัญญาผูกพันในระยะยาว หลังจากเคยประสบความสำเร็จกับดีลประวัติศาสตร์กับ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานบาสเกตบอลชื่อดังในปี 1984 นำไปสู่รองเท้าไลน์ แอร์ จอร์แดน ซึ่งได้รับความนิยมมหาศาลจนถึงปัจจุบัน

ปรากฏว่าไทเกอร์ไม่ทำให้ผิดหวัง สร้างผลงานโดดเด่นต่อเนื่องจนกลายเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกในยุคหนึ่ง เรียกว่าต่อให้คนที่ไม่เล่นกอล์ฟหรือไม่ดูกอล์ฟก็ยังรู้จัก

เขาคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ถึง 4 รายการ แค่เพียง 8 เดือนแรก ในจำนวนนั้นคือแชมป์เมเจอร์ มาสเตอร์ส ปี 1997 ก่อนจะก้าวไปคว้าแชมป์อีกนับไม่ถ้วนจนได้รับการยกย่องว่า “ไร้เทียมทาน”

บางช็อตบางฉากในการแข่งขันจริงก็กลายเป็นพื้นที่สื่อชั้นดีสำหรับไนกี้ เช่น ลูกชิปอินจากรัฟในรอบสุดท้ายของศึกมาสเตอร์สปี 2005 ซึ่งลูกไปค้างตรงขอบหลุมนานกว่า 1 วินาที กล้องที่จับจ้องลูกกอล์ฟซึ่งแปะโลโก้ไนกี้กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ลืมไม่ลงของแฟนกอล์ฟทั่วโลก

ในยุคทองของไทเกอร์ ไนกี้ผลิตสื่อโฆษณาชวนจดจำออกมามากมาย แม้ในช่วงที่เขาเริ่มมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้า รวมถึงเผชิญข่าวอื้อฉาวในชีวิตส่วนตัวที่ทำให้สปอนเซอร์หลายรายถอนตัว ไนกี้ก็ยังยืนหยัดเคียงข้าง

 

อย่างไรก็ตาม ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สปอนเซอร์เจ้าใหญ่ต้องมาทบทวนเรื่องแผนการทำสัญญาผูกพันระยะยาวกับเซเลบริตี้คนใดคนหนึ่งหนักขึ้น ว่าจะยังคุ้มค่าเหมือนเดิมหรือไม่

การมาของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ได้ใส่ใจกับการติดตามโฆษณาโทรทัศน์เหมือนก่อน ยิ่งเมื่อไทเกอร์ไม่ค่อยได้ลงสนาม โอกาสจะได้เห็นผลิตภัณฑ์หรือโลโก้ของไนกี้ยิ่งน้อยลง

ในแง่สตาร์เพาเวอร์ ไทเกอร์ยังมีอยู่เหมือนเดิม แต่ผลิตภัณฑ์กอล์ฟในไลน์ของเขาอาจจะทำยอดไม่เท่าหรือไม่สม่ำเสมอเท่ากับรองเท้า “แอร์ จอร์แดน”

มองจากมุมนักกีฬาเอง เมื่อไม่ได้เล่นสม่ำเสมอแล้ว ก็ได้เวลามูฟออนเช่นกัน ดังปรากฏว่า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสอัจฉริยะที่เคยมีสัญญาระยะยาวกับไนกี้ ก็โบกมือลาผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาเจ้าใหญ่เมื่อปี 2018 หลังร่วมงานกันมา 24 ปี แล้วหันไปเซ็นกับ ยูนิโคล่ แบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่น ทำสัญญา 10 ปี มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (10,500 ล้านบาท) แทน

การแยกทางกันระหว่างไนกี้กับไทเกอร์ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า อาจเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดเทรนด์การทำสัญญาผูกพันระยะยาวของแบรนด์ใหญ่ๆ กับนักกีฬา แม้ว่าจะยังมีตัวอย่างเหลืออยู่ อาทิ เลอบรอน เจมส์ และ เควิน ดูแรนต์ กับไนกี้ รวมถึง เดวิด เบ๊กแฮม กับ อาดิดาส ซึ่งต่างเป็นสัญญาตลอดชีพ ก็เป็นตัวอย่างที่หาได้ยากมากๆ ในปัจจุบัน

ยกเว้นจะมีซูเปอร์นักกีฬาชนิดหลายสิบหลายร้อยปีมีครั้งปรากฏตัวขึ้นมาแบบที่ทำให้น่าเชื่อว่าลงทุนแล้วคุ้มค่าสักคนเท่านั้น! •

 

Technical Time-Out | SearchSri