คอลัมน์ Technical Time-Out

ย้อน 10 ข่าวเด่นกีฬาต่างประเทศ ปี 2017

เริ่มด้วยการคว้าแชมป์สแลมรอบกว่า 4 ปีของ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” อดีตมือ 1 โลก เพิ่มสถิติแชมป์สแลมสูงสุดจาก 17 เป็น 18 ครั้ง หลังเจ็บพักใหญ่ในปี 2016

เช่นเดียวกับอีกอดีตเบอร์ 1 โลก “ราฟาเอล นาดาล” ก็ยอมหยุดยาวจากปัญหาสภาพร่างกายปีเดียวกับ “เฟดเอ็กซ์” จนได้แชมป์สแลมรอบ 3 ปี เฟรนช์ โอเพ่น และคืนบัลลังก์มือ 1 โลกตั้งแต่กรกฎาคม 2014 ก่อนแบ่งแชมป์สแลมวิมเบิลดัน และยูเอส โอเพ่น คนละรายการ

เดือนแห่งความรัก กุมภาพันธ์ แต่ไม่น่ารักสำหรับ “ไทเกอร์ วู้ดส์” ซึ่งเจ็บหลังซ้ำทั้งที่เพิ่งหวนเล่นกอล์ฟเพียงรายการที่ 3 นับจากเดี้ยงยาวสิงหาคม 2015 และลงเอยกับมีดหมอ รวมทั้งหลับคาพวงมาลัยรถกลางถนนด้วยสภาพมึนเมา ดีที่ไม่ใช่ฤทธิ์ยาเสพติด แต่เป็นการใช้ยารักษาตัวเกินขนาด อย่างไรก็ตาม แม้มีข่าวอาจถึงขั้นแขวนไม้ ทว่าล่าสุดฟื้นตัวโชว์วงสะวิงตอนปลายปี

ส่วนเดือนเดียวกัน ทอม เบรดี้ ควอเตอร์แบ๊กมือทอง และ บิล เบลิชิก ยอดหัวหน้าโค้ช พา “นิวอิงแลนด์ แพ็ตทริออตส์” จากตามก้นแอตแลนต้า ฟอลคอนส์ ศึกซูเปอร์โบว์ล 3-28 แซงเป็นแชมป์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 34-28

จนเป็นการคัมแบ๊กสกอร์ห่างสุดในเกมชิงดำชนคน และต่อเวลาครั้งแรก

 

กระโดดทีเดียวไปในเดือนกรกฎาคม เมื่อจู่ๆ มีข่าวลือว่าปารีส แซงต์แชร์แมง จะซื้อ “เนย์มาร์” จากบาร์เซโลน่า ซึ่งมีค่าฉีกสัญญาถึง 222 ล้านยูโร และกลายเป็นข่าวชัวร์ไม่มั่วนิ่ม ทันทีที่ดาวเตะทีมชาติบราซิลกล้าเป็นกบฏ นำเงินสถิติโลกก้อนดังกล่าวจากปารีส มาซื้อสัญญาตัวเองกับบาร์ซ่าต้นเดือนถัดมา

เดือนสิงหาคม คอวิ่งต้องช็อกไปตามๆ กัน เพราะใครจะไปกล้าคิดว่า เจ้าของสถิติโลก 100, 200 และ 4×100 เมตรชายนาม “ยูเซน โบลต์” ดีกรี 11 เหรียญทองกรีฑาชิงแชมป์โลก และ 8 เหรียญทองโอลิมปิก จะอำลาลู่ชนิดเสียผู้เสียคน ด้วยการไร้เหรียญทองศึกชิงแชมป์โลก โดยเฉพาะร้อยเมตรของถนัด กลับหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้แค่ที่ 3 และ 4×100 ไม่ได้ทั้งเหรียญ ไม่ได้เข้าเส้นชัย เนื่องจากเจ็บระหว่างวิ่งไม้สุดท้าย ตามสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

จากนั้นปลายเดือน เป็นมวยปาหี่แต่คนดูตามเป็นล้าน หลัง “ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์” ซึ่งแขวนนวมไปแล้ว ยอมขึ้นสังเวียนผ้าใบ ทว่าเป็นการชกคนไม่เป็นมวย “คอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์” นักต่อสู้กรงเหล็ก (อัลติเมต ไฟติ้ง) ในกติการมวยสากล ผลก็อย่างที่คาด

แต่ที่เกินคาดคือการเห็นมวยดักต่อยมาทั้งชีวิตอย่างฟลอยด์ เดินหน้าไล่ชกจนน็อกทีเคโอยก 10 รับเหนาะๆ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีกร้อยล้านสำหรับแม็กเกรเกอร์

 

ข้ามไปเดือนตุลาคม หรือเดือนที่เกือบทำให้ “บาร์เซโลน่า” ต้องหลุดจากวงจรลูกหนังสเปน ต้นเหตุเกิดจากการที่ทีมหนุนแคว้นกาตาลุญญามาตลอด ถึงกับอึ้งเมื่อผู้นำแคว้นประกาศเอกราชจากสเปน และบาร์ซ่าจะหมดสิทธิเตะทุกรายการในฟุตบอลแดนกระทิงดุ โชคดีที่การแยกดินแดนไม่สำเร็จ เพราะรัฐบาลสเปนเอาจริงส่งทหารระงับเหตุทันเวลา

ถัดมาพฤศจิกายน คนอิตาลีต้องจ๋อยกันทั้งประเทศ ส่วนแฟนบอลทั่วโลกก็กร่อยไม่แพ้กัน กับการที่ “ทีมชาติอิตาลี” ไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ซึ่งเสียท่าตกรอบคัดเลือกโซนยุโรปรอบเพลย์ออฟต่อสวีเดน ส่งผลให้แชมป์ 4 สมัยปลดโค้ชเฒ่า จาน เปียโร่ เวนตูร่า และคนที่เลือกโค้ชเข้ามาอย่าง คาร์โล ทาเว็กคิโอ้ สังเวยเก้าอี้ประธานสหพันธ์ลูกหนังอิตาลี

ยังอยู่ในเดือนพฤศจิกายน มีจุดจบที่ทั้งคนไทย และหลายประเทศ นั่งนับวันรอมานาน หลัง “ชิง กั๊วะ หวู” ประธานสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือไอบ้า ที่เคยโยงใยสกัดเหรียญทองขุนพลเสื้อกล้ามไทยในโอลิมปิก 2 ครั้งที่ผ่านมา และการตัดสินค้านสายตาหน้าด้านๆ ที่อีกหลายชาติโดน ยอมลงจากตำแหน่ง

เพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดีบริหารเงินองค์กรไม่โปร่งใส ของขั้วอำนาจตรงข้ามในไอบ้า ที่รวมหัวโหวตไล่ไม่กี่เดือนก่อน

 

ส่งท้ายด้วยเดือนธันวาคม และการครองบัลลังก์บัลลงดอร์ 2 ปีติด

แต่เป็นสมัย 5 ของ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้”

มากสุดตลอดกาล เท่าอีกหนึ่งยอดมนุษย์ ลิโอเนล เมสซี่

จากผลงานมหัศจรรย์นำรีล มาดริด เป็นทีมแรกป้องกันทั้งแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ พร้อมกับแชมป์ลาลีก้า สเปน รอบครึ่งทศวรรษ และรางวัลแข้งแห่งปีสถาบันฟีฟ่าหน 5

และนี่คือบทสรุป ย้อน 10 ข่าวเด่นกีฬาเทศ 2017