เน้นสร้างไม่ระห่ำซื้อ แนวทางใหม่ของ ‘เปแอสเช’

ปารีส แซงต์แชร์แมง กลายเป็นทีมมหาอำนาจของวงการฟุตบอลยุโรปอย่างชัดเจนหลังจากที่กาตาร์ สปอร์ต อิสเวสต์เมนต์ กลุ่มทุนจากกาตาร์เข้ามาครอบครองสโมสร นับตั้งแต่ปี 2011 มีนักเตะชื่อดังย้ายเข้า-ออกเป็นว่าเล่น กวาดแชมป์ในฝรั่งเศสเป็นว่าเล่น

แต่ในระดับทวีปแล้ว พวกเขายังไม่ได้แชมป์ถ้วยใดๆ เลยในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา

เปแอสเชได้แชมป์ลีกเอิง 9 สมัย เฟรนช์คัพ 6 สมัย นับตั้งแต่เปลี่ยนเจ้าของมาเป็นมหาเศรษฐีกาตาร์เมื่อปี 2011 ในแชมเปี้ยนส์ลีกก็สามารถเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ 11 ซีซั่นติดต่อกันแล้ว ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 1 ครั้ง คือ ฤดูกาลก่อน ที่แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีกลุ่มทุนจากกาตาร์เป็นเจ้าของเช่นกัน ทำให้ยังไม่ได้ถ้วยยุโรปหูโตมาครองเสียที

แต่การยังไม่ได้แชมป์ยุโรป ไม่ใช่ความล้มเหลวในสายตาของผู้บริหารสโมสร

 

มาร์ก อาร์มสตรอง หัวหน้าฝ่ายหารายได้ของเปแอสเช บอกว่า สโมสรฟุตบอลไม่จำเป็นต้องคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แล้วถึงจะเรียกได้ว่าเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จ

ถึงแม้ว่าเปแอสเชอยากจะได้แชมป์นี้ แต่ตอนนี้ประธานสโมสรอย่าง นัสเซอร์ อัล เคไลฟี่ ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ของสโมสรใหม่แล้วว่าไม่ได้เอาไปยึดโยงกับการเป็นแชมป์ยุโรป

ทีมเบอร์ 1 ของฝรั่งเศสในยุคนี้ทุ่มเงินมหาศาลซื้อตัวนักเตะชื่อดังมาร่วมทีมให้เห็นแล้ว ทั้ง คีเลียง เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์, ลิโอเนล เมสซี่ เหมือนเป็นการสร้าง “กาแลคติกอส” แบบเดียวกับที่รีล มาดริด เคยทำเอาไว้

แต่การมีทั้งเอ็มบัปเป้, เมสซี่, เนย์มาร์ ก็ยังไม่สามารถทำให้เปแอสเชก้าวไปเป็นแชมป์ยุโรปได้ เรียกได้ว่าเม็ดเงินที่ใช้ไปไม่ได้คืนผลงานกลับมาตามเป้าที่วางไว้

ซึ่งเมสซี่, เนย์มาร์ได้เดินออกจากทีมไปแล้ว และดูเหมือนว่าเอ็มบัปเป้กำลังจะไม่อยู่แล้วเช่นกัน

“ในแง่ของการตลาด ไม่มีนักเตะคนไหนที่จะใหญ่กว่าสโมสร สิ่งสำคัญที่สุดคือ แบรนด์กีฬาที่เราพยายามสร้างมันขึ้นมา ซึ่งก็มีนักเตะที่แข็งแกร่งมาและทีมที่ยอดเยี่ยมในสนามอยู่เสมอ สโมสรยังคงลงทุนทั้งในและนอกสนามอยู่ตลอด เพื่อสร้างให้สโมสรเติบโต” อาร์มสตรองกล่าว

 

แนวทางใหม่ที่เปแอสเชกำลังทำ ไม่ใช่การซื้อ ซื้อ และซื้อเหมือนที่ผ่านมา แต่จะสร้างนักเตะชั้นยอดขึ้นมาด้วยตัวเอง ถ้าย้อนกลับไปมองที่เอ็มบัปเป้ เขาเป็นชาวปารีเซียงโดยแท้ แต่ไปเติบโตโลกฟุตบอลกับโมนาโก หลังจากนั้นเปแอสเชต้องทุ่มเงินมหาศาล 165 ล้านปอนด์เพื่อซื้อตัวมาร่วมทีม

ดังนั้น การสร้างดาวรุ่งท้องถิ่นจากอคาเดมีให้เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในอนาคต จะทำให้สโมสรไม่ต้องทุ่มเม็ดเงินไปกับการซื้อบ้าระห่ำเหมือนที่ผ่านมา และนำเงินไปพัฒนาในด้านอื่นๆ ของสโมสรให้เติบโตไปพร้อมกัน

อีกเรื่องที่ผู้บริหารเปแอสเชกำลังพยายามทำ คือ การปรับปรุงปาร์ก เดส์ แปรงส์ สนามเหย้าให้ทันสมัยและมีความจุมากขึ้น เพราะความจุ 48,583 ที่นั่ง ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับแฟนบอลที่ต้องการเข้าไปเชียร์ทีมในแต่ละแมตช์ได้ แต่ก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาล และการต้องได้รับความร่วมมือจากคนในท้องถิ่นอีกมากมาย กว่าจะทำได้สำเร็จ

การเปลี่ยนแนวทางของเปแอสเชน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า เอ็มบัปเป้จะอยู่หรือไปหลังจบฤดูกาลนี้

แต่การไม่มีเอ็มบัปเป้ไม่ได้หมายความว่าทีมจะล่มสลาย พวกเขาเตรียมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญยุทธศาสตร์ใหม่นี้น่าจะสร้างให้เปแอสเชเติบโตอย่างแข็งแรง มีนักเตะเวิลด์คลาสที่มาจากอคาเดมีมากกว่าการทุ่มเงินซื้อมากขึ้น

เมื่อถึงเวลาที่ทุกองค์ประกอบเข้าที่เข้าทาง การก้าวไปถึงแชมป์ยุโรปก็จะเป็นรางวัลที่ยั่งยืนของสโมสรนี้แน่นอน •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]