กีฬา

บ๊ายบาย! อิชิอิ สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องไป

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 กันยายน 2566
คอลัมน์เขย่าสนาม
เผยแพร่

ตอนนี้โอกาสที่ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือลูกครึ่งบราซิเลี่ยน-เยอรมัน จะได้เดินนำลูกทีม “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ลงสนามในศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่จะพบกับ “นักเตะแดนมังกร” จีน แน่นอนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

เพราะล่าสุดคนที่ดูเหมือนจะเป็นขวากหนามอย่าง มาซาทาดะ อิชิอิ ที่จ่อรอเสียบในฐานะประธานเทคนิค ก็มีอันต้องระเห็จกลับญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย หลังโดน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยกเลิกสัญญา เมื่อคนจ่ายเงินเดือนบ๊ายบาย ตัวคนทำงานก็ต้องอำลาเช่นกัน

สถานการณ์ของอิชิอิ กับทีมชาติไทย เกิดขึ้นเพราะทีมปราสาทสายฟ้า ต้องการเปลี่ยนแปลงทีม พวกเขาไปดึง อาเธอร์ ปาปัส อดีตผู้ช่วยของ อังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ของ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน สมัยคว้าแชมป์เจลีกกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เข้ามาเสริม จากนั้นพอบอลเปิดฤดูกาล ภาพมันชัดเจนว่าคนสั่งการคือปาปัส ไม่ใช่อิชิอิอีกแล้ว

ทางบุรีรัมย์พยายามหาทางออกกับอิชิอิ หวยจึงมาออกที่ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แถลงร่วมกับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ อย่างใหญ่โตว่าจะส่งอิชิอิมาเป็นประธานเทคนิคให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพื่อเตรียมตัวสำหรับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2026 ที่จะเปิดฉากในเดือนพฤศจิกายน

ถ้าคนมองเป็นเรื่องธรรมดา มันก็เหมือนร่วมไม้ร่วมมือกันทำงาน

แต่ในสายตาคนฟุตบอล ที่ดูบอลไทยมาอย่างยาวนาน น่าจะพอทราบแนวทางนี้กันว่า มันเป็นการตั้งเพื่อรอเสียบเฮดโค้ชใหญ่ตัวจริงอย่างมาโน่ต่างหาก

 

ในความเป็นจริง มาโน่มีสัญญาอยู่จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจบ เอเชี่ยนคัพ รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ในปีหน้า ดังนั้น ถ้าหากจะเสียบแทนตำแหน่ง ถ้าไม่จ่ายค่าชดเชยแล้วปลดออก ก็ต้องให้ลาออกด้วยตัวเอง

ก่อนศึก ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 จะเริ่มต้นขึ้น ทุกคนมองเป็นอย่างเดียวกันว่านี่น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สั่งลาของมาโน่ ถ้าหากเขาไม่สามารถพาทีมเป็นแชมป์หรือเข้าชิงชนะเลิศได้ รับรองว่าต้องมีการลาออกแสดงความรับผิดชอบอย่างแน่นอน

ทว่าสถานการณ์กลับตาลปัตร เหมือนมาโน่ได้ยาแรง ทำให้เขาและทีมงานมีความมุ่งมั่นอย่างมากในคิงส์คัพครั้งนี้ และผลงานก็ออกมาดีเกินความคาดหมาย ทั้งการเอาชนะ เลบานอน ที่ไทยไม่ชนะมา 14 ปี ในรอบรองชนะเลิศได้

จากนั้นในรอบชิงชนะเลิศ ยังสู้กับ อิรัก ทีมอันดับ 7 ของเอเชีย ได้แบบสูสี จบด้วยการเสมอก่อนจะไปแพ้จุดโทษ ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น

แม้ว่าจะไม่ถึงแชมป์ แต่ผลงานในสนาม การวางแท็กติกต่างๆ ได้รับคำชมอย่างมาก ทำให้เก้าอี้ของเขากลับมาแข็งแรงดังเดิม

 

แผนการที่วางเอาไว้ มันเลยไม่เป็นไปตามแผน จากที่ส่งอิชิอินั่งประธานเทคนิคก่อน ยอมจ่ายเงินเดือนต่อไปก่อนอีกสักแป๊บ แล้วพอจบคิงส์คัพ ผลงานไม่ดี ให้มาโน่แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก จากนั้นก็ส่งอิชิอิมาเป็นโค้ชทีมชาติ มารับเงินเดือนจากสมาคมฟุตบอลฯ แทน ตัวพวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายค่ายกเลิกสัญญาหรือค่าเหนื่อยต่อไป บุรีรัมย์ได้เปลี่ยนโค้ชแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น

แต่สถานการณ์มันกลับกันแบบนี้ ครั้นจะปล่อยอิชิอินั่งประธานเทคนิคช้างศึกต่อ แล้วจ่ายเงินเดือนให้เหมือนเคย ก็ดูจะเป็นการเปลืองงบประมาณทีมมากเกินไปในยุคที่ต้องรัดเข็มขัดแบบนี้ สุดท้ายต้องจบด้วยการยกเลิกสัญญากับอิชิอิ ปล่อยให้กลับญี่ปุ่นไปแบบบอบช้ำทางจิตใจพอสมควร

บอบช้ำแค่ไหน การอัพสตอรี่ในอินสตาแกรมของเจ้าตัวหลังจากยกเลิกสัญญาก็น่าจะชัดเจนมากๆ  “ความซื่อสัตย์คือวิถีทางที่ดีที่สุด” เป็นการบ่งบอกชัดเจนว่าเขาได้รับความไม่เป็นธรรมพอสมควร

เพราะจากผลงานของเขานับตั้งแต่เข้ามาทำบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็พาทีมเป็นทริปเปิลแชมป์บอลไทย 2 ฤดูกาลติดกัน แบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

แต่ถ้าจะบอกว่าแค่นี้ไม่เพียงพอกับบอลถ้วยเอเชีย มันก็น่าจะรุนแรงเกินไป เพราะเขายังไม่ได้พิสูจน์ผลงานตัวเองเลย เนื่องจากตั้งแต่เขาเข้ามา บุรีรัมย์เพิ่งกำลังจะได้เล่นถ้วยเอเชียด้วยซ้ำ

ในขณะที่การผลักไสเขาไปอยู่กับทีมชาติไทย ก็เหมือนเขาเป็นส่วนเกิน ถึงจะเห็นภาพว่าเขาขยันขันแข็งทำงานให้กับทีม นั่งศึกษาข้อมูลของนักเตะทั้งไทยและคู่แข่ง แต่เราไม่เห็นภาพการทำงานร่วมกันกับมาโน่ หรือพูดคุยกับตัวนักเตะแต่อย่างใด

 

มุมมองของแฟนบอล เชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาของอิชิอิ ทุกคนอยากเห็นเขามานั่งเฮดโค้ชทีมชาติไทย นำทีมลงคัดบอลโลกอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคนเก่าอย่างมาโน่ ยังไม่เคยทำงานผิดพลาด ย้ำ! ไม่เคยผิดพลาด เพราะเขาทำได้ตามเป้าหมายทุกทัวร์นาเมนต์ ตั้งแต่แชมป์อาเซียน 2 สมัย, เข้ารอบสุดท้ายเอเชี่ยนคัพ ส่วนผลงานอุ่นเครื่อง ก็ไม่เคยแพ้แบบน่าเกลียดจนรับไม่ได้ขนาดนั้น ฉะนั้น เขาควรได้ทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเองต่อ

จริงๆ เส้นทางของทีมชาติไทยกับอิชิอิ อาจจะไม่ใช่เส้นขนานสักทีเดียว ตอนนี้อาจจะเป็นคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ชอบ (ธรรม) มันก็ต้องปล่อยเขาไปก่อน สุดท้ายถ้าจังหวะมันลงตัว เขาอาจจะได้กลับมาก็ได้

แต่บทสรุปเรื่องราวนี้ มันอาจจะสะท้อนไปยังบางคนว่า บางทีแผนการที่วางเอาไว้ มันอาจจะไม่เป็นไปตามแผนได้เสมอ จะทำอะไรก็ควรให้มันเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นบ้าง

อย่างน้อยก็เห็นแก่ใจคนที่พาทีมประสบความสำเร็จสักนิดก็ยังดี •

 

เขย่าสนาม | เด็กเก็บบอล

[email protected]