แค่คิดก็ผิดแล้ว! ไทยยกเลิกจัด ‘อินดอร์เกมส์’

แค่คิดก็ผิดแล้ว! ไทยยกเลิกจัด ‘อินดอร์เกมส์’

 

ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาตำหนิติเตียนการตัดสินใจของ คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน กับการขอยกเลิกการเป็นเจ้าภาพ เอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่กรุงเทพฯ-ชลบุรี ทั้งๆ ที่มันเหลือเวลาอีกไม่ 5 เดือน ก็จะเข้าสู่การแข่งขันแล้ว

โดยที่เหตุผลของการยกเลิกนั้นสุดแสนจะไร้สาระ เพราะอ้างว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะได้รัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ และมีความไม่แน่นอนต่างๆ จึงจะขอเลื่อนให้ ซาอุดีอาระเบีย เจ้าภาพต่อจากไทย เลื่อนมาจัดก่อน หรือไม่งั้นก็ยกเลิกไปเลย

เอ่อ… ข้อแรก ขอถามกลับแรงๆ เลยว่า ให้เวลาแค่ 5 เดือน ให้ซาอุฯ มาจัดก่อนไทย ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนคิดครับ ต่อให้มีเงินมากมายล้นฟ้า ก็ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ แล้วให้ออกมาสมบูรณ์แบบสมกับเป็นกีฬาระดับทวีปเลยนะครับ!

อันดับต่อมา ประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ มาตั้งแต่ปี 2021 แต่ก็เลื่อนมาเพราะตอนนั้นเป็นสถานการณ์ของ โควิด-19 ซึ่งพอเข้าใจได้

แต่ครั้งนี้จะมาเลื่อนอีกครั้งเพียงเพราะประธานบอร์ด กกท. แพ้ในการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศ มันเป็นเหตุผลที่โคตรจะไร้สาระสุดๆ

ทั้งๆ ที่เรามักจะพูดกันมาเสมอว่า ไม่อยากให้นำเอาเรื่องของการเมืองมามีอิทธิพลเหนือวงการกีฬา แต่ครั้งนี้กลับเอาเรื่องของการเมืองมาก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ไม่ใช่แค่วงการกีฬา แต่มันยังส่งผลถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการจัดงานสเกลใหญ่ระดับเอเชียแบบนี้อีกด้วย

 

“บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ที่ประชุมบอร์ด กกท.แสดงความกังวลในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จึงเห็นว่าควรจะเลื่อนไปก่อน แต่สุดท้ายยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ต้องหารือกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หรือโอซีเอ ซึ่งเป็นคู่สัญญา ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร เพราะไทยไม่สามารถกำหนดเองได้ทั้งหมด ต้องมีการตกลงร่วมกัน

“นี่เป็นเพียงความกังวล และแนวคิด ยังไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เราคงต้องมาหารือกับโอซีเออีกครั้งว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งเหตุผลของเราเป็นเหตุผลทางการเมือง และต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วยว่าหากยกเลิกจะกระทบถึงความเชื่อมั่นต่างๆ และต้องชดเชยอย่างไรให้กับชาติอื่นๆ ที่เตรียมความพร้อมไปแล้ว ก่อนจะนำมาชั่งน้ำหนักหาความเหมาะสม หากจัดต่อก็ต้องเร่งมือทั้งเรื่องเตรียมการ และงบประมาณที่ต้องเสนอ หรือหากเลื่อน หรือยกเลิก ก็ต้องรีบแจ้งให้ชาติอื่นๆ รับทราบ” ดร.ก้องศักดกล่าว

ด้าน “เสธ.”โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ออกมาจวกหนักถึงการตัดสินใจเยี่ยงนี้ เพราะมันมีแต่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย เพราะประเทศไทยมีเวลาในการเตรียมตัวยาวนานมาก แต่ไม่ยอมทำ จนพอใกล้แข่งขันยังไม่เรียบร้อยก็หาเรื่องยกเลิก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไทยก็เคยจัดกีฬาในช่วงเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลมาเยอะ ไม่เคยมีปัญหา

“อย่าอ้างเรื่องการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลจะต้องเข้ามาดำเนินการสิ่งที่ไทยได้ทำเอาไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา เนื่องจากมีข้อตกลง มีสัญญากันไว้อยู่แล้ว หากกรณีเลิกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของค่าปรับ เพราะต้องหาคนรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเงินหลวง”

เสธ.โตจวกอย่างหนัก

 

ถามว่าทางออกของเรื่องนี้สามารถทำได้หรือไม่ เอาจริงๆ มันก็มีทางออกได้หลายทาง และเป็นทางออกที่ดีกว่าการไปขายขี้หน้าชาวประชาชี ด้วยการขอยกเลิกด้วยเหตุผลงี่เง่าแบบนี้ด้วย

วิธีแก้ไขง่ายๆ อย่างเช่น การขอใช้งบประมาณกลาง ซึ่งตามอำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรี สามารถเซ็นอนุมัติได้ แล้วนี่เป็นเรื่องหน้าตาของประเทศ ในการจัดการแข่งขันกีฬา ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในการของบประมาณมาใช้ได้ หรือจะเบิกจากงบประมาณประจำปีของการกีฬาแห่งประเทศไทย มาใช้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งเงินที่จะหามาได้ เพื่อจัดการแข่งขันให้ลุล่วงไป

อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าบรรดาคีย์แมนวงการกีฬาทั้งหลายที่นั่งอยู่ในห้องประชุม ได้ลองหาทางออกกันหรือยัง ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรแบบนี้ออกมา

หรือมองเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าเรื่องของประเทศชาติ

หรือต้องการจะกลั่นแกล้งรัฐบาลชุดใหม่ให้เสียชื่อเสียง จึงเลือกอะไรที่มันเป็นการทำร้ายประเทศไทยแบบนี้

 

ประเทศไทยให้ความสำคัญเรื่องของการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาโดยตลอด เพราะว่ามันไม่ได้แค่มีเรื่องของการกีฬา แต่มันยังต่อเนื่องถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย และเงินที่จะสะพัดในช่วงแข่งขัน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเหลือคณานับ แต่ทว่า ครั้งนี้กลับยอมยกธงขาวง่ายๆ

นอกจากนี้เองหลายชนิดกีฬามีการเตรียมตัวสำหรับการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ เอาไว้เป็นอย่างดี ทั้งการเตรียมนักกีฬาหรือสนามแข่งขันเองก็ตาม อย่างเช่น สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย ที่ลงทุนกว่า 3 ล้านบาท ในการปรับปรุงสนามแข่งขันใหม่ เพื่อใช้สำหรับการแข่งขัน แต่กลับจะไม่ได้ใช้งานซะอย่างงั้น

เห็นได้ชัดว่าทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบกันหมดจากการตัดสินใจแบบไร้เหตุผลของเหล่าคีย์แมนวงการกีฬาไทยทั้งสิ้น

สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากย้ำถึงทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คืออย่าเอาประเทศชาติมาเป็นตัวประกันในด้านการเมือง เพราะว่าชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นของทุกคน แล้วก็ไม่ใช่ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

ยิ่งจะไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้ว อย่าทำเรื่องให้โดนประชาชนก่นด่าไปมากกว่านี้เลย

ถือว่าขอละกันนะ •

 

เขย่าสนาม | เด็กเก็บบอล

[email protected]